ภาพลวงตาของ Dividend Yield สูง
Dividend Yield สูงไม่ได้แปลว่าดี
– คุณภาพปันผลต้องดู ROIC – WACC ด้วย
นักลงทุนไทยจำนวนมากเลือกหุ้น
จาก Dividend Yield สูง
เพราะเชื่อว่าปันผลเยอะเท่ากับผลตอบแทนดี
แต่ในความเป็นจริง “ยีลด์สูง”
มักเป็น สัญญาณเตือน
หากบริษัทนั้น ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าต้นทุนทุน (WACC)
เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิดนี้
ผมใช้เครื่องมือสำคัญอย่าง
Dividend Quality Map
– กราฟที่วาง Dividend Yield เทียบกับ ROIC – WACC
ภาพเพียงภาพเดียว
ช่วยเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าใครคือ
Quality Dividend จริง ๆ
และใครคือ Dividend Trap
ROIC – WACC คืออะไร?
และทำไมสำคัญกว่า Dividend Yield
ROIC (Return on Invested Capital)
คืออัตราผลตอบแทนที่บริษัทสร้างได้จากเงินทุนที่ใส่เข้าไป
→ วัด “คุณภาพธุรกิจ”
WACC (Weighted Average Cost of Capital)
ต้นทุนของเงินทุนบริษัท (ทั้งหนี้ + ทุน)
→ วัด “ต้นทุนการทำธุรกิจ”
ถ้า ROIC > WACC → ธุรกิจสร้างมูลค่า (Value Creating)
ถ้า ROIC < WACC → ธุรกิจทำลายมูลค่า (Value Destroying)
นั่นคือปัจจัยเบื้องหลังที่กำหนดว่า ปันผลยั่งยืนจริงไหม
Dividend Quality Map บอกอะไรเรา?
ดูกราฟด้านล่าง:
(กราฟคุณสร้างไว้แล้ว)
แกน X → ROIC – WACC
แกน Y → Dividend Yield (%)
กราฟแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่
1) High Yield + ROIC > WACC → Quality Dividend (ของจริง)
หุ้นในโซนนี้ “ให้ปันผลสูง + คุณภาพดี”
เพราะสร้างผลตอบแทนเกินต้นทุนทุนได้อย่างยั่งยืน
ตัวอย่าง:
ADVANC → ROIC – WACC = +11.05%
HMPRO → +4.93%
PTTEP → +1.96%
จุดเด่นคือ:
มี Free Cash Flow สูง
มีความสามารถในการแข่งขัน
ปันผลไม่ใช่แค่ “สูง” แต่ “ยั่งยืน” ด้วย
นี่คือหุ้นที่สามารถถือยาวในพอร์ตปันผล
2) High Yield + ROIC < WACC → Dividend Trap (หลอกให้ซื้อด้วย Yield)
นี่คือกับดักยอดนิยมของนักลงทุนมือใหม่
บริษัทให้ปันผลสูงเพราะ “ราคาหุ้นตกเรื้อรัง” และธุรกิจสร้างมูลค่าไม่ได้
ตัวอย่าง:
SIRI → ROIC – WACC = –4.67%
PTT → –2.43%
CPF → –2.71%
ถึงแม้ยีลด์สูง 7–10%
แต่ธุรกิจสร้างกำไรไม่คุ้มต้นทุนทุน
ราคาหุ้นจึงไม่ขึ้น หรืออาจลงต่อในระยะยาว
ปันผลปีนี้อาจได้
แต่ Capital Loss อาจมากกว่าในระยะยาว
3) Yield ปานกลาง แต่ ROIC ต่ำกว่า WACC
— ไม่ใช่ Quality แต่ยังไม่ถึง Trap
หุ้นกลุ่มนี้มีมุมที่ดี แต่ธุรกิจยังสร้างผลตอบแทนต่ำกว่าต้นทุนทุน
ตัวอย่าง:
M (MK) → ROIC – WACC = –1.06%
ปันผลดี แต่แบบนี้ยั่งยืนในระยะยาวยาก
บทสรุปที่นักลงทุนควรจำ
ปันผลสูง ไม่ได้แปลว่าดี
ปันผลดีต้องมาจาก “ธุรกิจดี”
ดู ROIC – WACC เพื่อวัดคุณภาพธุรกิจ
ดู Dividend Yield เพื่อวัดผลตอบแทนกระแสเงินสด
การรวมสองสิ่งนี้ทำให้เห็นภาพชัดที่สุดว่าใครคือ Quality Dividend
Credit
Page Wealth Guru
ความรู้ใหม่เกี่ยวกับหุ้นปันผล from Wealth Guru 📍
ภาพลวงตาของ Dividend Yield สูง
Dividend Yield สูงไม่ได้แปลว่าดี
– คุณภาพปันผลต้องดู ROIC – WACC ด้วย
นักลงทุนไทยจำนวนมากเลือกหุ้น
จาก Dividend Yield สูง
เพราะเชื่อว่าปันผลเยอะเท่ากับผลตอบแทนดี
แต่ในความเป็นจริง “ยีลด์สูง”
มักเป็น สัญญาณเตือน
หากบริษัทนั้น ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าต้นทุนทุน (WACC)
เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิดนี้
ผมใช้เครื่องมือสำคัญอย่าง
Dividend Quality Map
– กราฟที่วาง Dividend Yield เทียบกับ ROIC – WACC
ภาพเพียงภาพเดียว
ช่วยเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าใครคือ
Quality Dividend จริง ๆ
และใครคือ Dividend Trap
ROIC – WACC คืออะไร?
และทำไมสำคัญกว่า Dividend Yield
ROIC (Return on Invested Capital)
คืออัตราผลตอบแทนที่บริษัทสร้างได้จากเงินทุนที่ใส่เข้าไป
→ วัด “คุณภาพธุรกิจ”
WACC (Weighted Average Cost of Capital)
ต้นทุนของเงินทุนบริษัท (ทั้งหนี้ + ทุน)
→ วัด “ต้นทุนการทำธุรกิจ”
ถ้า ROIC > WACC → ธุรกิจสร้างมูลค่า (Value Creating)
ถ้า ROIC < WACC → ธุรกิจทำลายมูลค่า (Value Destroying)
นั่นคือปัจจัยเบื้องหลังที่กำหนดว่า ปันผลยั่งยืนจริงไหม
Dividend Quality Map บอกอะไรเรา?
ดูกราฟด้านล่าง:
(กราฟคุณสร้างไว้แล้ว)
แกน X → ROIC – WACC
แกน Y → Dividend Yield (%)
กราฟแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่
1) High Yield + ROIC > WACC → Quality Dividend (ของจริง)
หุ้นในโซนนี้ “ให้ปันผลสูง + คุณภาพดี”
เพราะสร้างผลตอบแทนเกินต้นทุนทุนได้อย่างยั่งยืน
ตัวอย่าง:
ADVANC → ROIC – WACC = +11.05%
HMPRO → +4.93%
PTTEP → +1.96%
จุดเด่นคือ:
มี Free Cash Flow สูง
มีความสามารถในการแข่งขัน
ปันผลไม่ใช่แค่ “สูง” แต่ “ยั่งยืน” ด้วย
นี่คือหุ้นที่สามารถถือยาวในพอร์ตปันผล
2) High Yield + ROIC < WACC → Dividend Trap (หลอกให้ซื้อด้วย Yield)
นี่คือกับดักยอดนิยมของนักลงทุนมือใหม่
บริษัทให้ปันผลสูงเพราะ “ราคาหุ้นตกเรื้อรัง” และธุรกิจสร้างมูลค่าไม่ได้
ตัวอย่าง:
SIRI → ROIC – WACC = –4.67%
PTT → –2.43%
CPF → –2.71%
ถึงแม้ยีลด์สูง 7–10%
แต่ธุรกิจสร้างกำไรไม่คุ้มต้นทุนทุน
ราคาหุ้นจึงไม่ขึ้น หรืออาจลงต่อในระยะยาว
ปันผลปีนี้อาจได้
แต่ Capital Loss อาจมากกว่าในระยะยาว
3) Yield ปานกลาง แต่ ROIC ต่ำกว่า WACC
— ไม่ใช่ Quality แต่ยังไม่ถึง Trap
หุ้นกลุ่มนี้มีมุมที่ดี แต่ธุรกิจยังสร้างผลตอบแทนต่ำกว่าต้นทุนทุน
ตัวอย่าง:
M (MK) → ROIC – WACC = –1.06%
ปันผลดี แต่แบบนี้ยั่งยืนในระยะยาวยาก
บทสรุปที่นักลงทุนควรจำ
ปันผลสูง ไม่ได้แปลว่าดี
ปันผลดีต้องมาจาก “ธุรกิจดี”
ดู ROIC – WACC เพื่อวัดคุณภาพธุรกิจ
ดู Dividend Yield เพื่อวัดผลตอบแทนกระแสเงินสด
การรวมสองสิ่งนี้ทำให้เห็นภาพชัดที่สุดว่าใครคือ Quality Dividend
Credit
Page Wealth Guru