ช่วงนี้อยากตั้งกระทู้ถามเพื่อน ๆ นักลงทุนหน่อยค่ะ เพราะตอนนี้ พอร์ตแดง หนักพอสมควร จนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจว่าควร “ทำยังไงให้กลับมาเขียว” แบบมีหลักการ ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือไล่ซื้อไล่ขายแบบไม่มีแผน เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่เจอ และอยากขอความคิดเห็นจากทุกคนว่า มีวิธีจัดการพอร์ตช่วงเวลายาก ๆ แบบนี้อย่างไรบ้าง
ทำไมพอร์ตถึงแดง?
หลายคนที่ลงทุนมานานน่าจะคุ้นเคยกับสภาวะตลาดที่ผันผวน บางวันดี บางวันแย่ แต่สำหรับมือใหม่อย่างเรา พอเจอพอร์ตแดงติดต่อกันหลายวัน/หลายสัปดาห์ มันเริ่มไม่มั่นใจเหมือนตอนแรก ๆ
เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้พอร์ตเราแดงมีประมาณนี้:
1.หุ้นหรือกองทุนที่ถืออยู่ขาลง
บางตัวซื้อเพราะกระแส ไม่ได้เช็กพื้นฐาน พอตลาดปรับฐาน ราคาก็ลงแรงกว่าตลาดรวม
2.จังหวะเข้าซื้อไม่ดี
ซื้อดอยหลายตัว ตอนตลาด Peak พอราคาย่อก็กลายเป็นขาดทุนแทบทั้งพอร์ต
3.กระจายความเสี่ยงยังไม่ดี
ถือหุ้นกระจุก ไม่ได้มี ETF หรือสินทรัพย์ที่ช่วยบาลานซ์ความผันผวน
4.ไม่มีแผน แต่ใช้ความรู้สึก
อันนี้ยอมรับเลยว่ามีส่วนมาก ซื้อเพราะกลัวตกรถ ไม่ได้ตั้ง Stop loss หรือดูแนวโน้มจริงจัง
ความรู้สึกตอนพอร์ตแดง
ต้องสารภาพว่าพอร์ตแดงมันกระทบจิตใจมากจริง ๆ ค่ะ เปิดพอร์ตทีไรก็เครียด ยิ่งเห็นกราฟแดง ๆ ก็ยิ่งลังเลว่าจะถือดีไหม ควรขายไหม หรือซื้อเพิ่มเฉลี่ยดี แล้วพออ่านข้อมูลเยอะ ๆ ก็ยิ่งสับสนไปหมด
ก็เลยอยากมาถามเพื่อนนักลงทุนว่า ทุกคนมีวิธีตั้งสติหรือจัดการอารมณ์ยังไงช่วงที่พอร์ตขาดทุนหนัก ๆ แบบนี้?
คำถามหลักของกระทู้นี้ — พอร์ตแดง ทำยังไงให้กลับมาเขียว?
จริง ๆ ก็ไม่ได้หวังคำตอบแบบสูตรสำเร็จนะคะ เพราะแต่ละคนมีกลยุทธ์ต่างกัน แต่มีหลายแนวคิดที่กำลังสนใจเลยอยากขอความคิดเห็นว่า:
1. ควร “ถือไปก่อน” หรือ “ตัดขาดทุน” ดี?
บางคนบอกว่าถ้าพื้นฐานดี ให้ถือต่อ แต่ถ้าซื้อเพราะโมเมนตัมหรือไม่รู้พื้นฐาน อาจต้องยอมตัดก่อนยืดเยื้อ แบบนี้เพื่อน ๆ ใช้หลักอะไรในการตัดสินใจบ้าง?
2. การ DCA ลงทุนถัวเฉลี่ยยังเวิร์กไหม?
บางคนบอกว่าเวลาตลาดลงคือโอกาสในการเก็บของดีราคาถูก แต่ก็มีความเสี่ยงว่าอาจถัวเฉลี่ยหุ้นที่พื้นฐานไม่แข็งแรง
เวลาพอร์ตแดงแบบนี้ เพื่อน ๆ ถัวเฉลี่ยเฉพาะสินทรัพย์ที่มั่นใจ หรือหยุดรอให้แนวโน้มมั่นคงก่อนคะ?
3. ควรกระจายพอร์ตเพิ่มไหม?
หลายคนแนะนำให้เพิ่ม ETF อย่าง S&P 500, NASDAQ หรือทองคำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในภาพรวม ของทุกคนใช้วิธีนี้ไหม? แล้วช่วยได้จริงแค่ไหน?
4. การตั้งแผนพอร์ตใหม่ควรเริ่มยังไง?
ถ้าตอนแรกไม่มีแผนเลย แล้วตอนนี้พอร์ตแดง จะเริ่มเขียนแผนใหม่จากตรงไหนก่อนดี?
เป้าหมาย? สไตล์ลงทุน? ความเสี่ยงที่รับได้? หรือควรดูที่สินทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนเป็นอันดับแรก?
แนวคิดที่เริ่มรู้สึกว่าอาจช่วยให้พอร์ตกลับมาเขียว
หลังจากอ่านข้อมูลหลายแหล่ง เริ่มสรุปแนวทางที่คิดว่าอาจช่วยได้ แต่ยังอยากฟังความเห็นเพิ่ม:
1. โฟกัสที่พื้นฐานระยะยาว
หยุดตามกระแสแล้วเลือกสินทรัพย์ที่มีคุณภาพจริง ๆ อย่าง ETF หรือตลาดใหญ่ ๆ
2. ลดหุ้นเสี่ยงสูง
ถ้าตัวไหนผันผวนมากหรือพื้นฐานไม่ชัดเจน อาจต้องลดสัดส่วนหรือขายทิ้งไปก่อนเพื่อบริหารความเสี่ยง
3. ตั้งกฎการลงทุนใหม่
เช่น ไม่ซื้อเพราะเพื่อนบอก ไม่ไล่ราคา ตั้ง Stop loss ตั้ง Take profit ฯลฯ
4. ค่อย ๆ เติมเงินเมื่อมั่นใจ
ไม่ต้องรีบซื้อกลับทั้งพอร์ต แต่ค่อย ๆ เข้าเมื่อแนวโน้มชัดเจนกว่าเดิม
สรุปเลยอยากถามเพื่อน ๆ นักลงทุนว่า…
มีวิธีไหนที่ใช้แล้วได้ผลบ้าง?
มีข้อผิดพลาดอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง?
หรือมีมุมมองเรื่อง Mindset, การเลือกสินทรัพย์ หรือการวางพอร์ตที่อยากแชร์ไหม?
อยากฟังประสบการณ์ของทุกคนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสายไหน เพราะเชื่อว่ามุมมองที่หลากหลายจะช่วยให้คนที่กำลังเจอพอร์ตแดง (รวมถึงตัวเรา) ได้แนวทางใหม่ ๆ ในการแก้เกมและตั้งหลักให้ดีขึ้น
พอร์ตแดง ทำยังไงให้กลับมาเขียว? ขอคำแนะนำจากเพื่อนนักลงทุนหน่อยค่ะ
ทำไมพอร์ตถึงแดง?
หลายคนที่ลงทุนมานานน่าจะคุ้นเคยกับสภาวะตลาดที่ผันผวน บางวันดี บางวันแย่ แต่สำหรับมือใหม่อย่างเรา พอเจอพอร์ตแดงติดต่อกันหลายวัน/หลายสัปดาห์ มันเริ่มไม่มั่นใจเหมือนตอนแรก ๆ
เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้พอร์ตเราแดงมีประมาณนี้:
1.หุ้นหรือกองทุนที่ถืออยู่ขาลง
บางตัวซื้อเพราะกระแส ไม่ได้เช็กพื้นฐาน พอตลาดปรับฐาน ราคาก็ลงแรงกว่าตลาดรวม
2.จังหวะเข้าซื้อไม่ดี
ซื้อดอยหลายตัว ตอนตลาด Peak พอราคาย่อก็กลายเป็นขาดทุนแทบทั้งพอร์ต
3.กระจายความเสี่ยงยังไม่ดี
ถือหุ้นกระจุก ไม่ได้มี ETF หรือสินทรัพย์ที่ช่วยบาลานซ์ความผันผวน
4.ไม่มีแผน แต่ใช้ความรู้สึก
อันนี้ยอมรับเลยว่ามีส่วนมาก ซื้อเพราะกลัวตกรถ ไม่ได้ตั้ง Stop loss หรือดูแนวโน้มจริงจัง
ความรู้สึกตอนพอร์ตแดง
ต้องสารภาพว่าพอร์ตแดงมันกระทบจิตใจมากจริง ๆ ค่ะ เปิดพอร์ตทีไรก็เครียด ยิ่งเห็นกราฟแดง ๆ ก็ยิ่งลังเลว่าจะถือดีไหม ควรขายไหม หรือซื้อเพิ่มเฉลี่ยดี แล้วพออ่านข้อมูลเยอะ ๆ ก็ยิ่งสับสนไปหมด
ก็เลยอยากมาถามเพื่อนนักลงทุนว่า ทุกคนมีวิธีตั้งสติหรือจัดการอารมณ์ยังไงช่วงที่พอร์ตขาดทุนหนัก ๆ แบบนี้?
คำถามหลักของกระทู้นี้ — พอร์ตแดง ทำยังไงให้กลับมาเขียว?
จริง ๆ ก็ไม่ได้หวังคำตอบแบบสูตรสำเร็จนะคะ เพราะแต่ละคนมีกลยุทธ์ต่างกัน แต่มีหลายแนวคิดที่กำลังสนใจเลยอยากขอความคิดเห็นว่า:
1. ควร “ถือไปก่อน” หรือ “ตัดขาดทุน” ดี?
บางคนบอกว่าถ้าพื้นฐานดี ให้ถือต่อ แต่ถ้าซื้อเพราะโมเมนตัมหรือไม่รู้พื้นฐาน อาจต้องยอมตัดก่อนยืดเยื้อ แบบนี้เพื่อน ๆ ใช้หลักอะไรในการตัดสินใจบ้าง?
2. การ DCA ลงทุนถัวเฉลี่ยยังเวิร์กไหม?
บางคนบอกว่าเวลาตลาดลงคือโอกาสในการเก็บของดีราคาถูก แต่ก็มีความเสี่ยงว่าอาจถัวเฉลี่ยหุ้นที่พื้นฐานไม่แข็งแรง
เวลาพอร์ตแดงแบบนี้ เพื่อน ๆ ถัวเฉลี่ยเฉพาะสินทรัพย์ที่มั่นใจ หรือหยุดรอให้แนวโน้มมั่นคงก่อนคะ?
3. ควรกระจายพอร์ตเพิ่มไหม?
หลายคนแนะนำให้เพิ่ม ETF อย่าง S&P 500, NASDAQ หรือทองคำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในภาพรวม ของทุกคนใช้วิธีนี้ไหม? แล้วช่วยได้จริงแค่ไหน?
4. การตั้งแผนพอร์ตใหม่ควรเริ่มยังไง?
ถ้าตอนแรกไม่มีแผนเลย แล้วตอนนี้พอร์ตแดง จะเริ่มเขียนแผนใหม่จากตรงไหนก่อนดี?
เป้าหมาย? สไตล์ลงทุน? ความเสี่ยงที่รับได้? หรือควรดูที่สินทรัพย์ที่มีอยู่ก่อนเป็นอันดับแรก?
แนวคิดที่เริ่มรู้สึกว่าอาจช่วยให้พอร์ตกลับมาเขียว
หลังจากอ่านข้อมูลหลายแหล่ง เริ่มสรุปแนวทางที่คิดว่าอาจช่วยได้ แต่ยังอยากฟังความเห็นเพิ่ม:
1. โฟกัสที่พื้นฐานระยะยาว
หยุดตามกระแสแล้วเลือกสินทรัพย์ที่มีคุณภาพจริง ๆ อย่าง ETF หรือตลาดใหญ่ ๆ
2. ลดหุ้นเสี่ยงสูง
ถ้าตัวไหนผันผวนมากหรือพื้นฐานไม่ชัดเจน อาจต้องลดสัดส่วนหรือขายทิ้งไปก่อนเพื่อบริหารความเสี่ยง
3. ตั้งกฎการลงทุนใหม่
เช่น ไม่ซื้อเพราะเพื่อนบอก ไม่ไล่ราคา ตั้ง Stop loss ตั้ง Take profit ฯลฯ
4. ค่อย ๆ เติมเงินเมื่อมั่นใจ
ไม่ต้องรีบซื้อกลับทั้งพอร์ต แต่ค่อย ๆ เข้าเมื่อแนวโน้มชัดเจนกว่าเดิม
สรุปเลยอยากถามเพื่อน ๆ นักลงทุนว่า…
มีวิธีไหนที่ใช้แล้วได้ผลบ้าง?
มีข้อผิดพลาดอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง?
หรือมีมุมมองเรื่อง Mindset, การเลือกสินทรัพย์ หรือการวางพอร์ตที่อยากแชร์ไหม?
อยากฟังประสบการณ์ของทุกคนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสายไหน เพราะเชื่อว่ามุมมองที่หลากหลายจะช่วยให้คนที่กำลังเจอพอร์ตแดง (รวมถึงตัวเรา) ได้แนวทางใหม่ ๆ ในการแก้เกมและตั้งหลักให้ดีขึ้น