'มหาอุทกภัย' ซัดคะแนนนิยม '54ตั๋วผู้แทน'ภาคใต้ กลาง'กระแสน้ำ'


https://www.bangkokbiznews.com/politics/1209983

KEY POINTS

• เหตุการณ์มหาอุทกภัยใน 9 จังหวัดภาคใต้ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ

• การบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมที่ถูกมองว่าผิดพลาด ทำให้คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล และรัฐบาลลดลงอย่างมาก

• ผลสำรวจนิด้าโพลชี้ว่าคะแนนนิยมของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ได้พลิกกลับมานำ อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย

• วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้กลายเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยที่ต้องการคว้า สส. 30 ที่นั่งจากทั้งหมด 54 ที่นั่งในภาคใต้

• ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพลยืนยันว่าดัชนีการเมืองโดยรวมปรับตัวลดลง โดยเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นสาเหตุสำคัญที่ฉุดคะแนนผลงานของนายกรัฐมนตรี

เหตุการณ์ “มหาอุทกภัยหาดใหญ่” จ.สงขลา รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้รวม9จังหวัด นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินครั้งใหญ่ ถึงเวลานี้แน่นอนว่าถนนทุกสายพุ่งตรงไปที่รัฐบาล

รวมถึง “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ท่ามกลางเสียงทวงถามถึง “ความรับผิดชอบ” ในการบริหารจัดการที่ผิดพลาด รวมถึงมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากนี้

ไม่ต่างจากกระแสนิยม ทั้งตัว “อนุทิน” รัฐบาล และพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคแกนนำที่พยายามเกาะเกี่ยวกระแส “ชาตินิยม” และ “ประชานิยม”  เพื่อโกยคะแนนนิยมมาตลอดระยะกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เวลานี้กลับจมลึกไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก

ผ่าสมรภูมิภาคใต้ก่อนหน้านี้ “ภูมิใจไทย” โชว์ภาพ“ภูมิใจดูด” เปิดตัวสารพัดซุ้มการเมืองบ้านใหญ่-บ้านใหม่ ตอกย้ำความพร้อมศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

เห็นชัดจากท่าที “คีย์แมนน้ำเงิน”อย่าง“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกฯและรมว.คมนาคม ในฐานะแม่ทัพภาคใต้ค่ายภูมิใจไทย ที่พูดถึงเป้าหมาย30สส.จากทั้งหมด 54 ที่นั่ง

ทว่าจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเวลานี้ ทำไปทำมาจะกลับกลายเป็น “ภัยธรรมชาติ” ที่เหนือการควบคุมในสนามเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

• อภิสิทธิ์-ปชป.”พลิกแซงครองใจคนใต้
เห็นชัดจากผลสำรวจศูนย์สำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) เปิดเผย เมื่อวันที่30พ.ย. เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคใต้” สำรวจระหว่างวันที่ 18 - 24 พ.ย. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ จำนวน 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี สงขลา กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง สตูล นราธิวาส ปัตตานี และยะลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับกระแสการเมืองภาคใต้

น่าสนใจตรงที่เมื่อถามถึง บุคคลที่คนใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับสูงสุด 32.25% ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ2 25.65% ระบุว่าเป็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ3  15.40% ระบุว่าเป็น อนุทิน นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

อันดับ4 12.85% ระบุว่าเป็น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน อันดับ5  2.50% ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี

อันดับ6 2.45% ระบุว่าเป็น พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ อันดับ7  2.05% ระบุว่าเป็น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ8  1.85% ระบุว่าเป็น วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรรัฐสภา ฐานะสส.พรรคประชาชาติ

อันดับ9 1.25% ระบุว่าเป็น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

ขณะที่พรรคการเมืองที่คนใต้จะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 คือ พรรคประชาธิปัตย์ 28.60% อันดับ 2 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ 28.45% อันดับ 3 พรรคประชาชน 17.80% อันดับ 4 พรรคภูมิใจไทย 11.65% อันดับ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ 3.90%

อันดับ 6 พรรคเพื่อไทย 2.45% อันดับ 7 พรรคประชาชาติ 1.95% อันดับ 8 พรรคเศรษฐกิจ 1.65% อันดับ 9 พรรคพลังประชารัฐ 1.55% และผลสำรวจ อีก 1.65% ระบุเป็นพรรคอื่น ๆ ได้แก่ พรรคไทยสร้างไทย พรรคกล้าธรรม พรรคไทยก้าวใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยภักดี และไม่ประสงค์ลงคะแนน (Vote No)

เทียบคะแนนนิยม “กลาง-เหนือ-อีสาน”
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ คะแนนนิยมภาคใต้ ในส่วนของ “อภิสิทธิ์” พลิกแซง “อนุทิน” ในระดับที่ทิ้งห่างถึง 10.25% หากเทียบกับผลสำรวจก่อนหน้า

ทั้ง คะแนนนิยมภาคกลาง เมื่อวันที่16พ.ย. ที่พบว่า คะแนนของ “เท้ง” ณัฐพงษ์ นำอยู่ที่ 19.603 ขณะที่มีคะแนนนิยม "อนุทิน"  12.754 % และ “อภิสิทธิ์ ” มีคะแนนนิยม 9.15%

ส่วน คะแนนนิยมภาคเหนือ สำรวจเมื่อวันที่ 9พ.ย.พบว่า  อันดับ 2 ระบุว่าเป็น "ณัฐพงษ์" 21.50%  อันดับ 3 ระบุว่าเป็น"อนุทิน" 13.90 และอันดับ 4 ระบุว่าเป็น “อภิสิทธิ์”  5.90 %

ขณะที่ คะแนนนิยมภาคอีสาน สำรวจเมื่อวันที่2พ.ย. พบว่า “อนุทิน” อยู่อันดับ2 ที่คะแนน 19.70 % “ณัฐพงษ์” อยู่อันดับ3ที่คะแนน 18.55 % ขณะที่ “อภิสิทธิ์” อยู่อันดับ5 ที่คะแนนนิยม 6.10%

“มหาอุทกภัย” ซัดคะแนนนิยมรัฐบาล
สอดคล้องกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยวันเดียวกันถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-28พ.ย.2568 พบว่า

กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนพ.ย. 2568 เฉลี่ย 3.90คะแนน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนนตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ ผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.46 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาความยากจน 3.44 คะแนน

ด้านนักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่น พบว่า ฝ่ายรัฐบาลยังไม่มีใครผลงานโดดเด่น 57.34% รองลงมาคือ อนุทิน 23.46 % ด้านฝ่ายค้าน คือ ณัฐพงษ์ 39.49% รองลงมาคือ รักชนก ศรีนอก 31.97%

ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ คนละครึ่งพลัส 39.51% ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 49.72%

โดย “พรพรรณ บัวทอง”  ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ดัชนีการเมืองไทยเดือนนี้โดยรวมปรับลดลง แม้มาตรการคนละครึ่งพลัสจะช่วยพยุงคะแนนรัฐบาลจากการบรรเทาค่าครองชีพ แต่กลับไม่สามารถยกระดับคะแนนผลงานของนายกรัฐมนตรีได้เพราะเหตุการณ์มหาอุทกภัยหาดใหญ่สะท้อนปัญหาการบริหารจัดการที่ยังไม่ตอบโจทย์ประชาชน

ขณะที่ฝั่งฝ่ายค้านแม้ดัชนีภาพรวมจะลดลงเช่นกัน แต่คะแนนนักการเมืองของ“ณัฐพงษ์” ปรับเพิ่มหลังการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและบทบาทเชิงรุกในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

“น้ำท่วมครั้งนี้จึงไม่เพียงสร้างความเสียหายให้ประชาชน หากแต่ยังซัดกระทบคะแนนนิยมของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญด้วย”ประธานสวนดุสิตโพล วิเคราะห์

54ตั๋วผู้แทน”ท่ามกลาง“มหาอุทกภัย”
ผ่าสมรภูมิภาคใต้รอบนี้ เห็นชัดว่าท่ามกลาง “มหาอุทกภัย”  ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของบรรดาพรรคการเมืองในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง สแกน “14จังหวัดภาคใต้” ในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา  

ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร มีสส.รวมไทยสร้างชาติ3คน โดย2คนประกาศตัวเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย  

จ.นครศรีธรรมราช  มีสส.10คน แบ่งเป็น ประชาธิปัตย์6คน มีกระแสข่าวเปิดดีลพรรคภูมิใจไทย1คน พลังประชารัฐ1คน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ภูมิใจไทย1คน กล้าธรรม1คน และรวมไทยสร้างชาติ1คน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

จ.พัทลุง มีสส. 2คน แบ่งเป็น ประชาธิปัตย์2คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย1คน และพรรคกล้าธรรม1คน และรวมไทยสร้างชาติอีก1คน

จ.สุราษฎร์ธานี มีสส.7คนแบ่งเป็น รวมไทยสร้างชาติ6คน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม3คน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย 2คน และมีกระแสข่าวตั้งพรรคไทรวมพลัง1คน รวมกับสส.ภูมิใจไทยเดิมอีก1คน

จ.สงขลา  มีสส.9คน แบ่งเป็น ประชาธิปัตย์6คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย2คน รวมไทยสร้างชาติ1คน เตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทย กล้าธรรม1คน และภูมิใจไทย1คน

จ.กระบี่ ภูมิใจไทยชนะยกจังหวัด   จ.ตรัง มีสส.4คน แบ่งเป็นพลังประชารัฐ1คน รวมไทยสร้างชาติ1คนและประชาธิปัตย์2คน ปัจจุบันเตรียมย้ายไปสังกัดภูมิใจไทย3คน  

จ.พังงา มีสส.2คน แบ่งเป็นภูมิใจไทย1คน และพลังประชารัฐ1คน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย จ.ภูเก็ต 3คนเป็นสส.พรรคประชาชนทั้งหมด

จ.ระนอง มีสส.1คน ภูมิใจไทยครองที่นั่ง จ.สตูล มีสส.2คน ภูมิใจไทยชนะยกจังหวัด  จ.นราธิวาส มีสส.คน แบ่งเป็น รวมไทยสร้างชาติ1คนเตรียมย้ายไปพรรคกล้าธรรม กล้าธรรม2คน ภูมิใจไทย1คน และประชาชาติ1คน

จ.ปัตตานี มีสส.5คน แบ่งเป็นประชาชาติ3คน พลังประชารัฐ1คน และประชาธิปัตย์ 1คน และจ.ยะลา 3คนประชาชาติชนะยกจังหวัด

แน่นอนว่า ท่ามกลาง“มหาอุทกภัย” ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของบรรดาพรรคการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างช่วงชิงคะแนนนิยมในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

โดยเฉพาะ “ภูมิใจไทย” ในฐานะแกนนำรัฐบาล ภายใต้เป้าหมาย “30ตั๋วผู้แทน” ในพื้นที่ภาคใต้ ทว่าเวลานี้กำลังเผชิญ“มหาอุทกภัย” ฉุดคะแนนนิยมอย่างหลีกเลี่ยงไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่