วาดฝันวิวิวาห์ (ตีฟู ep.2)
จากกระทู้ก่อนหน้านี้จึงอย่างเพิ่มเติมในส่วนที่คิดว่าช่อง3น่าจะได้ประโยชน์มากขึ้นอย่างเรื่องโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของช่องดังนี้
 
ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์: การลงทุนโปรดักชันซีรีส์ “วาดฝันวันวิวาห์” เพื่อเพิ่มรายได้และศักยภาพเชิงธุรกิจของช่อง 3

ในช่วงปีที่ผ่านมา ช่องสามพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า “บทบาทของนักแสดงนำ” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อโฆษณาของลูกค้ามากแค่ไหน จากผลงานที่ผ่านมาอย่าง “เพียงเธอ” ซึ่งเพียงแค่ออกอากาศตอนแรก ก็สามารถปิดการขายโฆษณาได้มากถึง 86 ตัว ทั้งที่แบรนด์สินค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซีรีส์จะประสบความสำเร็จหรือมีกระแสมั๊ย สิ่งที่ลูกค้าเลือกซื้อในตอนนั้นคือ ความเชื่อมั่นในตัวนักแสดงนำ อย่างหลิง–ออม โดยตรง นี้คือข้อพิสูจน์ว่าพลังของศิลปินสามารถสร้างโอกาสทางรายได้ให้ช่องได้ทันทีตั้งแต่ก่อนซีรีส์ออกอากาศจริง

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณภาพของเนื้อหา การกำกับ และโปรดักชันไม่สอดรับกับความคาดหวัง ความสนใจของผู้ชมย่อมลดลงตาม ส่งผลให้จำนวนโฆษณาค่อย ๆ ลดลงมาอยู่ที่เพียง 30–40 ตัว แม้โครงสร้างรายได้เริ่มต้นดีมาก แต่ศักยภาพของผลงานกลับไม่ถูกต่อยอดให้ถึงระดับที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้ บทเรียนจาก"เพียงเธอ" จึงชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า :

"ชื่อเสียงและแฟนเบสของนักแสดงสามารถเปิดยอดขายโฆษณาให้ได้ตั้งแต่วันแรกแต่คุณภาพโปรดักชันคือสิ่งที่รักษารายได้และขยายรายได้ในระยะยาว"


โอกาสใหม่: “วาดฝันวันวิวาห์” = หน้าต่างรายได้รอบใหม่ที่ควรลงทุนเต็มรูปแบบ
ซีรีส์เรื่องใหม่ของหลิง–ออม อย่าง “วาดฝันวันวิวาห์” คือโอกาสทองที่ช่อง 3 ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปแบบเดิมอีกแล้ว เพราะ:
 
1. ศิลปินกำลังอยู่ในจุดพีคของกระแสและมีฐานแฟนคลับ
หลิง–ออมมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นมากขึ้น แบรนด์รู้จักมากขึ้น และมี engagement ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่ช่วยปิดการขายโฆษณาได้ตั้งแต่ก่อนออนแอร์เหมือนเดิม และสามารถทำได้มากกว่านั้นหากงานโปรดักชันเข้มแข็ง
 
2. ถ้าช่องลงทุนกับโปรดักชันจริง ๆ ผลลัพธ์จะไปได้ไกลกว่า “เพียงเธอ”
โปรดักชั่นและทีมงานคุณภาพคือปัจจัยที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ชมรู้สึกว่า “ซีรีส์ดีจริง” ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดต้องการที่สุดในตอนนี้ เพราะผู้ชมไทยกำลังเทไปดูคอนเท้นต่างชาติที่โปรดักชันดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
(ขออนุญาตยกตัวตัวอย่างซีรีย์ / หนังไทยที่ลงทุนกับโปรดักชั่นมา ณ ที่นี้นะคะ)



3. หากซีรีส์ประสบความสำเร็จ โฆษณาอาจพุ่งแตะ 100 ตัวได้
ด้วยฐานแฟนที่ใหญ่ขึ้น บวกกับความคาดหวังจากตลาด ถ้างานออกมาดี มีโอกาสสูงมากที่ยอดโฆษณาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแบบสามารถ แตะระดับ 100 ตัวหรือมากกว่าได้เลย ซึ่งหมายถึง
- รายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน
- คุณค่าของลิขสิทธิ์ขายต่างประเทศสูงขึ้น
- แบรนด์อยากร่วมงานกับช่องมากขึ้น
- ช่องสามจะมี “ซีรีส์เรือธง” ช่วงปีถัดไปที่สร้างชื่อเสียงได้จริง
 
ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับช่อง 3

1. ลงทุนโปรดักชันแบบ Full Budget กับ “วาดฝันวันวิวาห์”
 นี่ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงและพิสูจน์แล้วจากงานก่อนหน้านี้อย่างเพียงเธอ
 
2. เปิดทางให้ทีมงานมืออาชีพ :
- ผู้กำกับที่ อ่านเคมีนักแสดงออก และ เข้าใจสไตล์การทำงานโทนโรแมนติก–ดราม่า+ รู้จักเล่นกับกระแสโซเชียล
- นักเขียนบทที่เก่ง ตีโจทย์และอธิบายความเป็นตัวละครนั้นได้เป็นอย่างดี
- ทีม Art Direction ที่มีลายเซ็นชัดเจน ยกระดับงานอาร์ตของซีรีย์ได้
 
3. การให้เวลา ไม่ใช่ความล่าช้าแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ตลาด gl ในปัจจุบันตอนนี้มีการแข่งขันสูงมาก ยกตัวอย่างไลน์อัพของค่ายgmm ที่เปิดตัว gl ถึง8 เรื่องที่จะออนแอร์ในปี 2026

(ซีรีส์ GL จากค่าย GMMTV ในปี 2026   : - Ditto ระฟ้าหล่นสวรรค์ - ขนมปังชีสเนย (Bake Love Feelings) - คืนนั้นฉันมองเห็นดาวด้วยตาเปล่า Wish upon a star - เงาใต้พระจันทร์ Moonshadow - ลัลล์ไม่ชอบไวน์ Enemies With Benefits - ให้รักกังวานในใจ Love's Echoes - Oxytocin จุนใจ ไอดาว - Her รักของเธอ)

ซึ่งนั้นทำให้ผู้ชมคาดหวังคุณภาพระดับสตรีมมิ่ง ซึ่งอยากแนะนำช่อง3ให้ทีมงานมีเวลา
- พัฒนาบทให้แน่น (ปรึกษานักเขียนนิยายด้วยจะดีมาก)
- วางภาพ และอารมณ์ให้ชัดเจน
- ทำงานโปรดักชันอย่างละเอียดและถี่ถ้วน
 
4. สื่อสารภาพลักษณ์ซีรีส์พรีเมียมตั้งแต่ก่อนถ่ายทำ
 เพื่อให้ลูกค้าโฆษณาเห็นความจริงจังและมั่นใจในการซื้อ slot ตั้งแต่ช่วงต้น
 
5. ใช้แรงสนับสนุนของฐานแฟนคลับอย่างชาญฉลาด
 แฟนคลับพร้อมซัพพอร์ตอย่างหนัก แต่สิ่งที่ต้องมาคู่กันคือ “คุณภาพงาน” เพื่อให้กระแสดีตั้งแต่ต้นไปจนถึงตอนสุดท้าย


สรุป: นี่คือเวลาที่เหมาะที่สุดในการยกระดับซีรีส์ช่อง 3
หลิง–ออมคือนักแสดงที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ให้ช่องตั้งแต่วันแรกของการออกอากาศ และถ้าช่องสามเลือกลงทุนอย่างจริงจังในครั้งนี้ “วาดฝันวันวิวาห์” จะไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่ขายได้ดี แต่จะเป็นผลงานที่ พาช่องกลับสู่ภาพลักษณ์องค์กรที่ผลิตซีรีส์คุณภาพ และสร้างรายได้อย่างก้าวกระโดดให้ช่องในปีนี้ และการลงทุนตอนนี้ จะทำให้ช่องสามได้ผลตอบแทนมากกว่าเดิมหลายเท่า และนี่เป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด
.
.
*สิ่งที่อยากเพิ่มเติมให้ทางช่องรับไว้พิจารณา*

1. มาลีนนท์ gift shop
- ขายบง(แท่งไฟ) / เมิช เพิ่มอีก 1 ช่องทางเป็นรายได้เข้าช่อง อย่างถ้าช่วงไหนมีละครเรื่องนั้นๆออน ก้สามารถเอาของมาขายใต้ตึกได้ในช่วงนั้นๆ แต่สำหรับ หลิงออมหรือ gl ช่องนี่อาจจะต้องสต้อกของไว้เพราะมีอินเตอร์แฟนบินมาไทยแล้วรอที่ใต้ตึก (ขออนุญาติยกตัวอย่างเมิชน่ารักๆของค่าย sm ค่ะ ออกแบบได้ดีมากจริงๆ)



(ช่อง3 ควรหาคนทำกราฟฟิคดีไซน์หรือไปจ้างคนที่งานร่วมสมัยมาออกแบบให้ช่องจริงๆค่ะ บางอันเราเห็นแล้วรู้สึกเหมือนดูงานสมัย Window xp ปี 2001)

- อย่างน้อยก็มีของราคา200+ให้เด็กนักเรียนนักศึกษาเข้าถึงได้บ้างค่ะ เช่นพวกกิ๊ฟ พวกการ์ดที่ใส่บัตร นอกจากการ์ดสุ่ม150 จากที่ตึกเตยขายราคา600อัพหมดเลย เราว่ามันแอบสูงสำหรับแฟนคลับวัยเรียนไปหน่อยค่ะ (ด้อมม่วงไม่ได้มีแค่สาวใหญ่นะคะ!!)
 
2. การเอาสินค้าของหลิงออม (แท่งไฟ / เมิช / พวงกุญแจ)
ไปขายหน้างานเวลามีแฟนมีตที่ต่างประเทศหรือจัดมีตในประเทศเพราะหลิงออมมีแฟนคลับที่เป็นอินเตอร์แฟนเยอะ และบางคนก็กดพรีออเดอร์ไม่ทันเหมือนกันเนืองจากค่าส่งแพง การเอาสินค้าไปขายหน้างานก็อาจเป็นทางเลือกนึงที่ช่วยเพิ่มรายได้เข้าช่องนะคะ แต่ขอชมช่องอย่างนึงเลยคือ ออกแบบแท่งไฟสวยมากก ราคาดี คุณภาพไม่ต่างกับแท่งไฟของเคป็อปเลย ประทับใจจริงๆค่ะ


3.มาสคอตของหลิงออม / นักแสดงในช่อง
เป็นการลงทุนอีกรูปแบบนึงของ Artist Management แต่เป็นรูปแบบมาสคอต ซึ่งนั้นสามารถทำคาแรคเตอร์ขายได้ » ดึงความสนใจให้แก่คนนอก เพื่อดึงดูดให้คนเห็นว่านอกจากมาสคอตแล้ว ต้นสังกัดที่ดูแลมีอะไรให้น่าติดตามเพิ่มบ้าง (ทำไม่ทำก็ได้ แล้วแต่ช่อง อยากเสนอเฉยๆ)




4. การเลี้ยงกระแส / เพิ่มคนสมัคร 3 plus
แฟนคลับส่วนมากหลังจากซีรีย์เพียงเธอจบ หลายๆคนก็ได้ยกเลิก 3plus โดยทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าคือ เพราะหลิงออมไม่มีคอนเทนต์ให้ดู (ถ้าไม่ใช่งานลูกค้า) ไม่มี vlog และรีแอค หรืออะไรก็ตามให้ดูเลยจริงๆ ถ้าช่องจะดึงคนเพิ่ม ก็ต้องนัดคิวหรือจัดตารางมาเพื่อถ่ายทำค่ะ หรือเวลาซีรีย์ออนก็ตัด Ver. Uncut มาลงในแอพนี้ก็ได้ หรือไม่ก็เวลามีvlog ก็ตัดลงทวิตหรือในยุทูปสัก 10-15 นาที แล้วที่เหลือก็ลงเต็มๆในแอพ 3plus ก็ได้ (อย่าลืมทำซับ14ภาษา จะเอาเพิ่มมั๊ยเงินกับแฟนคลับอ่ะ)
 
 
5.Reality หลิงออม
นี่เป็นหัวข้อที่อยากเขียนที่สุด ซึ่งนอกจากช่องสามจะได้เงินแล้ว ด้อมม่วงยังได้ฟินอีก แฟร์มาก เพราะถ้าเรียลิตี้หลิงออมได้ลง full Ver. ในแอพ ร้อยทั้งร้อยด้อมนี้ก็สมัครเพื่อดูแน่นอน ทางเราไม่ใช่คอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือครีเอทีฟใดๆ แต่อยากแนะนำว่าหลิงออมถือแบรนด์ในมืออยู่ 20 กว่าตัวนี้ สามารถขายในเรียลิตี้ได้สบายๆเลยนะ

- นั่ง grab ไปบ้านโครงการแสนสิริ ที่ทั้ง2 ต้องมาทำภารกิจด้วยกัน เช่น ครีเอทเมนูให้กันโดยใช้ bite me / luv oat / ทำผมให้กันโดยใช้ Pantene กับไดรื lesasha / แข่งกันถ่ายรูปให้ตรงกับโจทย์ที่ได้ด้วย Vivo แล้วให้ทีมงานเลือกว่าของใครตรงโจทย์ที่สุด ฯลฯ แค่นี้ก็สามารถเอาแบรนด์ที่ 2 คนนี้ถือมาทำเรียลิตี้ได้แล้ว ลง 3plus อาทิตย์ละตอนยังได้เห็น กำไรเห็นๆ ถือว่าเลี้ยงกระแสไปด้วย


6. แอคเคาท์สำหรับหลิงออมโดยเฉพาะที่ไม่ใช่แอคซีรีย์
เป็นแอคเคาท์ไว้สำหรับอัพเดทแก้ไขตารางงานของหลิงออมโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องตามจากแอครวมของช่องหรือแอคเคาท์ที่เอาไว้อัพเดทซีรีย์ เป็นแอคเคาท์ที่เปืดมาเพื่อศิลปินโดยเฉพาะ

7. ทีมกฎหมาย
ทีมกฎหมายที่ทำมากกว่าออกสเตรทเม้นขู่ฟ้อง แต่จัดการกับคนที่ทำผิดจริงๆกับศิลปิน เช่น พวกแอนตี้เชิงพาณิชย์ ซาแซง (สต็อกเกอร์) / ซาแซงออนไลน์ เพราะ 2 ปี ที่ผ่านมา ช่องอาจปกป้องศิลปินโดนการจัดการเงียบ แต่อย่างไรก็ตาม ควรมีเคสฟ้องโดยระบุตัวตนของผู้กระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ Hate train , Fake news หรือกุเรื่องโดนไม่มีหลักฐานหรือมีพฤติกรรมชี้นำให้เกิดความเกลียดชังต่อศิลปิน เพราะหลายครั้งที่แฟนคลับทำได้เพียงอดทนต่อกระแสความเกลียดชังของชาวเน็ตที่รุกลามอย่างรวดเร็ว และลามปามวิจารณ์ศิลปินโดยเกินกว่าเหตุ

9. ซับภาษา
ทำซับสัก 14 ภาษา แฟนคลับหลิงออมไม่ได้มีแค่จีนนะคะ 2คนนี้ดังระดับ global แล้วนะ จะเอามั๊ยแฟนคลับเพิ่มกับเงินเพิ่มอ่ะ มีซับเยอะๆ ค่าทำซับไม่ได้แพงเลย ลงทุนนิดนึงน้า ต่อยอดอะไรได้เยอะมากเลยนะกับการเปิดทางให้กับภาษาอื่นอ่ะ ได้แฟนคลับเพิ่มด้วยนะ

9.แฟนคอน
- ให้เวลา 2 คนนี้ซ้อมเยอะๆ ให้ร้องเพลงที่เข้าปากหน่อย สังเกตมีในไทยกี่รอบช่องให้เวลาซ้อม 1 เดือนก่อนโชว์ การที่ให้เพลงยากๆและท่าเต้นยากๆในเวลาจำกัดนี่สงสารนักแสดงมากๆเลยค่ะ (อ่านต่อข้างล่าง)