อยากเล่าระบาย เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม​ระหว่าง​ไทย-กำปูชา เผื่อว่าเราจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดอีกค่ะ

กระทู้คำถาม
อยากเล่าระบาย เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม​ระหว่าง​ไทย-กำปูชา เผื่อว่าเราจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดอีกค่ะ

ช่วงนั้นเกิดสงคราม​ระหว่าง​ไทย-กำปูชา แล้วแม่แฟนโทรไปชวนญาตินับ 10 กว่าคนมาอยู่บ้านเรา โดยไม่ถามเราเลย อันนี้เฉพาะ​ญาติเป็นญาติที่สนิทของเค้าไม่รวมญาติห่าง ๆ ที่เค้าชวนมาอยู่ด้วยนะคะ อันนั้นมา 2 คันรถแต่พวกเขาไม่ได้อยู่ มาเห็นบ้านก็คงเกรงใจ​ คือบ้านเราเป็นชั้นเดียว มีห้องแค่ 3 ห้อง แต่ห้องคนนอนมี 2 ห้อง อีกห้องเป็นห้องแมว ห้องน้ำ 1 แต่แฟนมาพูดให้เรารู้สึก​ไม่โอเค​มากคือแฟนพูดว่าถ้ามีญาติมาอยู่ด้วยเยอะ ๆ อย่ามาทะเลาะกันนะอายเขา แทนที่เราจะได้ยินคำถามจากแฟนว่าเราโอเคไหม เธอโอเคไหม​ถ้าญาติจะมาอยู่ด้วยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับมาพูดแบบนี้ ซึ่งเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราไม่ชอบความวุ่นวาย​และเราเจ้าระเบียบ​มาก ไม่ชอบบ้านรก ไม่ชอบเห็นใครมาทิ้งของเรี่ยราด​ภายในบ้านหรือแม้แต่​บริเวณ​รอบ ๆ บ้าน  แถมแม่แฟนยังมาพูดว่า "ถ้าคนมาเยอะ ๆ แล้วให้หนูปล่อยแมวหนูนะ" เราแบบห๊ะในใจ นั่นห้องแมวเรา เราทำให้แมวอยู่นะ ปล่อยออกไปหมาก็กัดแมวเราสิ ถามเราที่เป็นเจ้าของบ้านบ้างไหม เพราะนี่ไม่ใช่บ้านที่เป็นมรดก​มาจากเค้า แต่เป็นบ้านเราที่กับแฟนเก็บเงินสร้างเอง (เราสองคนไม่ได้แต่งงาน แต่จดทะเบียน​สมรส​กันแล้ว) อันนี้เราไม่ได้ใจดำนะคะ แต่ที่ที่เค้าให้พักสำหรับ​คนที่อพยพ​ก็มีค่ะ แต่ทำไมถึงเลือกมาอยู่บ้านเรา?  บ้านชั้นทรงจากัวร์​เดียว ห้องน้ำก็มีห้องเดียว เข้าทีส้วมเต็ม  แล้วญาติใกล้ชิดแม่แฟนแต่ละคน ขี้เหล้าหมด เมาแล้วเสียงดังโวยวาย(ซึ่งลูกเราพึ่งเกิดด้วย แล้วหลับยากมาก)​ พอมีคนมาเสียงดังยิ่งไม่หลับ แล้วยายของแฟนแกแก่แล้วเดินไม่ค่อยไหว  เราเข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้าไปอยู่วัดห้องน้ำก็ไกล แต่คนขี้เหล้าเอามาทำไม คือแม่แฟนรู้จัก​นิสัย​เราดีว่าเราไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบเสียงดัง แต่เลือกที่จะเอามาอยู่ด้วยโดยไม่ถามเราสักคำ แล้วประเด็นคือแฟนไม่เคยเข้าใจความรู้สึก​เราเลย มีแต่บอกให้อดทน แต่กลับไม่นึกถึงผลลัพธ์​ที่ตามมา ญาติมาอยู่สองอาทิตย์​ ค่าน้ำไฟพุ่ง แก๊สเปลือง ณ ตอนนั้นคือเราเครียด​จนทำงานไม่ได้ เราห่วงลูกเพราะลูกนอนไม่เคยเต็มอิ่ม พอจะหลับก็มีคนมาเสียงดัง เราทะเลาะกับแฟนทุกวันเพราะเรื่องนี้ ใช้เครื่องซักผ้าทุกวัน ซักทุกวันจริง ๆ วันละ 3-4 คน กลัวเครื่องพังเพราะใช้ทียัดเสื้อผ้า​ใส่จนล้น แล้วหลาน 2 คนเป็นผู้หญิงก็นิสัย​เหมือนเค้าเลย ไม่เคยจับไม้กวาด บ้านรกไม่สนใจ ทั้งที่เจ้าตัวกินแล้วไม่เคยเก็บทิ้ง เราต้องเก็บตาม ตาของแฟนแล้วก็น้าแฟนขี้เหล้ามาก ไปอยู่วัดไหนเขาก็ไม่เอา เพราะเมาแล้วอาละวาด​จนคนเอือมระอา​ มาอยู่บ้านเรา เราก็ไม่โอเค​ค่ะ เราบอกว่าแฟนจะให้ไปอยู่ที่ไหนก็ไป เพราะถ้าอยู่ที่นี่บ้านแตกแน่นอน​ เมาส่งเสียงดัง มาทะเลาะขู่จะฆ่าคนนั้นคนนี้ ส่วนน้าแฟนก็ทะเลาะกับคนในวัดจนตำรวจ​พามาส่งที่บ้านเรา เราบอกให้แฟนไล่หนี ขนาดลูกในไส้เค้ายังไม่เอาเลย แล้วคิดว่าเราจะโอเค​เหรอคะ จะว่าเราใจดำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเราไม่จัดการ​ปัญหา​จะยิ่งหนักกว่านี้ ลูกยังเล็กมาก ต้องมาได้ยินอะไรก็ไม่รู้ ปกติ​ลูกเราไม่เคยร้องงอแง​เลยค่ะ แต่เหตุการณ์​นี้เราสงสาร​ลูกมากค่ะ ถ้าเราไม่ปกป้อง​ตัวเอง ไม่ปกป้อง​ลูก ใครจะมาปกป้อง​เรา เพราะแฟนพูดอะไรแม่เค้าไม่ได้เลย ถ้าเราไม่พูดแฟนก็ไม่ทำอะไรเลย

    1.เราบอกให้แฟนไล่ตาเค้าหนีเพราะอยู่ก็มีแต่สร้างปัญหา​ให้ลูกหลาน มาสูบบุหรี​ลมควันลูกเรา เราบอกว่าให้ไปบอกตาหน่อยว่าไปสูบบุหรี​ไกล ๆ บ้าน มันไม่ดีต่อลูก  แฟนตอบมาว่าเดียวปิดประตู​เอา เราปรี้ดอีกเลยด่าไป "ไอ้โง่ นั่นลูกนะ ไม่รู้จัก​จัดปัญหา​เหรอ แก้ไม่ถูกวิธี  แทนที่จะบอกให้ไปสูบที่อื่น พูดดิ ลูกยังเล็ก มาสูบในบริเวณ​บ้านไม่ได้ พูดดิ ปากก็มี ห่วงคนอื่น แต่ไม่ห่วงกูกับลูก?​" อันนี้เราด่าต่อหน้าแม่เค้าเลย และหลานสาวอีก 2 คน เพราะเราทนไม่ไหว พออยู่กันสองคน เราบอกแฟนว่าไปบอกให้ตาไปอยู่อื่น วัดมีตั้งหลายที่ แฟนตอบมาว่าไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่เอาแกแล้วเธอ แต่พยายาม​บอกให้ไปอยู่วัดอื่นดู

    2.เค้าก็ไปบอกนะคะแต่แกไม่อยากไปเพราะเมียแกอยู่บ้านเรา ซึ่งก็คือยายที่เล่าในตอนต้นค่ะ แต่สุดท้าย​แกก็ไป แต่ก็ไป ๆ มา ๆ สร้างปัญหา​ไม่จบไม่สิ้น เพราะยายยังอยู่  พอหมดปัญหา​กับตาไปแล้ว น้าแฟนก็มาสร้างปัญหา​อีก ชอบมาสูบบุหรี​ในบริเวณ​ใกล้บ้าน กินเหล้าเมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเอามือสกปรก​มาจับลูกเรา ซึ่งก็มีแต่เราที่เป็นคนบอก เพราะถ้าแม่ไม่ปกป้อง​ลูกใครจะมาปกป้อง?  ณ ตรงนั้นแม่แฟนเค้าก็ดูไม่ค่อยชอบนะคะที่น้องสาวเค้าและพ่อเค้ามาสร้างปัญหา​ให้เรา แต่เค้าก็จัดการ​ไม่ได้อยู่ดี อันนี้เราเข้าใจว่ามันตัดสินใจ​ยาก เพราะนั่นก็พ่อนี่ก็น้องสาว แต่เรื่องที่เราขอ เรื่องการอยู่ในบ้านเรา ช่วยเคารพ​เราหน่อย ขอแค่เรื่อง ความเรียบ​ร้อยภายในบ้าน สูบบุหรี่​ เสียงดัง เมาแล้วพูดไม่หยุด ชอบเปิดเพลงดัง เรื่องแค่นี้กลับทำให้เราไม่ได้ แต่กลับคิดว่าเราไม่ได้ต้อนรับญาติเขา...​


    3. เหตุการณ์​วุ่นวาย​มากขึ้นเรื่อย ๆ อพยพมาแทนที่จะอยู่กันอย่างเงียบ ๆ แต่ยังมานั่งกินเลี้ยงกันสบายใจ จะตั้งวงเล่นไพ่แต่เราไม่โอเค​เค้าก็เลยไม่ได้เล่นกัน แล้วแม่แฟนคือตั้งแต่​พาญาติมาอยู่ด้วยคือไม่สนใจหลานเลย แล้วเราพึ่งคลอดลูกยังกินอะไรไม่ได้มากเพราะกลัวผิดกรรม​ เค้าไม่ได้ทำอะไรไว้ให้เรากิน ไหนเราจะต้องทำงาน ดูลูก แทนที่เอาคนมาอยู่เยอะ ๆ จะคิดให้มากกว่านี้หน่อยกลับไม่เลย ถ้าเราไม่พูดไม่บ่นยิ่งเหลิง แฟนคือตัวดี ไม่เคยเข้าใจเราเลย เอาแต่พูดให้เราเข้าใจคนอื่น แต่เค้าเองกลับไม่เคยเข้าใจอะไรเราเลย  ตอนแม่เค้ามาอยู่ด้วยก่อนที่เราจะคลอดเราไม่ได้ว่าอะไรเพราะเค้าบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงลูกให้ ถามว่าเราโอเคไหมที่แม่แฟนมาอยู่ด้วยก็ไม่ค่ะแต่คิดว่าอยู่ ๆ ไปก่อน พออยู่ไม่ถึงเดือนเท่านั้นแหละ งานบ้านไม่ช่วยทำ แต่ขยันทำรก ไม้กวาดไม่เคยจับ วางของไม่เป็นที่ อยากวางตรงไหนก็วาง เช่น มีด ทัพพี ตาหลิว แม้แต่ถ้วยจาน ผมเผ้า​หวีร่วงเต็มพื้นไม่เคยเก็บ ตลอดเวลาที่เค้าเข้ามาเราลำบาก​ใจมากค่ะ หลัก ๆ คือเรื่องความเรียบร้อย​ ไม่ได้ทำงานก็ช่วยเราหลัก ๆ เรื่องรักษาความสะอาด​ภายใน​บ้านก็ยังดี แต่นี่หาความสะอาด​ หาความเรียบร้อย​ไม่มี


    4. เวลาเราพูดเรื่องนี้กับแฟนที่ไร เค้ามักจะพูดว่าตอนเธอนอนอยู่โรงบาลตอนคลอดลูกก็แม่เป็นคนดูแล แม่เลี้ยงลูกให้ ไม่ดีเหรอมีคนเลี้ยงลูกให้ เราเลยสวนกลับว่า เธอเห็นมากน้อยแค่เรื่องแม่เลี้ยงลูกให้ ยิ่งพอมีญาติ ๆ มาอยู่ เลี้ยงแบบปล่อยเบลอมาก ทิ้งให้เราเลี้ยงทั้งรู้ว่าเราต้องทำงาน นั่งพิมพ์​งานในคอมพิวเตอร์​ (เราเขียนนิยายออนไลน์​ลงขายกับเว็บดัง) ซึ่งมันต้องใช้สมาธิ​ในการเขียน ย้ายมาอยู่ด้วยเงินก็ให้ใช้ กับข้าวแทบจะไม่ต้องซื้อเลย แต่แม่แฟนมีข้อเสีย​หลายอย่าง​ที่เราไม่โอเค​มาก ๆ เช่น ลูกชายคนโตสูบบุหรี่​ลมควันลูกเราเค้าก็ไม่ตักเตือน​ ไม่มีความเรียบร้อย​ งานบ้านไม่เคยทำ ของใช้ส่วนตัว​ก็ทิ้งเรี่ยราด​ จนเราเอือมระอา​ และเหนื่อยใจ เรื่องเค้าไม่ได้ทำงานเราไม่ว่าเลย แต่มาอยู่ช่วย ๆ เรื่องงานบ้านก็ยังดี ช่วยแบ่งเบา​กันไป เหนื่อยตรงที่เวลาพูดอะไรแฟนทวงบุญ​ เช่น แม่เค้าดูแล​เราตอนคลอด ตอนเราป่วย คอยเลี้ยงลูกให้ ไปไหนมาไหนก็รถเค้า รถแม่ก็จริงแต่เงินค่าน้ำมันเติมทีเป็นพัน ๆ ก็เงินเราหมด เงินใช้จ่ายแต่ละวันก็เงินเราทั้งนั้น ทั้งกินเที่ยว ปกติ​เราจะเป็นคนที่ไม่ทวงบุญคุณ​อะไรใคร ถ้าอะไรที่เราให้ เติมคือใจให้ เราจะไม่พูดถึงเลย แต่แฟนชอบพูดเรื่องบุญคุณ​กับเราก่อนเสมอ เราก็ทวงกลับบ้าง และแม่แฟนชอบเรียกร้อง​ แบบกดดันมาก ๆ  แบบฉันต้องได้นะ เช่น เงินเราออก แม่จะยืมก่อน 40kไปลงทุนปลูกมัน ขายได้จะคืนให้ซึ่งเราไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่  เราทะเลาะกับแฟนหนักเลยเรื่องนี้ เพราะเราไม่อยากให้คิดแล้วคิดอีก เพราะที่ยืมไปทีละพันสองพันบอกจะคืนก็ไม่เคยคืน เราก็ไม่เคยทวงด้วย เห็นว่าเราให้ก็เอาแต่ใจ สุดท้าย​เงิน 40k เราก็ไม่ได้ให้ยืมเพราะจะซื้อรถใหม่ ไม่อยากพึ่งรถเค้าแล้วและอยากเก็บไว้ให้ลูก



    5. แม่แฟนรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินแต่ชอบเที่ยว วัน ๆ พูดแต่เรื่องเที่ยว เพราะไปไหนก็มีแต่เรากับแฟนเป็นคนออก แล้วชอบมาพูดว่าใช้เงินเปลืองเพราะเราเลี้ยงแมวเยอะ (เราเลี้ยงแมว 10 ตัว)​ อันนี้คือเราเคืองมากเพราะเราเลี้ยงของเรามาตั้ง 5-6 ปีและใช้เงินตัวเองจะมาเดือดร้อน​อะไรกับเรา และเค้าก็ชอบเอาไปพูดญาติ ๆ เค้าเรื่องแมวเราว่าสิ้นเปลือง​เพราะเลี้ยงแมว วันนั้นอามาหาก็มาบ่น ๆ เรื่องแมวเรา พูดทำนองว่าถ้าไม่ได้เลี้ยงก็ไม่ใช้จ่ายเงินเยอะขนาดนี้ เราเลยตอบว่าไม่ได้เปลืองเพราะแมวนะ ซื้ออาหารคือซื้อแค่ครั้ง​เดียว​อยู่ได้เป็นเดือน และใช้งบไปแค่ 2,000-3000 บาท จากที่เคยใช้งบซื้อเดือนหนึ่ง 4,000-5,000 บาท ซึ่งมันไม่เท่าของคนเลยนะ คนน่ะซื้อกินทุกวัน แล้วคนในบ้านมี 5 คน ซึ่งมีแค่เรากับแฟนที่ทำงาน พี่แฟนกับแม่และผัวใหม่เค้าไม่ได้อะไร มีแค่ปลูกผักปลูกแตง ปลูกมันขาย ขายได้ก็เข้ากระเป๋า​ตัวเองหมด ไม่เคยควักมาซื้อกับข้าว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ไม่มีเลย  ที่ผ่านมาเราพยายาม​มองข้าม ก่อนหน้าพี่แฟนทำงานอยู่กรุงเทพ​อยู่ดี ๆ แม่ก็โทรไปชวนมาอยู่ด้วย เราลำบากใจ​และอึดอัด​เป็นสองเท่า  

    6. ทั้งหมดทั้งมวลคือเราและแฟนไม่ได้ชวนใครมาอยู่ด้วยเลย แม่ก็มาเอง แต่จะให้ไล่ไปตั้งแต่​แรกเลยมันก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่​นัก เลยอยากดู ๆ ไปก่อน ปรากฏยิ่งอยู่ยิ่งแย่ และสภาพจิตใจ​เราแย่มาก ทั้งกดดันทั้งอึดอัด​เพราะมันพูดไม่ได้ พูดผ่านแฟนแทนที่จะได้รับการรับฟัง​ที่ดีกลับแย่กว่าเดิม  เดิมทีแต่ก่อนแม่แฟนเค้าจะไปพักกับเราและแฟนที่กทม.​เดือน 2-3 ครั้ง ก็ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้  พอได้มาอยู่กับเราจริง ๆ คือรับไม่ได้เลย เราผู้ผ่านครอบครัว​ตัวเองมาแล้วเป็นครอบครัว​ใหญ่กว่านี้อีก แต่ไม่เคยมีปัญหา​เรื่องความสะอาด​ภายในบ้านเลย และไม่เคยมีความ​วุ่นวาย​เกิดขึ้นแฟนเรารู้ดีเพราะเราเล่าให้ฟังตลอด เค้ารู้จัก​นิสัย​เราดี เห็นว่าเราใจดีและคงคิดว่าเราไม่กล้าต่อกร​กับแม่เค้าหรือเปล่า... ซึ่งเราเคยบอกนะว่าขนาดแม่แท้ ๆ ถ้าทำไม่ถูกเราก็ยังบ่น เราไม่อยากอยู่บ้านแม่เพราะปัญหา​เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ  และไม่เคยไปอยู่บ้านแฟนเพราะรู้ว่าแม่ผัว ชอบติเก่ง  คือเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครกดหัวใช้งาน (อันนี้พูดจากใจค่ะ ยิ่งทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้เรายิ่งไม่ชอบให้ใครมาข่ม)​ แม้แต่เงินเดือนเราถ้าเดือนไหนไม่แตะ 70k-80k ก็ติว่าได้น้อย ทั้งที่ตัวเองก็หาไม่ได้ด้วยซ้ำเดือนละ 30k-40k ส่วนรายได้​เรามากกว่าแฟนก็จริง แต่เราไม่เคยพูดข่มแฟนเลย แต่เค้าชอบคิดว่าข่มเค้าเพราะเรารายได้เยอะกว่า รายได้​เค้าเดือนละ 30k-40k ของเราเดือนละ 70k-80k รายได้ไม่แน่นอน​ทั้งคู่ แต่เชื่อไหมถ้าแม่แฟนไม่เป็นคนแบบนี้ อยู่กับเราได้สบาย ๆ เพราะใช้เงินเราอย่างเดียว เงินเดือนก็ให้เป็นหมื่น ค่าใช้จ่าย​ไม่มี แต่การกระทำ​ทั้งหมดของเค้าเราไม่โอเค​มาก ๆ



7. ปัจจุบัน​เราและแม่แฟนคือต่างคนต่างอยู่เพราะเข้ากันไม่ได้ เค้าก็กลับไปอยู่บ้านเค้า เพราะมีปากเสียง​กับเรานิดหน่อย​ คือเคยเป็นกันไหมคะ เวลาที่เราหมดความอดทน​มาก ๆ แต่ปัญหา​มันไม่จบสักทีและไม่เคยเพลา ๆ ลงเลย กลับหนักขึ้นเรื่อย ๆ เราทะเลาะกับแฟนทุกวัน เพราะเรื่องบ้านไม่เรียบร้อย​ ไม่มีความสะอาด​เลย เราเก็บกวาดอยู่คนเดียวเรียบร้อย​คนอยู่เดียว แต่มีคนมักง่ายเป็น 3-4 คน คนที่ต้องแบกรับภาระ​มันจะโอเคเหรอคะ ซึ่งเราตอบเลยว่าไม่ ขยะล้นถังไม่แตะ ไม่แตะไม่พอ ไม่เคยทิ้งลงถังขยะเลยด้วยซ้ำค่ะ  ซึ่งเราคุยกับแฟนนะคะว่าทนไม่ไหวอยากไปเราก็ไม่ห้าม หรือถ้าจะโกรธ​ที่เรามีปากเสียง​กับแม่เธอก็แล้วแต่ เพราะเราคิดว่าทำถูกต้อง​แล้ว คบกัน 9 ปีก็รู้นิสัย​เราดีกว่าใครแต่เลือกที่จะให้เรื่องมันเกิด  เราบ่นจุกจิกใส่คือเรื่องงานบ้านที่เค้าไม่ช่วยทำและทำอะไรไม่เคยเรียบร้อย​



    8. ในมุมมอง​ของคนที่ได้อ่านกระทู้​นี้ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ หากมีตรงไหนที่คิดว่าเราทำเกินไปสามารถ​ตักเตือน​ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่