
"SEVEN" – หนังที่ทำให้ผมต้องนั่งน้ำลายเหนียว นั่งไม่ติดเบาะ จนแทบจะกลั้นหายใจ!
สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับหนังเรื่องนึงที่ดูจบแล้วมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หายเลยครับ ชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวดี "SEVEN" ครับ ฟังดูธรรมดาๆ ใช่ไหมครับ แต่ขอบอกเลยว่าข้างในมันไม่ธรรมดาอย่างที่คิดแน่นอน
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมไม่ใช่คอหนังโหดร้าย หรือหนังแนวสืบสวนสอบสวนจ๋าอะไรขนาดนั้นครับ แต่พอดีมีเพื่อนแนะนำมาว่าถ้าชอบหนังแนวหักมุม ชอบอะไรที่มันบีบคั้นอารมณ์ ต้องลองดูเรื่องนี้ ผมก็เออ ลองดูก็ได้วะ ไหนๆ ก็ว่างอยู่แล้ว
พอเริ่มดูไปได้ไม่นาน ผมก็รู้ตัวเลยว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยครับ หนังมันค่อยๆ เปิดปม ค่อยๆ ปูเรื่อง เหมือนเชิญเราเข้าไปในโลกอันมืดหม่นของเมืองๆ นึง ที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามและความสิ้นหวัง ตัวละครหลักสองคน คือนักสืบแก่ใกล้เกษียณที่ชื่อ "วิลเลียม สมิธ" (รับบทโดย มอร์แกน ฟรีแมน) กับนักสืบรุ่นน้องไฟแรงที่เพิ่งย้ายมาใหม่ชื่อ "เดวิด มิลส์" (รับบทโดย แบรด พิตต์) สองคนนี้เคมีเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ
วิลเลียม สมิธ นี่คือสุดยอดนักสืบจริงๆ ครับ แกดูสุขุม นิ่งๆ แต่สายตาแกนี่อ่านเกมขาดทุกอย่างเลยครับ เหมือนแกผ่านอะไรมาเยอะจนไม่สะทกสะท้านอะไรอีกแล้ว ส่วนเดวิด มิลส์ นี่ก็ตรงกันข้ามเลยครับ ไฟแรง หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์ร่วมกับคดีมากๆ บางทีก็ดูเหมือนจะใจร้อนเกินไป แต่ก็เป็นเสน่ห์ของตัวละครแกนะ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีคดีฆาตกรรมสุดสยองเกิดขึ้นครับ เหยื่อถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แถมยังมีสัญลักษณ์แปลกๆ ทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ซึ่งทำให้ทั้งสองนักสืบต้องสงสัยว่านี่ไม่ใช่คดีธรรมดาๆ แน่นอน ยิ่งสืบไปยิ่งเจอเหยื่อรายต่อไป รายต่อไป แล้วสิ่งที่น่ากลัวคือ เหยื่อแต่ละรายมันเชื่อมโยงกับ "บาป 7 ประการ" ของศาสนาคริสต์ครับ!
ใช่แล้วครับ "บาป 7 ประการ" – ตัณหา, ความตะกละ, ความโลภ, ความขี้เกียจ, ความโกรธ, ความริษยา, และความหยิ่งยโส แต่ละคดีที่เกิดขึ้นมันก็คือการลงทัณฑ์คนที่ตกอยู่ในบาปเหล่านั้นอย่างแสนสาหัส คนร้ายมันมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแยบยลมากครับ คือการสั่งสอนให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงบาปของตัวเอง
ผมขอยกตัวอย่างคดีแรกๆ ที่เจอครับ มันเป็นคดีที่เกี่ยวกับการ "ความตะกละ" ซึ่งดูไปแล้วก็แบบ… โอโห คนร้ายมันคิดได้ไงวะ แล้ววิธีการลงทัณฑ์มันก็ชวนอ้วกแตกอ้วกแตนมากครับ ดูไปต้องปิดตาบ้าง แอบเอามือปิดปากบ้าง แต่ก็อดดูไม่ได้ เพราะมันอยากรู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือ บรรยากาศครับ มันมืดหม่น ทึมเทา ฝนตกเกือบทั้งเรื่อง ทำให้รู้สึกถึงความสิ้นหวัง ความเสื่อมทรามของเมืองนี้จริงๆ ครับ การถ่ายทำก็ทำได้ดีมากครับ มุมกล้อง การจัดแสง มันส่งเสริมให้หนังดูน่ากลัว น่าขนลุกอยู่ตลอดเวลา
แล้วบทหนังนี่คือสุดยอดครับ มันเขียนมาได้ฉลาดมากๆ การเล่าเรื่องมันค่อยๆ พาเราไปทีละขั้นๆ สร้างความสงสัย ความลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา เราพยายามจะเดาว่าใครคือคนร้าย หรือคนร้ายมันจะทำอะไรต่อไป แต่มันก็ยากมากครับ เพราะคนร้ายมันดูเหมือนจะฉลาดกว่าเราเสมอ
ประเด็นเรื่อง "บาป 7 ประการ" นี่มันทำให้เราได้ย้อนคิดถึงตัวเองเหมือนกันนะครับ ว่าเราเองเคยมีบาปเหล่านี้อยู่ในตัวบ้างไหม แล้วเราจัดการกับมันยังไง หรือเราปล่อยให้มันครอบงำเราอยู่? หนังมันไม่ได้แค่ทำให้เรากลัว แต่ยังทำให้เราฉุกคิดถึงเรื่องศีลธรรม จริยธรรมด้วยครับ
ตลอดทั้งเรื่อง ผมนั่งลุ้น นั่งเดา นั่งคิดไปกับนักสืบทั้งสองคนเลยครับ บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของคดีไปด้วย ยิ่งใกล้จะจบเรื่อง ความกดดันมันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ เสียงดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างอารมณ์ ทำให้หัวใจเราเต้นแรงเป็นจังหวะ
และแล้ว… จุดพีคของเรื่องก็มาถึงครับ! บอกเลยว่าจุดจบของ "SEVEN" นี่คือที่สุดของที่สุดครับ เป็นอะไรที่ผมคาดไม่ถึงเลยจริงๆ แบบว่า… กรามค้างไปเลยครับ! มันหักมุมแบบชนิดที่ว่าทำให้เราต้องกลับไปคิดทบทวนทุกอย่างที่ดูมาตั้งแต่ต้น มันไม่ใช่แค่การหักมุมธรรมดา แต่มันคือการหักมุมที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเราอย่างรุนแรง
ผมจะไม่สปอยล์นะครับว่าจุดจบมันเป็นยังไง ใครยังไม่เคยดู ผมแนะนำให้ไปหามาดูให้ได้เลยครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงบอกว่ามันทำให้ผมนั่งน้ำลายเหนียว นั่งไม่ติดเบาะ จนแทบจะกลั้นหายใจ
หนังเรื่องนี้มันทิ้งคำถามไว้ในใจเราเยอะมากครับ เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ความดี ความชั่ว บาป บุญ คุณโทษ มันไม่ใช่แค่หนังฆาตกรรม แต่เป็นหนังที่ทำให้เราได้คิดถึงความเป็นมนุษย์จริงๆ ครับ
ถ้าถามว่ามีอะไรที่ผมไม่ชอบในหนังเรื่องนี้ไหม? ส่วนตัวผมว่ามันก็โหดร้ายเกินไปในบางฉากครับ คือดูแล้วมันสะเทือนใจนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจว่ามันจำเป็นต่อการเล่าเรื่องและสร้างอารมณ์ของหนัง
สรุปนะครับ "SEVEN" เป็นหนังที่ผมให้คะแนนเต็ม 10 เต็ม 10 ไปเลยครับ! เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวน หนังแนวหักมุม หนังที่ทำให้เราได้คิด หรือแม้กระทั่งคนที่อยากลองดูหนังที่มันมีอะไรมากกว่าแค่ความบันเทิงธรรมดาๆ
ใครที่ดูเรื่องนี้แล้ว มาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับ แต่อย่าสปอยล์นะ! ผมอยากให้คนอื่นได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกับผมครับ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ หวังว่ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สวัสดีครับ!
"SEVEN" – หนังที่ทำให้ผมต้องนั่งน้ำลายเหนียว นั่งไม่ติดเบาะ จนแทบจะกลั้นหายใจ!
"SEVEN" – หนังที่ทำให้ผมต้องนั่งน้ำลายเหนียว นั่งไม่ติดเบาะ จนแทบจะกลั้นหายใจ!
สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับหนังเรื่องนึงที่ดูจบแล้วมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หายเลยครับ ชื่อเรื่องมันก็ตรงตัวดี "SEVEN" ครับ ฟังดูธรรมดาๆ ใช่ไหมครับ แต่ขอบอกเลยว่าข้างในมันไม่ธรรมดาอย่างที่คิดแน่นอน
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมไม่ใช่คอหนังโหดร้าย หรือหนังแนวสืบสวนสอบสวนจ๋าอะไรขนาดนั้นครับ แต่พอดีมีเพื่อนแนะนำมาว่าถ้าชอบหนังแนวหักมุม ชอบอะไรที่มันบีบคั้นอารมณ์ ต้องลองดูเรื่องนี้ ผมก็เออ ลองดูก็ได้วะ ไหนๆ ก็ว่างอยู่แล้ว
พอเริ่มดูไปได้ไม่นาน ผมก็รู้ตัวเลยว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยครับ หนังมันค่อยๆ เปิดปม ค่อยๆ ปูเรื่อง เหมือนเชิญเราเข้าไปในโลกอันมืดหม่นของเมืองๆ นึง ที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามและความสิ้นหวัง ตัวละครหลักสองคน คือนักสืบแก่ใกล้เกษียณที่ชื่อ "วิลเลียม สมิธ" (รับบทโดย มอร์แกน ฟรีแมน) กับนักสืบรุ่นน้องไฟแรงที่เพิ่งย้ายมาใหม่ชื่อ "เดวิด มิลส์" (รับบทโดย แบรด พิตต์) สองคนนี้เคมีเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ
วิลเลียม สมิธ นี่คือสุดยอดนักสืบจริงๆ ครับ แกดูสุขุม นิ่งๆ แต่สายตาแกนี่อ่านเกมขาดทุกอย่างเลยครับ เหมือนแกผ่านอะไรมาเยอะจนไม่สะทกสะท้านอะไรอีกแล้ว ส่วนเดวิด มิลส์ นี่ก็ตรงกันข้ามเลยครับ ไฟแรง หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์ร่วมกับคดีมากๆ บางทีก็ดูเหมือนจะใจร้อนเกินไป แต่ก็เป็นเสน่ห์ของตัวละครแกนะ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีคดีฆาตกรรมสุดสยองเกิดขึ้นครับ เหยื่อถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แถมยังมีสัญลักษณ์แปลกๆ ทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ซึ่งทำให้ทั้งสองนักสืบต้องสงสัยว่านี่ไม่ใช่คดีธรรมดาๆ แน่นอน ยิ่งสืบไปยิ่งเจอเหยื่อรายต่อไป รายต่อไป แล้วสิ่งที่น่ากลัวคือ เหยื่อแต่ละรายมันเชื่อมโยงกับ "บาป 7 ประการ" ของศาสนาคริสต์ครับ!
ใช่แล้วครับ "บาป 7 ประการ" – ตัณหา, ความตะกละ, ความโลภ, ความขี้เกียจ, ความโกรธ, ความริษยา, และความหยิ่งยโส แต่ละคดีที่เกิดขึ้นมันก็คือการลงทัณฑ์คนที่ตกอยู่ในบาปเหล่านั้นอย่างแสนสาหัส คนร้ายมันมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแยบยลมากครับ คือการสั่งสอนให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงบาปของตัวเอง
ผมขอยกตัวอย่างคดีแรกๆ ที่เจอครับ มันเป็นคดีที่เกี่ยวกับการ "ความตะกละ" ซึ่งดูไปแล้วก็แบบ… โอโห คนร้ายมันคิดได้ไงวะ แล้ววิธีการลงทัณฑ์มันก็ชวนอ้วกแตกอ้วกแตนมากครับ ดูไปต้องปิดตาบ้าง แอบเอามือปิดปากบ้าง แต่ก็อดดูไม่ได้ เพราะมันอยากรู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือ บรรยากาศครับ มันมืดหม่น ทึมเทา ฝนตกเกือบทั้งเรื่อง ทำให้รู้สึกถึงความสิ้นหวัง ความเสื่อมทรามของเมืองนี้จริงๆ ครับ การถ่ายทำก็ทำได้ดีมากครับ มุมกล้อง การจัดแสง มันส่งเสริมให้หนังดูน่ากลัว น่าขนลุกอยู่ตลอดเวลา
แล้วบทหนังนี่คือสุดยอดครับ มันเขียนมาได้ฉลาดมากๆ การเล่าเรื่องมันค่อยๆ พาเราไปทีละขั้นๆ สร้างความสงสัย ความลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา เราพยายามจะเดาว่าใครคือคนร้าย หรือคนร้ายมันจะทำอะไรต่อไป แต่มันก็ยากมากครับ เพราะคนร้ายมันดูเหมือนจะฉลาดกว่าเราเสมอ
ประเด็นเรื่อง "บาป 7 ประการ" นี่มันทำให้เราได้ย้อนคิดถึงตัวเองเหมือนกันนะครับ ว่าเราเองเคยมีบาปเหล่านี้อยู่ในตัวบ้างไหม แล้วเราจัดการกับมันยังไง หรือเราปล่อยให้มันครอบงำเราอยู่? หนังมันไม่ได้แค่ทำให้เรากลัว แต่ยังทำให้เราฉุกคิดถึงเรื่องศีลธรรม จริยธรรมด้วยครับ
ตลอดทั้งเรื่อง ผมนั่งลุ้น นั่งเดา นั่งคิดไปกับนักสืบทั้งสองคนเลยครับ บางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของคดีไปด้วย ยิ่งใกล้จะจบเรื่อง ความกดดันมันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ครับ เสียงดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างอารมณ์ ทำให้หัวใจเราเต้นแรงเป็นจังหวะ
และแล้ว… จุดพีคของเรื่องก็มาถึงครับ! บอกเลยว่าจุดจบของ "SEVEN" นี่คือที่สุดของที่สุดครับ เป็นอะไรที่ผมคาดไม่ถึงเลยจริงๆ แบบว่า… กรามค้างไปเลยครับ! มันหักมุมแบบชนิดที่ว่าทำให้เราต้องกลับไปคิดทบทวนทุกอย่างที่ดูมาตั้งแต่ต้น มันไม่ใช่แค่การหักมุมธรรมดา แต่มันคือการหักมุมที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเราอย่างรุนแรง
ผมจะไม่สปอยล์นะครับว่าจุดจบมันเป็นยังไง ใครยังไม่เคยดู ผมแนะนำให้ไปหามาดูให้ได้เลยครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงบอกว่ามันทำให้ผมนั่งน้ำลายเหนียว นั่งไม่ติดเบาะ จนแทบจะกลั้นหายใจ
หนังเรื่องนี้มันทิ้งคำถามไว้ในใจเราเยอะมากครับ เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ความดี ความชั่ว บาป บุญ คุณโทษ มันไม่ใช่แค่หนังฆาตกรรม แต่เป็นหนังที่ทำให้เราได้คิดถึงความเป็นมนุษย์จริงๆ ครับ
ถ้าถามว่ามีอะไรที่ผมไม่ชอบในหนังเรื่องนี้ไหม? ส่วนตัวผมว่ามันก็โหดร้ายเกินไปในบางฉากครับ คือดูแล้วมันสะเทือนใจนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจว่ามันจำเป็นต่อการเล่าเรื่องและสร้างอารมณ์ของหนัง
สรุปนะครับ "SEVEN" เป็นหนังที่ผมให้คะแนนเต็ม 10 เต็ม 10 ไปเลยครับ! เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบหนังแนวสืบสวนสอบสวน หนังแนวหักมุม หนังที่ทำให้เราได้คิด หรือแม้กระทั่งคนที่อยากลองดูหนังที่มันมีอะไรมากกว่าแค่ความบันเทิงธรรมดาๆ
ใครที่ดูเรื่องนี้แล้ว มาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะครับ แต่อย่าสปอยล์นะ! ผมอยากให้คนอื่นได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกับผมครับ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ หวังว่ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้าครับ สวัสดีครับ!