ไตรมาสสุดท้ายของปีมาถึง และนั่นก็หมายถึง… วันประเมินผลงาน ที่ทุกคนรอคอยแต่ก็เกลียดสุดใจ
เช้าวันนั้น ผมนั่งที่โต๊ะ หัวใจเต้นแรงเหมือนมาราธอนรอบสุดท้าย
เพื่อนร่วมงานบางคนเตรียมสไลด์อย่างเต็มที่ บางคนเริ่มแอบปรับโปรเจกต์ให้เด่นขึ้น
ผมเองก็ต้องเตรียมตัวเต็มที่ แต่ก่อนเริ่มงาน ผมหยิบ สเปรย์เล็ก ๆ ที่เก็บไว้ข้างโต๊ะขึ้นมาฉีดเบา ๆ ที่ฝ่ามือ สูดกลิ่นเบา ๆ แล้วรู้สึกเหมือนสมองโล่งขึ้น
ทันทีที่ประชุมเริ่มขึ้น… บรรยากาศตึงเครียดสุด ๆ
หัวหน้าส่งสายตาประเมินทุกคน และเริ่มให้แต่ละคนโชว์ผลงาน
เพื่อนร่วมงานบางคนพูดเร็ว พยายามดึงความสนใจ
บางคนแอบโจมตีผลงานคนอื่นแบบเนียน ๆ เพื่อให้ตัวเองเด่นขึ้น
ผมสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วฉีดสเปรย์อีกครั้ง
กลิ่นหอมเล็ก ๆ ช่วยให้ใจสงบ และผมสามารถโฟกัสกับสิ่งสำคัญที่สุด: การแสดงจุดแข็งของตัวเอง
เมื่อถึงตาผม ผมใช้กลยุทธ์ “ชัดเจน กระชับ และมีเหตุผล”
ผมเล่าไอเดียของตัวเอง แสดงตัวเลขผลงาน และชี้ให้เห็นว่าทำไมแนวทางนี้ถึงมีประสิทธิภาพ
บางไอเดียที่เพื่อนร่วมงานเคยแอบคิดจะใช้ ผมปรับนำเสนอให้เด่นกว่า
หัวหน้าเริ่มพยักหน้า และบางครั้งก็ถามคำถามเฉพาะเจาะจง ซึ่งผมสามารถตอบได้ทันที เพราะเตรียมข้อมูลไว้ครบ
ผมฉีดสเปรย์เบา ๆ ก่อนตอบคำถาม กลิ่นช่วยให้ใจเย็น คำตอบออกมาชัดเจนและมั่นใจ
เพื่อนร่วมงานบางคนแอบมองหน้าผม…
บางทีผมก็เห็นความไม่พอใจเล็ก ๆ แต่ไม่สนใจ เพราะนี่คือโลกการแข่งขัน
ผมโฟกัสกับตัวเองและกลยุทธ์ของผม
จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องพูด
วิเคราะห์ไอเดียเพื่อนร่วมงานเพื่อปรับการนำเสนอ
คุมอารมณ์ให้เย็นตลอดเวลา
หลังประชุม ผมนั่งถอนหายใจ
มันเหนื่อยและดุเดือดกว่าที่คิด
แต่ก็เข้าใจแล้วว่า… การเอาตัวรอดในออฟฟิศไม่ใช่เรื่องโชค แต่เป็นเรื่องกลยุทธ์และการควบคุมตัวเอง
สำหรับผม… สเปรย์เล็ก ๆ ขวดนั้น เป็นเหมือนตัวช่วยลับ
ไม่ใช่ทำให้เก่งขึ้น แต่ทำให้ใจสงบ พร้อมคิดวิเคราะห์ และรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดได้
สุดท้าย ผมเดินออกจากห้องประชุม พร้อมรอยยิ้ม
บางครั้ง สิ่งเล็ก ๆ อย่างสเปรย์หอม ๆ ก็ทำให้วันแข่งขันสุดโหดในออฟฟิศ… เบาลงได้เหมือนกัน
วันประเมินผลงาน… แข่งขันกันดุเดือด
เช้าวันนั้น ผมนั่งที่โต๊ะ หัวใจเต้นแรงเหมือนมาราธอนรอบสุดท้าย
เพื่อนร่วมงานบางคนเตรียมสไลด์อย่างเต็มที่ บางคนเริ่มแอบปรับโปรเจกต์ให้เด่นขึ้น
ผมเองก็ต้องเตรียมตัวเต็มที่ แต่ก่อนเริ่มงาน ผมหยิบ สเปรย์เล็ก ๆ ที่เก็บไว้ข้างโต๊ะขึ้นมาฉีดเบา ๆ ที่ฝ่ามือ สูดกลิ่นเบา ๆ แล้วรู้สึกเหมือนสมองโล่งขึ้น
ทันทีที่ประชุมเริ่มขึ้น… บรรยากาศตึงเครียดสุด ๆ
หัวหน้าส่งสายตาประเมินทุกคน และเริ่มให้แต่ละคนโชว์ผลงาน
เพื่อนร่วมงานบางคนพูดเร็ว พยายามดึงความสนใจ
บางคนแอบโจมตีผลงานคนอื่นแบบเนียน ๆ เพื่อให้ตัวเองเด่นขึ้น
ผมสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วฉีดสเปรย์อีกครั้ง
กลิ่นหอมเล็ก ๆ ช่วยให้ใจสงบ และผมสามารถโฟกัสกับสิ่งสำคัญที่สุด: การแสดงจุดแข็งของตัวเอง
เมื่อถึงตาผม ผมใช้กลยุทธ์ “ชัดเจน กระชับ และมีเหตุผล”
ผมเล่าไอเดียของตัวเอง แสดงตัวเลขผลงาน และชี้ให้เห็นว่าทำไมแนวทางนี้ถึงมีประสิทธิภาพ
บางไอเดียที่เพื่อนร่วมงานเคยแอบคิดจะใช้ ผมปรับนำเสนอให้เด่นกว่า
หัวหน้าเริ่มพยักหน้า และบางครั้งก็ถามคำถามเฉพาะเจาะจง ซึ่งผมสามารถตอบได้ทันที เพราะเตรียมข้อมูลไว้ครบ
ผมฉีดสเปรย์เบา ๆ ก่อนตอบคำถาม กลิ่นช่วยให้ใจเย็น คำตอบออกมาชัดเจนและมั่นใจ
เพื่อนร่วมงานบางคนแอบมองหน้าผม…
บางทีผมก็เห็นความไม่พอใจเล็ก ๆ แต่ไม่สนใจ เพราะนี่คือโลกการแข่งขัน
ผมโฟกัสกับตัวเองและกลยุทธ์ของผม
จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องพูด
วิเคราะห์ไอเดียเพื่อนร่วมงานเพื่อปรับการนำเสนอ
คุมอารมณ์ให้เย็นตลอดเวลา
หลังประชุม ผมนั่งถอนหายใจ
มันเหนื่อยและดุเดือดกว่าที่คิด
แต่ก็เข้าใจแล้วว่า… การเอาตัวรอดในออฟฟิศไม่ใช่เรื่องโชค แต่เป็นเรื่องกลยุทธ์และการควบคุมตัวเอง
สำหรับผม… สเปรย์เล็ก ๆ ขวดนั้น เป็นเหมือนตัวช่วยลับ
ไม่ใช่ทำให้เก่งขึ้น แต่ทำให้ใจสงบ พร้อมคิดวิเคราะห์ และรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดได้
สุดท้าย ผมเดินออกจากห้องประชุม พร้อมรอยยิ้ม
บางครั้ง สิ่งเล็ก ๆ อย่างสเปรย์หอม ๆ ก็ทำให้วันแข่งขันสุดโหดในออฟฟิศ… เบาลงได้เหมือนกัน