วันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังการประชุมระดมสมองครั้งที่ 1 ของโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาท่าอวกาศยานประเทศไทย (Thailand Spaceport) โดย GISTDA ร่วมกับ KPMG ก็ได้มีการเปิดเผยผลวิเคราะห์เบื้องต้นที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับ
อนาคตอวกาศของประเทศไทย
ประเทศไทย “มีศักยภาพเพียงพอ” และ “พร้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ” ในการสร้าง
ท่าอวกาศยานเชิงพาณิชย์แห่งแรก ของประเทศ ซึ่งจะเป็นก้าวใหญ่สู่ยุค
New Space Economy ที่ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันอย่างร้อนแรง
🚀
3 พื้นที่ศักยภาพสูงที่เหมาะกับการสร้าง Spaceport ของไทย
ผลประเมินเบื้องต้นพบว่ามี 3 จุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม โดยแต่ละแห่งมีจุดเด่นแตกต่างกันดังนี้:
1. เกาะจวง / เกาะจาน – ชลบุรี
- เหมาะสำหรับ
Vertical Launch (ส่งยานแนวดิ่ง)
- ใช้ประโยชน์พื้นที่ได้ดี
- กระทบชุมชนน้อย
- ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีศักยภาพสูง
2.
แหลมสนอ่อน – สงขลา
- เหมาะกับการยิงจรวดแบบแนวดิ่งเช่นกัน
- ทำเลดี แต่ต้องศึกษาผลกระทบชุมชนละเอียด
- ถ้าออกแบบดี จะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของฝั่งอ่าวไทย
3.
สนามบินอู่ตะเภา
- โดดเด่นเรื่อง
โลจิสติกส์ และอินฟราสตรักเจอร์
- เหมาะสำหรับ
Horizontal Launch (ส่งแบบแนวราบ)
- มีศักยภาพเติบโตเป็น “คลัสเตอร์อุตสาหกรรมอวกาศ”
- ใกล้เขต EEC ช่วยเชื่อมโยงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ดีมาก
ผลวิเคราะห์ KPMG ชี้ประโยชน์ระดับชาติ
หากไทยสร้าง Spaceport ได้สำเร็จ จะเกิดประโยชน์สำคัญมากมาย เช่น:
1. เกิดอุตสาหกรรมใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดึงดูดเงินลงทุน
- สร้างธุรกิจ “New Space”
- มูลค่าทางเศรษฐกิจระดับ
หมื่นล้านบาท ในอนาคต
2. เพิ่มความสามารถพึ่งพาตนเองด้านอวกาศ
- ไทยสามารถยิงส่งดาวเทียมเองได้
- เพิ่มความมั่นคงด้านเทคโนโลยี
- ลดการพึ่งพาประเทศอื่น
3. ยกระดับคนรุ่นใหม่เข้าสู่งานอวกาศ
- สร้างทักษะ
STEM
- เปิดอาชีพใหม่
- เริ่มจากบริการ
suborbital launch และพัฒนาไปสู่ขั้นสูงขึ้น
4. ก้าวสู่การเป็น “Space-Faring Nation”
- ประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในชาติอวกาศของภูมิภาค พร้อมแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เต็มตัว
สรุป: ไทยสร้างท่าอวกาศยานได้จริงไหม?
ผลวันนี้บอกว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ทั้งในด้านเทคนิค เศรษฐศาสตร์ การเงิน และบุคลากร
ถ้าประเทศเดินหน้าต่ออย่างจริงจัง เราอาจได้เห็น
Spaceport แห่งแรกของไทย ภายในเวลาไม่นาน และจะเป็นก้าวใหญ่ของประเทศในการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต
ที่มา: GISTDA
GISTDA เปิด ไทยมีโอกาสปั้น “เศรษฐกิจอวกาศใหม่” พร้อมชี้ 3 พื้นที่ศักยภาพสร้างท่าอวกาศยาน!
ประเทศไทย “มีศักยภาพเพียงพอ” และ “พร้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ” ในการสร้าง ท่าอวกาศยานเชิงพาณิชย์แห่งแรก ของประเทศ ซึ่งจะเป็นก้าวใหญ่สู่ยุค New Space Economy ที่ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันอย่างร้อนแรง
🚀 3 พื้นที่ศักยภาพสูงที่เหมาะกับการสร้าง Spaceport ของไทย
ผลประเมินเบื้องต้นพบว่ามี 3 จุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม โดยแต่ละแห่งมีจุดเด่นแตกต่างกันดังนี้:
1. เกาะจวง / เกาะจาน – ชลบุรี
- เหมาะสำหรับ Vertical Launch (ส่งยานแนวดิ่ง)
- ใช้ประโยชน์พื้นที่ได้ดี
- กระทบชุมชนน้อย
- ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีศักยภาพสูง
2.แหลมสนอ่อน – สงขลา
- เหมาะกับการยิงจรวดแบบแนวดิ่งเช่นกัน
- ทำเลดี แต่ต้องศึกษาผลกระทบชุมชนละเอียด
- ถ้าออกแบบดี จะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของฝั่งอ่าวไทย
3. สนามบินอู่ตะเภา
- โดดเด่นเรื่อง โลจิสติกส์ และอินฟราสตรักเจอร์
- เหมาะสำหรับ Horizontal Launch (ส่งแบบแนวราบ)
- มีศักยภาพเติบโตเป็น “คลัสเตอร์อุตสาหกรรมอวกาศ”
- ใกล้เขต EEC ช่วยเชื่อมโยงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ดีมาก
ผลวิเคราะห์ KPMG ชี้ประโยชน์ระดับชาติ
หากไทยสร้าง Spaceport ได้สำเร็จ จะเกิดประโยชน์สำคัญมากมาย เช่น:
1. เกิดอุตสาหกรรมใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดึงดูดเงินลงทุน
- สร้างธุรกิจ “New Space”
- มูลค่าทางเศรษฐกิจระดับ หมื่นล้านบาท ในอนาคต
2. เพิ่มความสามารถพึ่งพาตนเองด้านอวกาศ
- ไทยสามารถยิงส่งดาวเทียมเองได้
- เพิ่มความมั่นคงด้านเทคโนโลยี
- ลดการพึ่งพาประเทศอื่น
3. ยกระดับคนรุ่นใหม่เข้าสู่งานอวกาศ
- สร้างทักษะ STEM
- เปิดอาชีพใหม่
- เริ่มจากบริการ suborbital launch และพัฒนาไปสู่ขั้นสูงขึ้น
4. ก้าวสู่การเป็น “Space-Faring Nation”
- ประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในชาติอวกาศของภูมิภาค พร้อมแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เต็มตัว
สรุป: ไทยสร้างท่าอวกาศยานได้จริงไหม?
ผลวันนี้บอกว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ทั้งในด้านเทคนิค เศรษฐศาสตร์ การเงิน และบุคลากร
ถ้าประเทศเดินหน้าต่ออย่างจริงจัง เราอาจได้เห็น Spaceport แห่งแรกของไทย ภายในเวลาไม่นาน และจะเป็นก้าวใหญ่ของประเทศในการเปิดประตูสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต
ที่มา: GISTDA