หันมองและวิเคราะห์ "ทฤษฎีมาร์ชเมลโลว์ (The Marshmallow Test)" ในมุมมองที่เปลี่ยนไป

ทฤษฎีมาร์ชเมลโลว์ (The Marshmallow Test)
การทดลอง: 
เด็กได้รับอนุญาตให้กินขนมชิ้นเล็ก (มาร์ชเมลโลว์) ทันที หรือรอสักครู่ (ประมาณ 15 นาที) เพื่อรับขนม 2 ชิ้น 
แนวคิดหลัก: 
เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจและรอได้ มักมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าในระยะยาว 
การนำไปใช้: 
สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การอดออมเพื่อเป้าหมายทางการเงินในอนาคต แทนที่จะใช้จ่ายเพื่อความสุขระยะสั้น 
แต่...
การท้าทายที่เกิดขึ้นคือ..
เด็กๆที่รอเพื่อได้รับขนมสองชิ้น มักจะมาจากครอบครัวที่บ้านมีฐานะและครอบครัวที่มีกฎระเบียบ
ทำให้เด็กพวกนี้ เชื่อมั่นในระบบการสัญญาจากผู้ใหญ่ว่าจะให้เพิ่มเมื่อครบการอดทนรอ
ในขณะที่เด็กอีกกลุ่ม บ้านไม่ได้มีฐานะมากมาย และไม่เชื่อว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่สัญญาว่าจะให้จะเป็นจริง
เพราะโตมาจากครอบครัวที่ไม่มีระบบ มือใครยาวสาวได้สาวเอา กินก่อนได้กินแน่ๆ แต่การรอแล้วอาจจะผิดหวังก็ได้
และแน่นอนเด็กที่โตมาจากครอบครัวมีฐานะ ก็มักจะประสบความสำเร็จมากกว่า
ลองมองตัวเราเองแล้วลองคิดว่า เราโตมาจากครอบครัวแบบไหน สิ่งแวดล้อมแบบไหน

***** ขอเกริ่นมาที่เคสน้ำท่วมหาดใหญ่
เคสนี้ถ้าทางการประกาศอพยพด่วนๆว่าน้ำจะท่วมครั้งใหญ่
ถ้าเป็นประเทศที่ระบบดีทุกอย่างดี แน่นอนว่าชาวบ้านจะเชื่อทางการและเร่งอพยพ
แต่ถ้าเป็นประเทศที่ระบบไม่ดี ขาดความไว้ใจซึ่งกันและกัน ชาวบ้านจะไม่ยอมทิ้งบ้านเรือนหรือทรัพย์สินมีค่าแล้วอพยพอย่างแน่นอน
สิ่งที่เราต้องทำคือสร้างประเทศที่ทำให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบก่อน แล้วปัญหาหลายอย่างจะแก้ไขได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่