พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2552 มาตรา 57 กำหนดว่า “ห้ามผู้ขับขี่จอดรถ” ดังต่อไปนี้
...บนทางเท้า..บนสะพานหรืออุโมงค์ ฯลฯ
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามทั้ง 15 ข้อ ตามมาตรา 57 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
_________________________________
จะเห็นว่า..
โทษปรับมันน้อยมาก
ยิ่งในภาวะน้ำท่วมใหญ่
แท้ค่าปรับจะมากกว่านี้ เจ้าของรถก็ยอมจ่าย
น้ำท่วมที่หาดใหญ่มีมาหลายครั้งแล้ว
และทุกครั้งก็จะเห็นภาพที่รถแก่กันขึ้นไปจอดบนสะพานต่างๆ
บางคนก็ว่า..
เป็นความฉลาดในการเอาตัวรอดของเจ้าของรถ
บางคนก็ว่า..
เป็นความเห็นแก่ตัวของเจ้าของรถ
ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน
ทุกคนก็ย่อมต้องพยายามรักษาทรัพย์สินของตนเอง
ซึ่งบางคนอาจทำไปโดนไม่ได้คิดว่า
มันจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอย่างไร
แต่บางคนก็ทำไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ
ผลที่เกิดขึ้นแน่ๆคือ..
พฤติกรรมเล็กๆแบบนี้
เป็นการสร้างความยากลำบากในการระดมความช่วยเหลือ
เป็นการขัดขวางการเดินทางของหน่วยงาน และพาหนะที่ต้องใช้เส้นทาง
โดยเฉพาะในเมื่อทุกวินาทีที่ผ่านเลยไป
อาจหมายถึงชีวิตของผู้ประสบภัย
ถ้าน้ำท่วมไม่มาก..
ความเสียหายอาจไม่กระทบมาก
แต่เมื่อความรุนแรงของน้ำท่วมเป็นมหันตภัยแบบนี้
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า
การกระทำเช่นนี้มันไม่ส่งผลต่อชีวิตของผู้ประสบภัย
ภาครัฐควรที่จะปรับปรุงกฏหมายให้เหมาะสมกับเหตุการณ์
โดยเฉพาะในยามมีภัยพิบัติแบบนี้
และมีการจัดการเพื่อห้ามการจอดรถบนสะพาน
โดยกำหนดเป็นมาตรการที่ต้องปฏิบัติทุกครั้ง
เมื่อมีการประกาศเตือนภัย..
แค่สงสัย...การจอดรถบนสะพานในยามน้ำท่วม เป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ ?