ใครว่าแอ็คชั่นมันส์ๆ ต้องดูของฝรั่งอย่างเดียว? "Polar (2019)" นี่แหละ ของจริง!
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังแอ็คชั่นสุดเดือดมาแนะนำครับ เป็นเรื่องที่ผมดูแล้วแบบ เฮ้ย! ไม่ธรรมดาว่ะ ชื่อเรื่องคือ "Polar" ฉายปี 2019 นี่แหละครับ หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยดู วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกเลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงควรค่าแก่การเสียเวลาดูครับ
ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้องบอกว่า "Polar" นี่มันไม่ใช่หนังแอ็คชั่นทั่วๆ ไปนะ มันมีความดิบ ความเถื่อน ความโหด ดิบๆ แบบไม่ปรุงแต่งเลยครับ พระเอกของเราชื่อ ดันแคน วิซลา หรือที่รู้จักกันในนาม "Black Kaiser" ครับ เป็นสุดยอดนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรลับที่ชื่อว่า "S.A.M.U.E.L." (อะไรสักอย่างนี่แหละครับ ชื่อองค์กรมันก็ฟังดูโหดๆ อยู่แล้ว) ซึ่งถ้าใครอายุครบ 50 ปีเมื่อไหร่ ก็ต้องถูกส่งไป "เกษียณ" ครับ แต่การเกษียณขององค์กรนี้ มันไม่ได้หมายถึงการได้นั่งจิบชาอยู่บ้านนะ แต่มันหมายถึงการถูกกำจัดทิ้งนั่นเองครับ! ฟังแล้วก็ขนลุกแล้วใช่ไหมครับ
ทีนี้ ดันแคนของเราก็กำลังจะถึงวันเกิดอายุ 50 ปีพอดีครับ ไอ้พวกหัวหน้าองค์กรก็เลยส่งทีมนักฆ่ารุ่นใหม่ไฟแรงมาจัดการเขาครับ เพราะคิดว่าเขาแก่แล้ว ฝีมือตก แต่หารู้ไม่ว่า "Black Kaiser" คือตำนานครับ! ถึงจะใกล้เกษียณ แต่สมองและร่างกายยังคงคมกริบอยู่ครับ
สิ่งที่ผมชอบมากในเรื่องนี้เลยก็คือ การปูพื้นเรื่องราวของตัวละครครับ ถึงแม้ว่าหนังจะเน้นแอ็คชั่นเป็นหลัก แต่ก็มีการสอดแทรกปูมหลังของดันแคนเข้ามาให้เราได้เห็นครับ ว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจขนาดนี้ มีเบื้องหลังอะไรที่ทำให้เขาเป็นคนแบบนี้ มันทำให้ตัวละครดูมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่จะมาฆ่าพระเอกอย่างเดียว มันมีอะไรมากกว่านั้นครับ
ส่วนเรื่องแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ มันจัดเต็มมากๆ ครับ ฉากต่อสู้โหด ดุ เดือด เลือดสาดจริงๆ ครับ เป็นสไตล์แอ็คชั่นที่ดูแล้วมันส์จนนั่งไม่ติดครับ ไม่มีการออมมือใดๆ ทั้งสิ้น การยิง การฟัน การต่อย คือแบบสมจริงมากๆ ครับ แล้วก็มีฉากไคลแม็กซ์ที่แบบ โอโห! ระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันเลยทีเดียวครับ ใครที่ชอบดูหนังที่มีฉากแอ็คชั่นหนักๆ แบบนี้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อีกอย่างที่น่าสนใจคือเรื่องการแสดงครับ แมดส์ มิกเกลเซน ที่รับบทเป็น "Black Kaiser" นี่คือสุดยอดครับ! เขาแสดงได้แบบเท่ ดุดัน เย็นชา แต่ก็แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าของคนที่ผ่านอะไรมาเยอะครับ สายตาของเขาคือบ่งบอกทุกอย่างจริงๆ ครับ แล้วก็ตัวร้ายอื่นๆ ที่เข้ามา ก็แสดงได้ดีครับ มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ทำให้เรื่องดูเข้มข้นขึ้นไปอีกครับ
แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า หนังเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกคนนะครับ เพราะความโหด ความรุนแรง มันค่อนข้างจัดเต็ม ถ้าใครไม่ชอบดูฉากที่เลือดสาด หรือมีความรุนแรงมากๆ อาจจะต้องข้ามเรื่องนี้ไปนะครับ แต่ถ้าใครชอบแนวนี้ ผมแนะนำเลยครับ
นอกจากแอ็คชั่นแล้ว โทนของหนังก็มีความดิบๆ เทาๆ ครับ ไม่ได้มีขาวดำชัดเจน ตัวละครแต่ละตัวก็มีข้อเสียข้อดีของตัวเอง ไม่ได้มีใครดีไปซะหมด หรือร้ายไปซะหมด มันทำให้เรื่องดูน่าสนใจและสมจริงมากขึ้นครับ
เรื่องบทหนังอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากครับ เน้นเล่าเรื่องตามเส้นตรงไปเลย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราอินไปกับตัวละครและสถานการณ์ที่เขาต้องเจอครับ การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างเร็วครับ ไม่ค่อยมีช่วงที่น่าเบื่อเลย ดูเพลินๆ ไปจนจบ
สรุปแล้วนะครับ "Polar (2019)" เป็นหนังแอ็คชั่นที่ผมยกให้เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูครับ ถ้าคุณเป็นแฟนหนังแนวนี้ ชอบความดิบ ความโหด ความมันส์ แบบไม่กั๊ก รับรองว่าคุณจะถูกใจแน่นอนครับ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่หนังที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ในระดับสูงสุด แต่สำหรับผมที่เป็นผู้ชมทั่วไปที่อยากดูหนังแอ็คชั่นมันส์ๆ เรื่องนี้สอบผ่านฉลุยเลยครับ
ถ้าใครยังไม่เคยดู ลองหามาดูกันนะครับ แล้วมาคุยกันได้ว่าชอบไม่ชอบยังไงนะครับ วันนี้ผมขอตัวไปหาหนังเรื่องอื่นมาดูก่อนนะครับ สวัสดีครับ!
ใครว่าแอ็คชั่นมันส์ๆ ต้องดูของฝรั่งอย่างเดียว? "Polar (2019)" นี่แหละ ของจริง!
ใครว่าแอ็คชั่นมันส์ๆ ต้องดูของฝรั่งอย่างเดียว? "Polar (2019)" นี่แหละ ของจริง!
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังแอ็คชั่นสุดเดือดมาแนะนำครับ เป็นเรื่องที่ผมดูแล้วแบบ เฮ้ย! ไม่ธรรมดาว่ะ ชื่อเรื่องคือ "Polar" ฉายปี 2019 นี่แหละครับ หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตา แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยดู วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกเลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงควรค่าแก่การเสียเวลาดูครับ
ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้องบอกว่า "Polar" นี่มันไม่ใช่หนังแอ็คชั่นทั่วๆ ไปนะ มันมีความดิบ ความเถื่อน ความโหด ดิบๆ แบบไม่ปรุงแต่งเลยครับ พระเอกของเราชื่อ ดันแคน วิซลา หรือที่รู้จักกันในนาม "Black Kaiser" ครับ เป็นสุดยอดนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรลับที่ชื่อว่า "S.A.M.U.E.L." (อะไรสักอย่างนี่แหละครับ ชื่อองค์กรมันก็ฟังดูโหดๆ อยู่แล้ว) ซึ่งถ้าใครอายุครบ 50 ปีเมื่อไหร่ ก็ต้องถูกส่งไป "เกษียณ" ครับ แต่การเกษียณขององค์กรนี้ มันไม่ได้หมายถึงการได้นั่งจิบชาอยู่บ้านนะ แต่มันหมายถึงการถูกกำจัดทิ้งนั่นเองครับ! ฟังแล้วก็ขนลุกแล้วใช่ไหมครับ
ทีนี้ ดันแคนของเราก็กำลังจะถึงวันเกิดอายุ 50 ปีพอดีครับ ไอ้พวกหัวหน้าองค์กรก็เลยส่งทีมนักฆ่ารุ่นใหม่ไฟแรงมาจัดการเขาครับ เพราะคิดว่าเขาแก่แล้ว ฝีมือตก แต่หารู้ไม่ว่า "Black Kaiser" คือตำนานครับ! ถึงจะใกล้เกษียณ แต่สมองและร่างกายยังคงคมกริบอยู่ครับ
สิ่งที่ผมชอบมากในเรื่องนี้เลยก็คือ การปูพื้นเรื่องราวของตัวละครครับ ถึงแม้ว่าหนังจะเน้นแอ็คชั่นเป็นหลัก แต่ก็มีการสอดแทรกปูมหลังของดันแคนเข้ามาให้เราได้เห็นครับ ว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจขนาดนี้ มีเบื้องหลังอะไรที่ทำให้เขาเป็นคนแบบนี้ มันทำให้ตัวละครดูมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่จะมาฆ่าพระเอกอย่างเดียว มันมีอะไรมากกว่านั้นครับ
ส่วนเรื่องแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ มันจัดเต็มมากๆ ครับ ฉากต่อสู้โหด ดุ เดือด เลือดสาดจริงๆ ครับ เป็นสไตล์แอ็คชั่นที่ดูแล้วมันส์จนนั่งไม่ติดครับ ไม่มีการออมมือใดๆ ทั้งสิ้น การยิง การฟัน การต่อย คือแบบสมจริงมากๆ ครับ แล้วก็มีฉากไคลแม็กซ์ที่แบบ โอโห! ระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันเลยทีเดียวครับ ใครที่ชอบดูหนังที่มีฉากแอ็คชั่นหนักๆ แบบนี้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อีกอย่างที่น่าสนใจคือเรื่องการแสดงครับ แมดส์ มิกเกลเซน ที่รับบทเป็น "Black Kaiser" นี่คือสุดยอดครับ! เขาแสดงได้แบบเท่ ดุดัน เย็นชา แต่ก็แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าของคนที่ผ่านอะไรมาเยอะครับ สายตาของเขาคือบ่งบอกทุกอย่างจริงๆ ครับ แล้วก็ตัวร้ายอื่นๆ ที่เข้ามา ก็แสดงได้ดีครับ มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ทำให้เรื่องดูเข้มข้นขึ้นไปอีกครับ
แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า หนังเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกคนนะครับ เพราะความโหด ความรุนแรง มันค่อนข้างจัดเต็ม ถ้าใครไม่ชอบดูฉากที่เลือดสาด หรือมีความรุนแรงมากๆ อาจจะต้องข้ามเรื่องนี้ไปนะครับ แต่ถ้าใครชอบแนวนี้ ผมแนะนำเลยครับ
นอกจากแอ็คชั่นแล้ว โทนของหนังก็มีความดิบๆ เทาๆ ครับ ไม่ได้มีขาวดำชัดเจน ตัวละครแต่ละตัวก็มีข้อเสียข้อดีของตัวเอง ไม่ได้มีใครดีไปซะหมด หรือร้ายไปซะหมด มันทำให้เรื่องดูน่าสนใจและสมจริงมากขึ้นครับ
เรื่องบทหนังอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากครับ เน้นเล่าเรื่องตามเส้นตรงไปเลย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราอินไปกับตัวละครและสถานการณ์ที่เขาต้องเจอครับ การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างเร็วครับ ไม่ค่อยมีช่วงที่น่าเบื่อเลย ดูเพลินๆ ไปจนจบ
สรุปแล้วนะครับ "Polar (2019)" เป็นหนังแอ็คชั่นที่ผมยกให้เป็นอีกเรื่องที่ต้องดูครับ ถ้าคุณเป็นแฟนหนังแนวนี้ ชอบความดิบ ความโหด ความมันส์ แบบไม่กั๊ก รับรองว่าคุณจะถูกใจแน่นอนครับ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่หนังที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ในระดับสูงสุด แต่สำหรับผมที่เป็นผู้ชมทั่วไปที่อยากดูหนังแอ็คชั่นมันส์ๆ เรื่องนี้สอบผ่านฉลุยเลยครับ
ถ้าใครยังไม่เคยดู ลองหามาดูกันนะครับ แล้วมาคุยกันได้ว่าชอบไม่ชอบยังไงนะครับ วันนี้ผมขอตัวไปหาหนังเรื่องอื่นมาดูก่อนนะครับ สวัสดีครับ!