พาสปอร์ตญี่ปุ่น “เปิดโลกได้กว้างที่สุด” แต่คนญี่ปุ่นกลับเลือก “อยู่ในโลกของตัวเองมากที่สุด”

🇯🇵 พาสปอร์ตญี่ปุ่นโคตรทรงพลัง แต่คนญี่ปุ่นกลับไม่ค่อยเที่ยวต่างประเทศ ทำให้มันกลายเป็นประเด็นไวรัล เพราะทั้งโลกมองว่า ญี่ปุ่นกำลัง “ปิดประเทศแบบนิ่มๆ” โดยไม่ตั้งใจ
ทั้งจากค่านิยมสังคม และคนรุ่นใหม่ไม่สนใจออกนอกประเทศ

ญี่ปุ่นคือประเทศที่มีพาสปอร์ต ติดอันดับ Top 1–3 ของโลก มาหลายปีเข้าฟรีได้มากกว่า 190 ประเทศ แบบไม่ต้องขอวีซ่า
แต่สิ่งที่โลกงงที่สุดคือ คนญี่ปุ่น “ไม่ค่อยใช้” พาสปอร์ตที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก

ตัวเลขนี้พีคมากจนกลายเป็นไวรัลคือ

🇯🇵 ญี่ปุ่น: มี 124 ล้านคน แต่เดินทางต่างประเทศเพียง 10 ล้านคน/ปี เท่านั้น คิดเป็นแค่ 8% ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้มี 51 ล้านคน แต่เดินทางต่างประเทศกว่า 25 ล้านคน/ปี คิดเป็น เกือบ 50% ของประชากร

เทียบกันแล้ว คนเกาหลี “บินออกนอกประเทศ” มากกว่าคนญี่ปุ่น เกือบ 6 เท่า เมื่อคิดตามสัดส่วนประชากร!

เหตุผลที่คนญี่ปุ่นไม่นิยมการท่องเที่ยวต่างประเทศ:

1. คนญี่ปุ่นชอบเที่ยวในประเทศมากกว่า เพราะญี่ปุ่นมีครบทุกฤดู ทุกแลนด์มาร์ก อาหารดี เดินทางสะดวก หลายคนมองว่า เที่ยวในประเทศ = คุ้มกว่า สบายกว่า ไม่เครียด

2. วัฒนธรรมงานญี่ปุ่น: ลางานยาวๆ = แทบเป็นไปไม่ได้
ญี่ปุ่นลาพักร้อนน้อยและใช้จริงยิ่งน้อยกว่า เที่ยวไกลๆ จึงแทบไม่เกิดขึ้น

3. คนรุ่นใหม่ญี่ปุ่น (Gen Z) คือเจนเนอเรชันที่ไม่ค่อยออกนอกบ้าน พวกเขาใช้ชีวิตกับงานอดิเรก เกม แฟชั่น อนิเมะ
ไม่จำเป็นต้องออกต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ

หลายคนคิดว่าเพราะเงินเยนอ่อนค่าหนักหรือไม่ หากดูตัวเลขก่อนเงินเยนอ่อนค่าหลังโควิด-19 โดยใช้ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 20 ปี 2000-2019 คนญี่ปุ่นก็เที่ยวต่างประเทศเพียง 16 ล้านคนต่อปี หรือ 13% ของประชากร เท่านั้น ในขณะที่เกาหลีใต้เที่ยวต่างประเทศกันครึ่งประเทศ เมื่อดูสถิติแล้วจึงตัดประเด็นค่าเงินออกไปเพราะมีนัยสำคัญน้อย

สรุปได้ว่า พาสปอร์ตญี่ปุ่น “เปิดโลกได้กว้างที่สุด” แต่คนญี่ปุ่นกลับเลือก “อยู่ในโลกของตัวเองมากที่สุด” เป็นความย้อนแย้งที่ทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์รวมกันจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
CR https://www.facebook.com/share/1CiEphKCBv/?mibextid=wwXIfr

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่