อยากเล่าระบาย เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามระหว่างไทย-กำปูชา เผื่อว่าเราจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดอีกค่ะ
ช่วงนั้นเกิดสงครามระหว่างไทย-กำปูชา แล้วแม่แฟนโทรไปชวนญาตินับ 10 กว่าคนมาอยู่บ้านเรา โดยไม่ถามเราเลย อันนี้เฉพาะญาติเป็นญาติที่สนิทของเค้าไม่รวมญาติห่าง ๆ ที่เค้าชวนมาอยู่ด้วยนะคะ อันนั้นมา 2 คันรถแต่พวกเขาไม่ได้อยู่ มาเห็นบ้านก็คงเกรงใจ คือบ้านเราเป็นชั้นเดียว มีห้องแค่ 3 ห้อง แต่ห้องคนนอนมี 2 ห้อง อีกห้องเป็นห้องแมว ห้องน้ำ 1 แต่แฟนมาพูดให้เรารู้สึกไม่โอเคมากคือแฟนพูดว่าถ้ามีญาติมาอยู่ด้วยเยอะ ๆ อย่ามาทะเลาะกันนะอายเขา แทนที่เราจะได้ยินคำถามจากแฟนว่าเราโอเคไหม เธอโอเคไหมถ้าญาติจะมาอยู่ด้วยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับมาพูดแบบนี้ ซึ่งเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ชอบความวุ่นวายและเราเจ้าระเบียบมาก ไม่ชอบบ้านรก ไม่ชอบเห็นใครมาทิ้งของเรี่ยราดภายในบ้านหรือแม้แต่บริเวณรอบ ๆ บ้าน แถมแม่แฟนยังมาพูดว่า "ถ้าคนมาเยอะ ๆ แล้วให้หนูปล่อยแมวหนูนะ" เราแบบห๊ะในใจ นั่นห้องแมวเรา เราทำให้แมวอยู่นะ ปล่อยออกไปหมาก็กัดแมวเราสิ ถามเราที่เป็นเจ้าของบ้านบ้างไหม เพราะนี่ไม่ใช่บ้านที่เป็นมรดกมาจากเค้า แต่เป็นบ้านเราที่กับแฟนเก็บเงินสร้างเอง (เราสองคนไม่ได้แต่งงาน แต่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว) อันนี้เราไม่ได้ใจดำนะคะ แต่ที่ที่เค้าให้พักสำหรับคนที่อพยพก็มีค่ะ แต่ทำไมถึงเลือกมาอยู่บ้านเรา? บ้านชั้นทรงจากัวร์เดียว ห้องน้ำก็มีห้องเดียว เข้าทีส้วมเต็ม แล้วญาติใกล้ชิดแม่แฟนแต่ละคน ขี้เหล้าหมด เมาแล้วเสียงดังโวยวาย(ซึ่งลูกเราพึ่งเกิดด้วย แล้วหลับยากมาก) พอมีคนมาเสียงดังยิ่งไม่หลับ แล้วยายของแฟนแกแก่แล้วเดินไม่ค่อยไหว เราเข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้าไปอยู่วัดห้องน้ำก็ไกล แต่คนขี้เหล้าเอามาทำไม คือแม่แฟนรู้จักนิสัยเราดีว่าเราไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบเสียงดัง แต่เลือกที่จะเอามาอยู่ด้วยโดยไม่ถามเราสักคำ แล้วประเด็นคือแฟนไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเราเลย มีแต่บอกให้อดทน แต่กลับไม่นึกถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ญาติมาอยู่สองอาทิตย์ ค่าน้ำไฟพุ่ง แก๊สเปลือง ณ ตอนนั้นคือเราเครียดจนทำงานไม่ได้ เราห่วงลูกเพราะลูกนอนไม่เคยเต็มอิ่ม พอจะหลับก็มีคนมาเสียงดัง เราทะเลาะกับแฟนทุกวันเพราะเรื่องนี้ ใช้เครื่องซักผ้าทุกวัน ซักทุกวันจริง ๆ วันละ 3-4 คน กลัวเครื่องพังเพราะใช้ทียัดเสื้อผ้าใส่จนล้น แล้วหลาน 2 คนเป็นผู้หญิงก็นิสัยเหมือนเค้าเลย ไม่เคยจับไม้กวาด บ้านรกไม่สนใจ ทั้งที่เจ้าตัวกินแล้วไม่เคยเก็บทิ้ง เราต้องเก็บตาม ตาของแฟนแล้วก็น้าแฟนขี้เหล้ามาก ไปอยู่วัดไหนเขาก็ไม่เอา เพราะเมาแล้วอาละวาดจนคนเอือมระอา มาอยู่บ้านเรา เราก็ไม่โอเคค่ะ เราบอกว่าแฟนจะให้ไปอยู่ที่ไหนก็ไป เพราะถ้าอยู่ที่นี่บ้านแตกแน่นอน เมาส่งเสียงดัง มาทะเลาะขู่จะฆ่าคนนั้นคนนี้ ส่วนน้าแฟนก็ทะเลาะกับคนในวัดจนตำรวจพามาส่งที่บ้านเรา เราบอกให้แฟนไล่หนี ขนาดลูกในไส้เค้ายังไม่เอาเลย แล้วคิดว่าเราจะโอเคเหรอคะ จะว่าเราใจดำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเราไม่จัดการปัญหาจะยิ่งหนักกว่านี้ ลูกยังเล็กมาก ต้องมาได้ยินอะไรก็ไม่รู้ ปกติลูกเราไม่เคยร้องงอแงเลยค่ะ แต่เหตุการณ์นี้เราสงสารลูกมากค่ะ ถ้าเราไม่ปกป้องตัวเอง ไม่ปกป้องลูก ใครจะมาปกป้องเรา เพราะแฟนพูดอะไรแม่เค้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่พูดแฟนก็ไม่ทำอะไรเลย
1.เราบอกให้แฟนไล่ตาเค้าหนีเพราะอยู่ก็มีแต่สร้างปัญหาให้ลูกหลาน มาสูบบุหรีลมควันลูกเรา เราบอกว่าให้ไปบอกตาหน่อยว่าไปสูบบุหรีไกล ๆ บ้าน มันไม่ดีต่อลูก แฟนตอบมาว่าเดียวปิดประตูเอา เราปรี้ดอีกเลยด่าไป "ไอ้โง่ นั่นลูกนะ ไม่รู้จักจัดปัญหาเหรอ แก้ไม่ถูกวิธี แทนที่จะบอกให้ไปสูบที่อื่น พูดดิ ลูกยังเล็ก มาสูบในบริเวณบ้านไม่ได้ พูดดิ ปากก็มี ห่วงคนอื่น แต่ไม่ห่วงกูกับลูก?" อันนี้เราด่าต่อหน้าแม่เค้าเลย และหลานสาวอีก 2 คน เพราะเราทนไม่ไหว พออยู่กันสองคน เราบอกแฟนว่าไปบอกให้ตาไปอยู่อื่น วัดมีตั้งหลายที่ แฟนตอบมาว่าไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่เอาแกแล้วเธอ แต่พยายามบอกให้ไปอยู่วัดอื่นดู
2.เค้าก็ไปบอกนะคะแต่แกไม่อยากไปเพราะเมียแกอยู่บ้านเรา ซึ่งก็คือยายที่เล่าในตอนต้นค่ะ แต่สุดท้ายแกก็ไป แต่ก็ไป ๆ มา ๆ สร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น เพราะยายยังอยู่ พอหมดปัญหากับตาไปแล้ว น้าแฟนก็มาสร้างปัญหาอีก ชอบมาสูบบุหรีในบริเวณใกล้บ้าน กินเหล้าเมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเอามือสกปรกมาจับลูกเรา ซึ่งก็มีแต่เราที่เป็นคนบอก เพราะถ้าแม่ไม่ปกป้องลูกใครจะมาปกป้อง? ณ ตรงนั้นแม่แฟนเค้าก็ดูไม่ค่อยชอบนะคะที่น้องสาวเค้าและพ่อเค้ามาสร้างปัญหาให้เรา แต่เค้าก็จัดการไม่ได้อยู่ดี อันนี้เราเข้าใจว่ามันตัดสินใจยาก เพราะนั่นก็พ่อนี่ก็น้องสาว แต่เรื่องที่เราขอ เรื่องการอยู่ในบ้านเรา ช่วยเคารพเราหน่อย ขอแค่เรื่อง ความเรียบร้อยภายในบ้าน สูบบุหรี่ เสียงดัง เมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเปิดเพลงดัง เรื่องแค่นี้กลับทำให้เราไม่ได้ แต่กลับคิดว่าเราไม่ได้ต้อนรับญาติเขา...
3. เหตุการณ์วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ อพยพมาแทนที่จะอยู่กันอย่างเงียบ ๆ แต่ยังมานั่งกินเลี้ยงกันสบายใจ จะตั้งวงเล่นไพ่แต่เราไม่โอเคเค้าก็เลยไม่ได้เล่นกัน แล้วแม่แฟนคือตั้งแต่พาญาติมาอยู่ด้วยคือไม่สนใจหลานเลย แล้วเราพึ่งคลอดลูกยังกินอะไรไม่ได้มากเพราะกลัวผิดกรรม เค้าไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เรากิน ไหนเราจะต้องทำงาน ดูลูก แทนที่เอาคนมาอยู่เยอะ ๆ จะคิดให้มากกว่านี้หน่อยกลับไม่เลย ถ้าเราไม่พูดไม่บ่นยิ่งเหลิง แฟนคือตัวดี ไม่เคยเข้าใจเราเลย เอาแต่พูดให้เราเข้าใจคนอื่น แต่เค้าเองกลับไม่เคยเข้าใจอะไรเราเลย ตอนแม่เค้ามาอยู่ด้วยก่อนที่เราจะคลอดเราไม่ได้ว่าอะไรเพราะเค้าบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงลูกให้ ถามว่าเราโอเคไหมที่แม่แฟนมาอยู่ด้วยก็ไม่ค่ะแต่คิดว่าอยู่ ๆ ไปก่อน พออยู่ไม่ถึงเดือนเท่านั้นแหละ งานบ้านไม่ช่วยทำ แต่ขยันทำรก ไม้กวาดไม่เคยจับ วางของไม่เป็นที่ อยากวางตรงไหนก็วาง เช่น มีด ทัพพี ตาหลิว แม้แต่ถ้วยจาน ผมเผ้าหวีร่วงเต็มพื้นไม่เคยเก็บ ตลอดเวลาที่เค้าเข้ามาเราลำบากใจมากค่ะ หลัก ๆ คือเรื่องความเรียบร้อย ไม่ได้ทำงานก็ช่วยเราหลัก ๆ เรื่องรักษาความสะอาดภายในบ้านก็ยังดี แต่นี่หาความสะอาด หาความเรียบร้อยไม่มี
4. เวลาเราพูดเรื่องนี้กับแฟนที่ไร เค้ามักจะพูดว่าตอนเธอนอนอยู่โรงบาลตอนคลอดลูกก็แม่เป็นคนดูแล แม่เลี้ยงลูกให้ ไม่ดีเหรอมีคนเลี้ยงลูกให้ เราเลยสวนกลับว่า เธอเห็นมากน้อยแค่เรื่องแม่เลี้ยงลูกให้ ยิ่งพอมีญาติ ๆ มาอยู่ เลี้ยงแบบปล่อยเบลอมาก ทิ้งให้เราเลี้ยงทั้งรู้ว่าเราต้องทำงาน นั่งพิมพ์งานในคอมพิวเตอร์ (เราเขียนนิยายออนไลน์ลงขายกับเว็บดัง) ซึ่งมันต้องใช้สมาธิในการเขียน ย้ายมาอยู่ด้วยเงินก็ให้ใช้ กับข้าวแทบจะไม่ต้องซื้อเลย แต่แม่แฟนมีข้อเสียหลายอย่างที่เราไม่โอเคมาก ๆ เช่น ลูกชายคนโตสูบบุหรี่ลมควันลูกเราเค้าก็ไม่ตักเตือน ไม่มีความเรียบร้อย งานบ้านไม่เคยทำ ของใช้ส่วนตัวก็ทิ้งเรี่ยราด จนเราเอือมระอา และเหนื่อยใจ เรื่องเค้าไม่ได้ทำงานเราไม่ว่าเลย แต่มาอยู่ช่วย ๆ เรื่องงานบ้านก็ยังดี ช่วยแบ่งเบากันไป เหนื่อยตรงที่เวลาพูดอะไรแฟนทวงบุญ เช่น แม่เค้าดูแลเราตอนคลอด ตอนเราป่วย คอยเลี้ยงลูกให้ ไปไหนมาไหนก็รถเค้า รถแม่ก็จริงแต่เงินค่าน้ำมันเติมทีเป็นพัน ๆ ก็เงินเราหมด เงินใช้จ่ายแต่ละวันก็เงินเราทั้งนั้น ทั้งกินเที่ยว ปกติเราจะเป็นคนที่ไม่ทวงบุญคุณอะไรใคร ถ้าอะไรที่เราให้ เติมคือใจให้ เราจะไม่พูดถึงเลย แต่แฟนชอบพูดเรื่องบุญคุณกับเราก่อนเสมอ เราก็ทวงกลับบ้าง และแม่แฟนชอบเรียกร้อง แบบกดดันมาก ๆ แบบฉันต้องได้นะ เช่น เงินเราออก แม่จะยืมก่อน 40kไปลงทุนปลูกมัน ขายได้จะคืนให้ซึ่งเราไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่ เราทะเลาะกับแฟนหนักเลยเรื่องนี้ เพราะเราไม่อยากให้คิดแล้วคิดอีก เพราะที่ยืมไปทีละพันสองพันบอกจะคืนก็ไม่เคยคืน เราก็ไม่เคยทวงด้วย เห็นว่าเราให้ก็เอาแต่ใจ สุดท้ายเงิน 40k เราก็ไม่ได้ให้ยืมเพราะจะซื้อรถใหม่ ไม่อยากพึ่งรถเค้าแล้วและอยากเก็บไว้ให้ลูก
5. แม่แฟนรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินแต่ชอบเที่ยว วัน ๆ พูดแต่เรื่องเที่ยว เพราะไปไหนก็มีแต่เรากับแฟนเป็นคนออก แล้วชอบมาพูดว่าใช้เงินเปลืองเพราะเราเลี้ยงแมวเยอะ (เราเลี้ยงแมว 10 ตัว) อันนี้คือเราเคืองมากเพราะเราเลี้ยงของเรามาตั้ง 5-6 ปีและใช้เงินตัวเองจะมาเดือดร้อนอะไรกับเรา และเค้าก็ชอบเอาไปพูดญาติ ๆ เค้าเรื่องแมวเราว่าสิ้นเปลืองเพราะเลี้ยงแมว วันนั้นอามาหาก็มาบ่น ๆ เรื่องแมวเรา พูดทำนองว่าถ้าไม่ได้เลี้ยงก็ไม่ใช้จ่ายเงินเยอะขนาดนี้ เราเลยตอบว่าไม่ได้เปลืองเพราะแมวนะ ซื้ออาหารคือซื้อแค่ครั้งเดียวอยู่ได้เป็นเดือน และใช้งบไปแค่ 2,000-3000 บาท จากที่เคยใช้งบซื้อเดือนหนึ่ง 4,000-5,000 บาท ซึ่งมันไม่เท่าของคนเลยนะ คนน่ะซื้อกินทุกวัน แล้วคนในบ้านมี 5 คน ซึ่งมีแค่เรากับแฟนที่ทำงาน พี่แฟนกับแม่และผัวใหม่เค้าไม่ได้อะไร มีแค่ปลูกผักปลูกแตง ปลูกมันขาย ขายได้ก็เข้ากระเป๋าตัวเองหมด ไม่เคยควักมาซื้อกับข้าว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีเลย ที่ผ่านมาเราพยายามมองข้าม ก่อนหน้าพี่แฟนทำงานอยู่กรุงเทพอยู่ดี ๆ แม่ก็โทรไปชวนมาอยู่ด้วย เราลำบากใจและอึดอัดเป็นสองเท่า
6. ทั้งหมดทั้งมวลคือเราและแฟนไม่ได้ชวนใครมาอยู่ด้วยเลย แม่ก็มาเอง แต่จะให้ไล่ไปตั้งแต่แรกเลยมันก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่นัก เลยอยากดู ๆ ไปก่อน ปรากฏยิ่งอยู่ยิ่งแย่ และสภาพจิตใจเราแย่มาก ทั้งกดดันทั้งอึดอัดเพราะมันพูดไม่ได้ พูดผ่านแฟนแทนที่จะได้รับการรับฟังที่ดีกลับแย่กว่าเดิม เดิมทีแต่ก่อนแม่แฟนเค้าจะไปพักกับเราและแฟนที่กทม.เดือน 2-3 ครั้ง ก็ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้ พอได้มาอยู่กับเราจริง ๆ คือรับไม่ได้เลย เราผู้ผ่านครอบครัวตัวเองมาแล้วเป็นครอบครัวใหญ่กว่านี้อีก แต่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความสะอาดภายในบ้านเลย และไม่เคยมีความวุ่นวายเกิดขึ้นแฟนเรารู้ดีเพราะเราเล่าให้ฟังตลอด เค้ารู้จักนิสัยเราดี เห็นว่าเราใจดีและคงคิดว่าเราไม่กล้าต่อกรกับแม่เค้าหรือเปล่า... ซึ่งเราเคยบอกนะว่าขนาดแม่แท้ ๆ ถ้าทำไม่ถูกเราก็ยังบ่น เราไม่อยากอยู่บ้านแม่เพราะปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และไม่เคยไปอยู่บ้านแฟนเพราะรู้ว่าแม่ผัว ชอบติเก่ง คือเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครกดหัวใช้งาน (อันนี้พูดจากใจค่ะ ยิ่งทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้เรายิ่งไม่ชอบให้ใครมาข่ม) แม้แต่เงินเดือนเราถ้าเดือนไหนไม่แตะ 70k-80k ก็ติว่าได้น้อย ทั้งที่ตัวเองก็หาไม่ได้ด้วยซ้ำเดือนละ 30k-40k ส่วนรายได้เรามากกว่าแฟนก็จริง แต่เราไม่เคยพูดข่มแฟนเลย แต่เค้าชอบคิดว่าข่มเค้าเพราะเรารายได้เยอะกว่า รายได้เค้าเดือนละ 30k-40k ของเราเดือนละ 70k-80k รายได้ไม่แน่นอนทั้งคู่ แต่เชื่อไหมถ้าแม่แฟนไม่เป็นคนแบบนี้ อยู่กับเราได้สบาย ๆ เพราะใช้เงินเราอย่างเดียว เงินเดือนก็ให้เป็นหมื่น ค่าใช้จ่ายไม่มี แต่การกระทำทั้งหมดของเค้าเราไม่โอเคมาก ๆ
7. ปัจจุบันเราและแม่แฟนคือต่างคนต่างอยู่เพราะเข้ากันไม่ได้ เค้าก็กลับไปอยู่บ้านเค้า เพราะมีปากเสียงกับเรานิดหน่อย คือเคยเป็นกันไหมคะ เวลาที่เราหมดความอดทนมาก ๆ แต่ปัญหามันไม่จบสักทีและไม่เคยเพลา ๆ ลงเลย กลับหนักขึ้นเรื่อย ๆ เราทะเลาะกับแฟนทุกวัน เพราะเรื่องบ้านไม่เรียบร้อย ไม่มีความสะอาดเลย เราเก็บกวาดอยู่คนเดียวเรียบร้อยคนอยู่เดียว แต่มีคนมักง่ายเป็น 3-4 คน คนที่ต้องแบกรับภาระมันจะโอเคเหรอคะ ซึ่งเราตอบเลยว่าไม่ ขยะล้นถังไม่แตะ ไม่แตะไม่พอ ไม่เคยทิ้งลงถังขยะเลยด้วยซ้ำค่ะ ซึ่งเราคุยกับแฟนนะคะว่าทนไม่ไหวอยากไปเราก็ไม่ห้าม หรือถ้าจะโกรธที่เรามีปากเสียงกับแม่เธอก็แล้วแต่ เพราะเราคิดว่าทำถูกต้องแล้ว คบกัน 9 ปีก็รู้นิสัยเราดีกว่าใครแต่เลือกที่จะให้เรื่องมันเกิด เราบ่นจุกจิกใส่คือเรื่องงานบ้านที่เค้าไม่ช่วยทำและทำอะไรไม่เคยเรียบร้อย
8. ในมุมมองของคนที่ได้อ่านกระทู้นี้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ หากมีตรงไหนที่คิดว่าเราทำเกินไปสามารถตักเตือนได้ค่ะ
อยากเล่าระบาย เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามระหว่างไทย-กำปูชา เผื่อว่าเราจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดอีกค่ะ
ช่วงนั้นเกิดสงครามระหว่างไทย-กำปูชา แล้วแม่แฟนโทรไปชวนญาตินับ 10 กว่าคนมาอยู่บ้านเรา โดยไม่ถามเราเลย อันนี้เฉพาะญาติเป็นญาติที่สนิทของเค้าไม่รวมญาติห่าง ๆ ที่เค้าชวนมาอยู่ด้วยนะคะ อันนั้นมา 2 คันรถแต่พวกเขาไม่ได้อยู่ มาเห็นบ้านก็คงเกรงใจ คือบ้านเราเป็นชั้นเดียว มีห้องแค่ 3 ห้อง แต่ห้องคนนอนมี 2 ห้อง อีกห้องเป็นห้องแมว ห้องน้ำ 1 แต่แฟนมาพูดให้เรารู้สึกไม่โอเคมากคือแฟนพูดว่าถ้ามีญาติมาอยู่ด้วยเยอะ ๆ อย่ามาทะเลาะกันนะอายเขา แทนที่เราจะได้ยินคำถามจากแฟนว่าเราโอเคไหม เธอโอเคไหมถ้าญาติจะมาอยู่ด้วยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับมาพูดแบบนี้ ซึ่งเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ชอบความวุ่นวายและเราเจ้าระเบียบมาก ไม่ชอบบ้านรก ไม่ชอบเห็นใครมาทิ้งของเรี่ยราดภายในบ้านหรือแม้แต่บริเวณรอบ ๆ บ้าน แถมแม่แฟนยังมาพูดว่า "ถ้าคนมาเยอะ ๆ แล้วให้หนูปล่อยแมวหนูนะ" เราแบบห๊ะในใจ นั่นห้องแมวเรา เราทำให้แมวอยู่นะ ปล่อยออกไปหมาก็กัดแมวเราสิ ถามเราที่เป็นเจ้าของบ้านบ้างไหม เพราะนี่ไม่ใช่บ้านที่เป็นมรดกมาจากเค้า แต่เป็นบ้านเราที่กับแฟนเก็บเงินสร้างเอง (เราสองคนไม่ได้แต่งงาน แต่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว) อันนี้เราไม่ได้ใจดำนะคะ แต่ที่ที่เค้าให้พักสำหรับคนที่อพยพก็มีค่ะ แต่ทำไมถึงเลือกมาอยู่บ้านเรา? บ้านชั้นทรงจากัวร์เดียว ห้องน้ำก็มีห้องเดียว เข้าทีส้วมเต็ม แล้วญาติใกล้ชิดแม่แฟนแต่ละคน ขี้เหล้าหมด เมาแล้วเสียงดังโวยวาย(ซึ่งลูกเราพึ่งเกิดด้วย แล้วหลับยากมาก) พอมีคนมาเสียงดังยิ่งไม่หลับ แล้วยายของแฟนแกแก่แล้วเดินไม่ค่อยไหว เราเข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้าไปอยู่วัดห้องน้ำก็ไกล แต่คนขี้เหล้าเอามาทำไม คือแม่แฟนรู้จักนิสัยเราดีว่าเราไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบเสียงดัง แต่เลือกที่จะเอามาอยู่ด้วยโดยไม่ถามเราสักคำ แล้วประเด็นคือแฟนไม่เคยเข้าใจความรู้สึกเราเลย มีแต่บอกให้อดทน แต่กลับไม่นึกถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ญาติมาอยู่สองอาทิตย์ ค่าน้ำไฟพุ่ง แก๊สเปลือง ณ ตอนนั้นคือเราเครียดจนทำงานไม่ได้ เราห่วงลูกเพราะลูกนอนไม่เคยเต็มอิ่ม พอจะหลับก็มีคนมาเสียงดัง เราทะเลาะกับแฟนทุกวันเพราะเรื่องนี้ ใช้เครื่องซักผ้าทุกวัน ซักทุกวันจริง ๆ วันละ 3-4 คน กลัวเครื่องพังเพราะใช้ทียัดเสื้อผ้าใส่จนล้น แล้วหลาน 2 คนเป็นผู้หญิงก็นิสัยเหมือนเค้าเลย ไม่เคยจับไม้กวาด บ้านรกไม่สนใจ ทั้งที่เจ้าตัวกินแล้วไม่เคยเก็บทิ้ง เราต้องเก็บตาม ตาของแฟนแล้วก็น้าแฟนขี้เหล้ามาก ไปอยู่วัดไหนเขาก็ไม่เอา เพราะเมาแล้วอาละวาดจนคนเอือมระอา มาอยู่บ้านเรา เราก็ไม่โอเคค่ะ เราบอกว่าแฟนจะให้ไปอยู่ที่ไหนก็ไป เพราะถ้าอยู่ที่นี่บ้านแตกแน่นอน เมาส่งเสียงดัง มาทะเลาะขู่จะฆ่าคนนั้นคนนี้ ส่วนน้าแฟนก็ทะเลาะกับคนในวัดจนตำรวจพามาส่งที่บ้านเรา เราบอกให้แฟนไล่หนี ขนาดลูกในไส้เค้ายังไม่เอาเลย แล้วคิดว่าเราจะโอเคเหรอคะ จะว่าเราใจดำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเราไม่จัดการปัญหาจะยิ่งหนักกว่านี้ ลูกยังเล็กมาก ต้องมาได้ยินอะไรก็ไม่รู้ ปกติลูกเราไม่เคยร้องงอแงเลยค่ะ แต่เหตุการณ์นี้เราสงสารลูกมากค่ะ ถ้าเราไม่ปกป้องตัวเอง ไม่ปกป้องลูก ใครจะมาปกป้องเรา เพราะแฟนพูดอะไรแม่เค้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่พูดแฟนก็ไม่ทำอะไรเลย
1.เราบอกให้แฟนไล่ตาเค้าหนีเพราะอยู่ก็มีแต่สร้างปัญหาให้ลูกหลาน มาสูบบุหรีลมควันลูกเรา เราบอกว่าให้ไปบอกตาหน่อยว่าไปสูบบุหรีไกล ๆ บ้าน มันไม่ดีต่อลูก แฟนตอบมาว่าเดียวปิดประตูเอา เราปรี้ดอีกเลยด่าไป "ไอ้โง่ นั่นลูกนะ ไม่รู้จักจัดปัญหาเหรอ แก้ไม่ถูกวิธี แทนที่จะบอกให้ไปสูบที่อื่น พูดดิ ลูกยังเล็ก มาสูบในบริเวณบ้านไม่ได้ พูดดิ ปากก็มี ห่วงคนอื่น แต่ไม่ห่วงกูกับลูก?" อันนี้เราด่าต่อหน้าแม่เค้าเลย และหลานสาวอีก 2 คน เพราะเราทนไม่ไหว พออยู่กันสองคน เราบอกแฟนว่าไปบอกให้ตาไปอยู่อื่น วัดมีตั้งหลายที่ แฟนตอบมาว่าไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่เอาแกแล้วเธอ แต่พยายามบอกให้ไปอยู่วัดอื่นดู
2.เค้าก็ไปบอกนะคะแต่แกไม่อยากไปเพราะเมียแกอยู่บ้านเรา ซึ่งก็คือยายที่เล่าในตอนต้นค่ะ แต่สุดท้ายแกก็ไป แต่ก็ไป ๆ มา ๆ สร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น เพราะยายยังอยู่ พอหมดปัญหากับตาไปแล้ว น้าแฟนก็มาสร้างปัญหาอีก ชอบมาสูบบุหรีในบริเวณใกล้บ้าน กินเหล้าเมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเอามือสกปรกมาจับลูกเรา ซึ่งก็มีแต่เราที่เป็นคนบอก เพราะถ้าแม่ไม่ปกป้องลูกใครจะมาปกป้อง? ณ ตรงนั้นแม่แฟนเค้าก็ดูไม่ค่อยชอบนะคะที่น้องสาวเค้าและพ่อเค้ามาสร้างปัญหาให้เรา แต่เค้าก็จัดการไม่ได้อยู่ดี อันนี้เราเข้าใจว่ามันตัดสินใจยาก เพราะนั่นก็พ่อนี่ก็น้องสาว แต่เรื่องที่เราขอ เรื่องการอยู่ในบ้านเรา ช่วยเคารพเราหน่อย ขอแค่เรื่อง ความเรียบร้อยภายในบ้าน สูบบุหรี่ เสียงดัง เมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเปิดเพลงดัง เรื่องแค่นี้กลับทำให้เราไม่ได้ แต่กลับคิดว่าเราไม่ได้ต้อนรับญาติเขา...
3. เหตุการณ์วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ อพยพมาแทนที่จะอยู่กันอย่างเงียบ ๆ แต่ยังมานั่งกินเลี้ยงกันสบายใจ จะตั้งวงเล่นไพ่แต่เราไม่โอเคเค้าก็เลยไม่ได้เล่นกัน แล้วแม่แฟนคือตั้งแต่พาญาติมาอยู่ด้วยคือไม่สนใจหลานเลย แล้วเราพึ่งคลอดลูกยังกินอะไรไม่ได้มากเพราะกลัวผิดกรรม เค้าไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เรากิน ไหนเราจะต้องทำงาน ดูลูก แทนที่เอาคนมาอยู่เยอะ ๆ จะคิดให้มากกว่านี้หน่อยกลับไม่เลย ถ้าเราไม่พูดไม่บ่นยิ่งเหลิง แฟนคือตัวดี ไม่เคยเข้าใจเราเลย เอาแต่พูดให้เราเข้าใจคนอื่น แต่เค้าเองกลับไม่เคยเข้าใจอะไรเราเลย ตอนแม่เค้ามาอยู่ด้วยก่อนที่เราจะคลอดเราไม่ได้ว่าอะไรเพราะเค้าบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงลูกให้ ถามว่าเราโอเคไหมที่แม่แฟนมาอยู่ด้วยก็ไม่ค่ะแต่คิดว่าอยู่ ๆ ไปก่อน พออยู่ไม่ถึงเดือนเท่านั้นแหละ งานบ้านไม่ช่วยทำ แต่ขยันทำรก ไม้กวาดไม่เคยจับ วางของไม่เป็นที่ อยากวางตรงไหนก็วาง เช่น มีด ทัพพี ตาหลิว แม้แต่ถ้วยจาน ผมเผ้าหวีร่วงเต็มพื้นไม่เคยเก็บ ตลอดเวลาที่เค้าเข้ามาเราลำบากใจมากค่ะ หลัก ๆ คือเรื่องความเรียบร้อย ไม่ได้ทำงานก็ช่วยเราหลัก ๆ เรื่องรักษาความสะอาดภายในบ้านก็ยังดี แต่นี่หาความสะอาด หาความเรียบร้อยไม่มี
4. เวลาเราพูดเรื่องนี้กับแฟนที่ไร เค้ามักจะพูดว่าตอนเธอนอนอยู่โรงบาลตอนคลอดลูกก็แม่เป็นคนดูแล แม่เลี้ยงลูกให้ ไม่ดีเหรอมีคนเลี้ยงลูกให้ เราเลยสวนกลับว่า เธอเห็นมากน้อยแค่เรื่องแม่เลี้ยงลูกให้ ยิ่งพอมีญาติ ๆ มาอยู่ เลี้ยงแบบปล่อยเบลอมาก ทิ้งให้เราเลี้ยงทั้งรู้ว่าเราต้องทำงาน นั่งพิมพ์งานในคอมพิวเตอร์ (เราเขียนนิยายออนไลน์ลงขายกับเว็บดัง) ซึ่งมันต้องใช้สมาธิในการเขียน ย้ายมาอยู่ด้วยเงินก็ให้ใช้ กับข้าวแทบจะไม่ต้องซื้อเลย แต่แม่แฟนมีข้อเสียหลายอย่างที่เราไม่โอเคมาก ๆ เช่น ลูกชายคนโตสูบบุหรี่ลมควันลูกเราเค้าก็ไม่ตักเตือน ไม่มีความเรียบร้อย งานบ้านไม่เคยทำ ของใช้ส่วนตัวก็ทิ้งเรี่ยราด จนเราเอือมระอา และเหนื่อยใจ เรื่องเค้าไม่ได้ทำงานเราไม่ว่าเลย แต่มาอยู่ช่วย ๆ เรื่องงานบ้านก็ยังดี ช่วยแบ่งเบากันไป เหนื่อยตรงที่เวลาพูดอะไรแฟนทวงบุญ เช่น แม่เค้าดูแลเราตอนคลอด ตอนเราป่วย คอยเลี้ยงลูกให้ ไปไหนมาไหนก็รถเค้า รถแม่ก็จริงแต่เงินค่าน้ำมันเติมทีเป็นพัน ๆ ก็เงินเราหมด เงินใช้จ่ายแต่ละวันก็เงินเราทั้งนั้น ทั้งกินเที่ยว ปกติเราจะเป็นคนที่ไม่ทวงบุญคุณอะไรใคร ถ้าอะไรที่เราให้ เติมคือใจให้ เราจะไม่พูดถึงเลย แต่แฟนชอบพูดเรื่องบุญคุณกับเราก่อนเสมอ เราก็ทวงกลับบ้าง และแม่แฟนชอบเรียกร้อง แบบกดดันมาก ๆ แบบฉันต้องได้นะ เช่น เงินเราออก แม่จะยืมก่อน 40kไปลงทุนปลูกมัน ขายได้จะคืนให้ซึ่งเราไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่ เราทะเลาะกับแฟนหนักเลยเรื่องนี้ เพราะเราไม่อยากให้คิดแล้วคิดอีก เพราะที่ยืมไปทีละพันสองพันบอกจะคืนก็ไม่เคยคืน เราก็ไม่เคยทวงด้วย เห็นว่าเราให้ก็เอาแต่ใจ สุดท้ายเงิน 40k เราก็ไม่ได้ให้ยืมเพราะจะซื้อรถใหม่ ไม่อยากพึ่งรถเค้าแล้วและอยากเก็บไว้ให้ลูก
5. แม่แฟนรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินแต่ชอบเที่ยว วัน ๆ พูดแต่เรื่องเที่ยว เพราะไปไหนก็มีแต่เรากับแฟนเป็นคนออก แล้วชอบมาพูดว่าใช้เงินเปลืองเพราะเราเลี้ยงแมวเยอะ (เราเลี้ยงแมว 10 ตัว) อันนี้คือเราเคืองมากเพราะเราเลี้ยงของเรามาตั้ง 5-6 ปีและใช้เงินตัวเองจะมาเดือดร้อนอะไรกับเรา และเค้าก็ชอบเอาไปพูดญาติ ๆ เค้าเรื่องแมวเราว่าสิ้นเปลืองเพราะเลี้ยงแมว วันนั้นอามาหาก็มาบ่น ๆ เรื่องแมวเรา พูดทำนองว่าถ้าไม่ได้เลี้ยงก็ไม่ใช้จ่ายเงินเยอะขนาดนี้ เราเลยตอบว่าไม่ได้เปลืองเพราะแมวนะ ซื้ออาหารคือซื้อแค่ครั้งเดียวอยู่ได้เป็นเดือน และใช้งบไปแค่ 2,000-3000 บาท จากที่เคยใช้งบซื้อเดือนหนึ่ง 4,000-5,000 บาท ซึ่งมันไม่เท่าของคนเลยนะ คนน่ะซื้อกินทุกวัน แล้วคนในบ้านมี 5 คน ซึ่งมีแค่เรากับแฟนที่ทำงาน พี่แฟนกับแม่และผัวใหม่เค้าไม่ได้อะไร มีแค่ปลูกผักปลูกแตง ปลูกมันขาย ขายได้ก็เข้ากระเป๋าตัวเองหมด ไม่เคยควักมาซื้อกับข้าว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีเลย ที่ผ่านมาเราพยายามมองข้าม ก่อนหน้าพี่แฟนทำงานอยู่กรุงเทพอยู่ดี ๆ แม่ก็โทรไปชวนมาอยู่ด้วย เราลำบากใจและอึดอัดเป็นสองเท่า
6. ทั้งหมดทั้งมวลคือเราและแฟนไม่ได้ชวนใครมาอยู่ด้วยเลย แม่ก็มาเอง แต่จะให้ไล่ไปตั้งแต่แรกเลยมันก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่นัก เลยอยากดู ๆ ไปก่อน ปรากฏยิ่งอยู่ยิ่งแย่ และสภาพจิตใจเราแย่มาก ทั้งกดดันทั้งอึดอัดเพราะมันพูดไม่ได้ พูดผ่านแฟนแทนที่จะได้รับการรับฟังที่ดีกลับแย่กว่าเดิม เดิมทีแต่ก่อนแม่แฟนเค้าจะไปพักกับเราและแฟนที่กทม.เดือน 2-3 ครั้ง ก็ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้ พอได้มาอยู่กับเราจริง ๆ คือรับไม่ได้เลย เราผู้ผ่านครอบครัวตัวเองมาแล้วเป็นครอบครัวใหญ่กว่านี้อีก แต่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความสะอาดภายในบ้านเลย และไม่เคยมีความวุ่นวายเกิดขึ้นแฟนเรารู้ดีเพราะเราเล่าให้ฟังตลอด เค้ารู้จักนิสัยเราดี เห็นว่าเราใจดีและคงคิดว่าเราไม่กล้าต่อกรกับแม่เค้าหรือเปล่า... ซึ่งเราเคยบอกนะว่าขนาดแม่แท้ ๆ ถ้าทำไม่ถูกเราก็ยังบ่น เราไม่อยากอยู่บ้านแม่เพราะปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และไม่เคยไปอยู่บ้านแฟนเพราะรู้ว่าแม่ผัว ชอบติเก่ง คือเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครกดหัวใช้งาน (อันนี้พูดจากใจค่ะ ยิ่งทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้เรายิ่งไม่ชอบให้ใครมาข่ม) แม้แต่เงินเดือนเราถ้าเดือนไหนไม่แตะ 70k-80k ก็ติว่าได้น้อย ทั้งที่ตัวเองก็หาไม่ได้ด้วยซ้ำเดือนละ 30k-40k ส่วนรายได้เรามากกว่าแฟนก็จริง แต่เราไม่เคยพูดข่มแฟนเลย แต่เค้าชอบคิดว่าข่มเค้าเพราะเรารายได้เยอะกว่า รายได้เค้าเดือนละ 30k-40k ของเราเดือนละ 70k-80k รายได้ไม่แน่นอนทั้งคู่ แต่เชื่อไหมถ้าแม่แฟนไม่เป็นคนแบบนี้ อยู่กับเราได้สบาย ๆ เพราะใช้เงินเราอย่างเดียว เงินเดือนก็ให้เป็นหมื่น ค่าใช้จ่ายไม่มี แต่การกระทำทั้งหมดของเค้าเราไม่โอเคมาก ๆ
7. ปัจจุบันเราและแม่แฟนคือต่างคนต่างอยู่เพราะเข้ากันไม่ได้ เค้าก็กลับไปอยู่บ้านเค้า เพราะมีปากเสียงกับเรานิดหน่อย คือเคยเป็นกันไหมคะ เวลาที่เราหมดความอดทนมาก ๆ แต่ปัญหามันไม่จบสักทีและไม่เคยเพลา ๆ ลงเลย กลับหนักขึ้นเรื่อย ๆ เราทะเลาะกับแฟนทุกวัน เพราะเรื่องบ้านไม่เรียบร้อย ไม่มีความสะอาดเลย เราเก็บกวาดอยู่คนเดียวเรียบร้อยคนอยู่เดียว แต่มีคนมักง่ายเป็น 3-4 คน คนที่ต้องแบกรับภาระมันจะโอเคเหรอคะ ซึ่งเราตอบเลยว่าไม่ ขยะล้นถังไม่แตะ ไม่แตะไม่พอ ไม่เคยทิ้งลงถังขยะเลยด้วยซ้ำค่ะ ซึ่งเราคุยกับแฟนนะคะว่าทนไม่ไหวอยากไปเราก็ไม่ห้าม หรือถ้าจะโกรธที่เรามีปากเสียงกับแม่เธอก็แล้วแต่ เพราะเราคิดว่าทำถูกต้องแล้ว คบกัน 9 ปีก็รู้นิสัยเราดีกว่าใครแต่เลือกที่จะให้เรื่องมันเกิด เราบ่นจุกจิกใส่คือเรื่องงานบ้านที่เค้าไม่ช่วยทำและทำอะไรไม่เคยเรียบร้อย
8. ในมุมมองของคนที่ได้อ่านกระทู้นี้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ หากมีตรงไหนที่คิดว่าเราทำเกินไปสามารถตักเตือนได้ค่ะ