🌬 "ดอกสาบเสือ" สัญลักษณ์แห่งสายลมหนาว
🪻
#ดอกสาบเสือ
(ชื่อวิทยาศาสตร์: Chromolaena odorata หรือชื่อเดิม Eupatorium odoratum) เป็นพืชที่มีความสัมพันธ์กับฤดูหนาวในประเทศไทย
🇹🇭
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ
สาบเสือจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเริ่มเย็นและแห้งแล้ง ซึ่งในภาคเหนือของไทยมักจะอยู่ระหว่าง เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม
มีความเชื่อว่าต้นสาบเสือเป็นเหมือน "ดัชนีชี้วัดความแห้งแล้งของอากาศ" เพราะถ้าอากาศไม่แห้งแล้งจริงๆ ต้นสาบเสือจะไม่ค่อยออกดอกเต็มที่ การที่เห็นดอกสาบเสือเบ่งบานจึงเป็นสัญญาณของอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้ง
🪻ดอกจะมีลักษณะเป็นช่อกระจุกสีขาวอมม่วงอ่อนๆ หรือสีฟ้าอ่อนๆ ดูฟูๆ มักขึ้นอยู่ตามริมถนน ทางสาธารณะ หรือพื้นที่รกร้างทั่วไป เมื่อออกดอกพร้อมกันจำนวนมากจะดูสวยงามเหมือนพรมสีขาวอ่อนคลุมพื้นที่
🪻ที่มาของชื่อ "สาบเสือ" ดอกของพืชชนิดนี้จะ ไม่มีกลิ่นหอม แต่กลับมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวคล้าย "กลิ่นสาบ" ตามความเชื่อโบราณเล่าว่าคนสมัยก่อนใช้การวิ่งเข้าไปในดงสาบเสือเพื่อช่วยอำพรางกลิ่นตัวไม่ให้สัตว์ดุร้าย (เช่น เสือ) ได้กลิ่น
🐝ดอกสาบเสือถือเป็นแหล่งอาหาร (น้ำหวานและเกสร) ที่สำคัญอันดับสองของผึ้งเลี้ยงในประเทศไทย รองจากลำไย โดยจะออกดอกในช่วงที่ลำไยอาจจะยังไม่ออกดอก ทำให้เป็นแหล่งอาหารหลักของผึ้งในช่วงฤดูหนาว
สรรพคุณทางยา
🪻ใบ เป็นที่รู้จักกันดีในสรรพคุณช่วย ห้ามเลือดและสมานแผล โดยการนำใบมาขยี้แล้วปิดที่บาดแผลสด
🪻ดอก มีสรรพคุณช่วย ชูกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ
🪻การใช้งานอื่นๆ ต้นและใบสามารถนำไปใช้ทำยาฆ่าแมลงได้
ดอกสาบเสือจึงเป็นภาพคุ้นตาที่สื่อถึง "หน้าหนาว" และ "ความแห้งแล้ง" ในชนบทของไทย แม้จะเป็นวัชพืชริมทาง แต่ก็มีคุณค่าและบทบาทสำคัญทั้งในด้านนิเวศวิทยา สมุนไพร และเป็นสัญลักษณ์ตามฤดูกาล
The Earth
#ดอกไม้
🌬 "ดอกสาบเสือ" สัญลักษณ์แห่งสายลมหนาว 🪻
🪻
#ดอกสาบเสือ
(ชื่อวิทยาศาสตร์: Chromolaena odorata หรือชื่อเดิม Eupatorium odoratum) เป็นพืชที่มีความสัมพันธ์กับฤดูหนาวในประเทศไทย
🇹🇭
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ
สาบเสือจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเริ่มเย็นและแห้งแล้ง ซึ่งในภาคเหนือของไทยมักจะอยู่ระหว่าง เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม
มีความเชื่อว่าต้นสาบเสือเป็นเหมือน "ดัชนีชี้วัดความแห้งแล้งของอากาศ" เพราะถ้าอากาศไม่แห้งแล้งจริงๆ ต้นสาบเสือจะไม่ค่อยออกดอกเต็มที่ การที่เห็นดอกสาบเสือเบ่งบานจึงเป็นสัญญาณของอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้ง
🪻ดอกจะมีลักษณะเป็นช่อกระจุกสีขาวอมม่วงอ่อนๆ หรือสีฟ้าอ่อนๆ ดูฟูๆ มักขึ้นอยู่ตามริมถนน ทางสาธารณะ หรือพื้นที่รกร้างทั่วไป เมื่อออกดอกพร้อมกันจำนวนมากจะดูสวยงามเหมือนพรมสีขาวอ่อนคลุมพื้นที่
🪻ที่มาของชื่อ "สาบเสือ" ดอกของพืชชนิดนี้จะ ไม่มีกลิ่นหอม แต่กลับมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวคล้าย "กลิ่นสาบ" ตามความเชื่อโบราณเล่าว่าคนสมัยก่อนใช้การวิ่งเข้าไปในดงสาบเสือเพื่อช่วยอำพรางกลิ่นตัวไม่ให้สัตว์ดุร้าย (เช่น เสือ) ได้กลิ่น
🐝ดอกสาบเสือถือเป็นแหล่งอาหาร (น้ำหวานและเกสร) ที่สำคัญอันดับสองของผึ้งเลี้ยงในประเทศไทย รองจากลำไย โดยจะออกดอกในช่วงที่ลำไยอาจจะยังไม่ออกดอก ทำให้เป็นแหล่งอาหารหลักของผึ้งในช่วงฤดูหนาว
สรรพคุณทางยา
🪻ใบ เป็นที่รู้จักกันดีในสรรพคุณช่วย ห้ามเลือดและสมานแผล โดยการนำใบมาขยี้แล้วปิดที่บาดแผลสด
🪻ดอก มีสรรพคุณช่วย ชูกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ
🪻การใช้งานอื่นๆ ต้นและใบสามารถนำไปใช้ทำยาฆ่าแมลงได้
ดอกสาบเสือจึงเป็นภาพคุ้นตาที่สื่อถึง "หน้าหนาว" และ "ความแห้งแล้ง" ในชนบทของไทย แม้จะเป็นวัชพืชริมทาง แต่ก็มีคุณค่าและบทบาทสำคัญทั้งในด้านนิเวศวิทยา สมุนไพร และเป็นสัญลักษณ์ตามฤดูกาล
The Earth
#ดอกไม้