ดีเดย์ 2 ธ.ค. 68 ! ธปท.คุมเข้มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และลิสซิ่ง สรุป 10 สิทธิใหม่
วันนี้ (2 ธ.ค. 2568) ถือเป็น "ดีเดย์" ครั้งสำคัญ ของวงการเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพราะนับเป็นการเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี! ตามที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 54/2568 ลงนามโดย “วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจทางการเงินอย่างเต็มตัว โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นั่นหมายความว่า ธุรกิจเช่าซื้อทุกแห่งจะถูกยกระดับให้เป็น "ธุรกิจทางการเงิน" และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. อย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551
โดยการเปลี่ยนมือผู้คุมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนหน่วยงาน แต่คือสัญญาณของการ ปรับโครงสร้างดอกเบี้ย และการกำหนดมาตรฐานการให้บริการครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือ แล้วคนที่มีภาระผ่อนรถอยู่ หรือกำลังจะเช่าซื้อรถใหม่ จะได้รับประโยชน์และสิทธิคุ้มครองที่เข้มข้นขึ้นจากประกาศใหม่นี้อย่างไรบ้าง สรุปให้ดังนี้
10 ประโยชน์และสิทธิคุ้มครองใหม่ สำหรับคนเช่าซื้อรถ ภายใต้การกำกับของ ธปท.
1.เปลี่ยนผู้กำกับ : ธุรกิจเช่าซื้อได้ถูกยกระดับมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยตรง จากเดิมที่อิงกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคทั่วไป ทำให้การกำกับดูแลมีความเข้มข้นและเป็นมาตรฐานด้านการเงินมากขึ้น
2.มาตรฐานกฎหมายที่สูงขึ้น: การอยู่ใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ทำให้บริษัทลิสซิ่งต้องปฏิบัติตาม มาตรฐานความมั่นคงทางการเงิน เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งลดความเสี่ยงที่บริษัทจะประสบปัญหาและกระทบต่อลูกค้า
3.คาดหวังดอกเบี้ยที่เป็นธรรม: ธปท. มีอำนาจเต็มในการพิจารณาและ กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ ที่เหมาะสมกับภาวะตลาด ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภคมากกว่าเดิม
4.สัญญาที่โปร่งใสและเป็นธรรม: สัญญาเช่าซื้อจะต้องมีความชัดเจนและเป็นไปตาม มาตรฐานความเป็นธรรมทางการเงิน ของ ธปท. ซึ่งจะช่วยลดข้อความกำกวมหรือเงื่อนไขที่เอาเปรียบผู้บริโภค
5.กลไกร้องเรียนที่รวดเร็ว: ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนปัญหาที่เกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ของ ธปท. โดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางเฉพาะที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการปัญหาทางการเงิน
6.สิทธิในการปิดบัญชีที่ชัดเจน: ข้อกำหนดเกี่ยวกับการ ไถ่ถอนหรือปิดบัญชีก่อนกำหนด จะถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และผู้เช่าซื้อจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระอย่างชัดเจนตามหลักเกณฑ์ของ ธปท.
7.การกำกับดูแลการทวงถามหนี้: ธปท. จะเข้ามามีบทบาทในการควบคุมและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่รัดกุมและ เป็นธรรมในการทวงถามหนี้ เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากบริษัท
8.การเปิดเผยข้อมูลต้นทุนทั้งหมด: บริษัทลิสซิ่งจะถูกบังคับให้ เปิดเผยค่าธรรมเนียมและต้นทุนทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้ออย่างละเอียดและชัดเจน ตามมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจการเงิน
9.ส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้: บริษัทลิสซิ่งจะถูกกระตุ้นหรือกำหนดให้มี ช่องทางและความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือและปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่มีปัญหาทางการเงิน ตามแนวทางของสถาบันการเงิน
10.เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นคง: การที่ธุรกิจลิสซิ่งถูกจัดเป็น "ธุรกิจทางการเงิน" จะช่วย สร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับผู้ประกอบการ และส่งผลดีต่อเสถียรภาพของระบบสินเชื่อรถยนต์โดยรวมในระยะยาว

ขอบคุณที่มาจาก
Thairath Money
2 ธ.ค. 68 ธปท.คุมเข้มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และลิสซิ่ง
วันนี้ (2 ธ.ค. 2568) ถือเป็น "ดีเดย์" ครั้งสำคัญ ของวงการเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพราะนับเป็นการเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี! ตามที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 54/2568 ลงนามโดย “วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจทางการเงินอย่างเต็มตัว โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นั่นหมายความว่า ธุรกิจเช่าซื้อทุกแห่งจะถูกยกระดับให้เป็น "ธุรกิจทางการเงิน" และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. อย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551
โดยการเปลี่ยนมือผู้คุมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนหน่วยงาน แต่คือสัญญาณของการ ปรับโครงสร้างดอกเบี้ย และการกำหนดมาตรฐานการให้บริการครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือ แล้วคนที่มีภาระผ่อนรถอยู่ หรือกำลังจะเช่าซื้อรถใหม่ จะได้รับประโยชน์และสิทธิคุ้มครองที่เข้มข้นขึ้นจากประกาศใหม่นี้อย่างไรบ้าง สรุปให้ดังนี้
10 ประโยชน์และสิทธิคุ้มครองใหม่ สำหรับคนเช่าซื้อรถ ภายใต้การกำกับของ ธปท.
ขอบคุณที่มาจาก Thairath Money