ท่ามกลางเสียงสงสัยว่าทำไมครั้งนี้ไม่เห็น สรยุทธ สุทัศนะจินดา ลงพื้นที่ช่วยเหตุการณ์น้ำท่วม ผู้ประกาศข่าวคนดังเปิดใจแบบตรงไปตรงมา พร้อมเหตุผลที่ทำให้หลายคนต้องสะอึก
.
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้และน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้รุนแรงต่อเนื่อง หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของภาครัฐและอาสาสมัคร กลับมีเสียงถามหาว่าทำไมไม่เห็น
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ลงพื้นที่เหมือนที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเฉลยด้วยตัวเอง
ในรายการ
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ตอบคำถามแฟนข่าวที่สงสัยว่าทำไมรอบนี้ถึงไม่เห็นลงพื้นที่ เจ้าตัวเผยว่าแอบรู้สึกเซ็งเล็กน้อย เพราะทุกครั้งที่ลงพื้นที่มักถูกโยงเข้าประเด็นการเมืองจนกลายเป็นแรงเสียดทานตามมาเสมอ
.
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ยอมรับว่า ในอดีต การลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยของเขามักถูกตีความว่า ชิงตัดหน้าการทำงานฝ่ายการเมือง ทำให้ต้องคอยย้ำอยู่ตลอดเวลาว่ารัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดปัญหาเพิ่มเติม
.
นอกจากนี้ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังเล่าว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่สามารถลงพื้นที่ได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยดูแลเหมือนเมื่อก่อน จึงเลือกที่จะทำหน้าที่อยู่หน้าจอ พูดทุกอย่างอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดแรงกระแทกที่อาจไปซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้าน
.
"ความจริงคือผมลงเองไม่ได้หรอก เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วย สมัยก่อนมีตำรวจน้ำคู่กัน แต่รอบนี้เลือกอยู่ตรงนี้เพื่อพูดให้ถนัด ๆ ดีกว่า เพราะถ้าลงไปแล้วเกิดแรงกระแทกอีก การบริหารจัดการที่ชาวบ้านเดือดร้อนอยู่แล้วอาจจะยิ่งยุ่งยาก"
.
ระหว่างอธิบายถึงการตัดสินใจครั้งนี้ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังเปรียบเทียบภาพการทำงานของรัฐบาล โดยพูดถึงคำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี และการลงพื้นที่ของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายฝ่ายกำลังติดตาม

โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ล่าช้าในการรับมือสถานการณ์ ยืนยันช่วยเหลือเต็มที่ โดยมีการตั้งศูนย์บัญชาการและระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างเต็มกำลัง พร้อมยืนยันว่าปัญหาหน้างานมีการแก้ไขตามลำดับ และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบบริหารจัดการ แต่ภาพที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลับต่างออกไป เมื่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ต้องนั่งซ้อนเจ็ตสกีฝ่าน้ำเชี่ยวเข้าไปยังจุดที่ถูกระบุว่า "เข้าไม่ได้" เพื่อช่วยชาวบ้านกว่า 200 คนที่ยังติดค้างอยู่
.
ขณะเดียวกัน คลิปเหตุการณ์ในพื้นที่เผยให้เห็นช่วงเวลาที่ ร.อ. ธรรมนัส ตะโกนสั่งการด้วยอารมณ์โกรธ หลังพบเรือท้องแบนของ ปภ. จอดอยู่แต่ไม่เข้าไปรับผู้ประสบภัย โดยอ้างว่าพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้เขาสวนกลับทันทีว่า ผมเอาเจ็ตสกีเข้าไปรับได้ แล้วเรือท้องแบนทำไมจะเข้าไม่ได้ นี่คือคนไทยที่ถูกทอดทิ้ง พร้อมชี้ไปที่เรือจำนวนมากที่จอดนิ่งไม่มีคนขับ ก่อนสั่งการเสียงดังว่า ไปช่วยชาวบ้านได้ ชาวบ้านอีก 200 กว่าชีวิต เข้าได้ ผมยืนยันว่าเข้าได้ ปัดความรับผิดชอบไม่ได้
.
เหตุการณ์ตึงเครียดครั้งนี้จบลงด้วยการสามารถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปได้สำเร็จ และยังสะท้อนความโกลาหลของสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็บ่งชี้ให้เห็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้คนข่าวอย่าง สรยุทธ เลือกถอยออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่าทางการเมือง ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามยังต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนแข่งกับเวลาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา :
kapook
สรยุทธ เปิดใจตรง ๆ ทำไมรอบนี้ไม่ลงพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่
.
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้และน้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้รุนแรงต่อเนื่อง หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของภาครัฐและอาสาสมัคร กลับมีเสียงถามหาว่าทำไมไม่เห็น สรยุทธ สุทัศนะจินดา ลงพื้นที่เหมือนที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเฉลยด้วยตัวเอง
โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ล่าช้าในการรับมือสถานการณ์ ยืนยันช่วยเหลือเต็มที่ โดยมีการตั้งศูนย์บัญชาการและระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างเต็มกำลัง พร้อมยืนยันว่าปัญหาหน้างานมีการแก้ไขตามลำดับ และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบบริหารจัดการ แต่ภาพที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลับต่างออกไป เมื่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ต้องนั่งซ้อนเจ็ตสกีฝ่าน้ำเชี่ยวเข้าไปยังจุดที่ถูกระบุว่า "เข้าไม่ได้" เพื่อช่วยชาวบ้านกว่า 200 คนที่ยังติดค้างอยู่
.
ขณะเดียวกัน คลิปเหตุการณ์ในพื้นที่เผยให้เห็นช่วงเวลาที่ ร.อ. ธรรมนัส ตะโกนสั่งการด้วยอารมณ์โกรธ หลังพบเรือท้องแบนของ ปภ. จอดอยู่แต่ไม่เข้าไปรับผู้ประสบภัย โดยอ้างว่าพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้เขาสวนกลับทันทีว่า ผมเอาเจ็ตสกีเข้าไปรับได้ แล้วเรือท้องแบนทำไมจะเข้าไม่ได้ นี่คือคนไทยที่ถูกทอดทิ้ง พร้อมชี้ไปที่เรือจำนวนมากที่จอดนิ่งไม่มีคนขับ ก่อนสั่งการเสียงดังว่า ไปช่วยชาวบ้านได้ ชาวบ้านอีก 200 กว่าชีวิต เข้าได้ ผมยืนยันว่าเข้าได้ ปัดความรับผิดชอบไม่ได้
.
เหตุการณ์ตึงเครียดครั้งนี้จบลงด้วยการสามารถลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปได้สำเร็จ และยังสะท้อนความโกลาหลของสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็บ่งชี้ให้เห็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้คนข่าวอย่าง สรยุทธ เลือกถอยออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่าทางการเมือง ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามยังต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนแข่งกับเวลาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : kapook