เรามี
หรือเราไม่มี
..............
อัตตานุสัย
..........
เพราะความยึดมั่น จึง มีทิฐิว่าเรามีหรือไม่มี
เพราะไม่ยึดมั่น จึงไม่มีเรา ไม่มีทุกข์
แต่
แต่
แต่
...............
นักปฎิบัติ มักหลง ไป
ลืมไป
ในเรื่อง เหตุ แพ่งความ ยึดมั่นและไม่ยึดมั่น
หลงไปในทางอัตตา ว่า บังคับให้ไม่ยึดมั่น
...............
กลายเป็นทิฐิผิดอีกแบบ
ทั้งๆที่ ความรู้ที่ถูกต้องคือ
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
มีเหตุ เกิด เหตุดับ
...................
ความหลงลืม เหตุ และ ละเลย ไม่เห็น เหตุ
คือ เหตุแห่งความทุกข์
ไม่หลงลืมว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
ไม่ใช่อัตตา
บังคับให้ไม่ยึดมั่นไม่ได้ บังคับให้ไม่มี หรือมี ก็ไม่ได้
อัตตานุสัย นอนเนื่องแม้แต่ในเรื่องธรรมะการปฎิบัติ
ประโยชน์ของการคุยกันในเรื่องธรรมะ
คือไม่หลงลืม
...............
คุณอาจตกใจเมื่อคุฯได้ฟังผมพูด สิ่งที่นักปฎิบัติ ลืมบ่อยที่สุด คือ ....................
หรือเราไม่มี
..............
อัตตานุสัย
..........
เพราะความยึดมั่น จึง มีทิฐิว่าเรามีหรือไม่มี
เพราะไม่ยึดมั่น จึงไม่มีเรา ไม่มีทุกข์
แต่
แต่
แต่
...............
นักปฎิบัติ มักหลง ไป
ลืมไป
ในเรื่อง เหตุ แพ่งความ ยึดมั่นและไม่ยึดมั่น
หลงไปในทางอัตตา ว่า บังคับให้ไม่ยึดมั่น
...............
กลายเป็นทิฐิผิดอีกแบบ
ทั้งๆที่ ความรู้ที่ถูกต้องคือ
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
มีเหตุ เกิด เหตุดับ
...................
ความหลงลืม เหตุ และ ละเลย ไม่เห็น เหตุ
คือ เหตุแห่งความทุกข์
ไม่หลงลืมว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
ไม่ใช่อัตตา
บังคับให้ไม่ยึดมั่นไม่ได้ บังคับให้ไม่มี หรือมี ก็ไม่ได้
อัตตานุสัย นอนเนื่องแม้แต่ในเรื่องธรรมะการปฎิบัติ
ประโยชน์ของการคุยกันในเรื่องธรรมะ
คือไม่หลงลืม
...............