ประกาศคนหาย “แอน จักรพงษ์” / สุนันท์ ศรีจันทรา

ที่มา   https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000112086

ข่าวการเผ่นหนีของ “แอน จักรพงษ์” หรือนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เจเคเอนโกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ตกอยู่ในวงซุบซิบของคนในแวดวงตลาดหุ้นมาพักหนึ่งแล้ว จนล่าสุด เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ได้ลงข่าวเกี่ยวกับการหายตัว “แอน จักรพงษ์”

ตามรายงานข่าวระบุว่า “แอน จักรพงษ์” หลบไปอยู่ที่ประเทศเม็กซิโก โดยได้รับความช่วยเหลือจากนายราอูล โรชา คานตู นักธุรกิจชาวเม็กซิโกซึ่งเป็นประธาน MISS UNIVERSE จนได้รับสัญชาติเม็กซิโกเรียบร้อยแล้ว และหอบเงินที่แปลงเป็นเงินสกุลคริปโตมูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท

ไม่มีใครรู้ว่า “แอน จักรพงษ์” จะกลับมาหรือไม่ แต่หลังจากถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ “แอน จักรพงษ์” และพวกรวม 3 คน ในความผิดร้ายแรง ร่วมกันแสดงข้อความเท็จ ร่วมกันแต่งบัญชีงบการเงิน สร้างความเสียหายให้นักลงทุน และแจ้งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ดำเนินคดี

JKN เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ท่ามกลางคำถามของคนที่รู้จัก หรือเคยร่วมสัมผัส และมีประสบการณ์ในเชิงลบเกี่ยวกับ “แอน จักรพงษ์” ว่า

ทำไมก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงปล่อยให้บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ ระดมทุนจากประชาชน และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ ช่วงเข้าจดทะเบียนใน 2-3 ปีแรก JKN มีกำไรและจ่ายเงินปันผลได้ จนนักลงทุนตายใจ แห่เข้าไปเก็งกำไร จนจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย พุ่งขึ้นเป็นกว่า 2 หมื่นราย

หุ้นกู้ JKN ได้รับการตอบสนองที่ดีจากนักลงทุน โดยออกแต่ละรุ่น เสนอขายได้หมด แต่สุดท้าย หุ้นกู้แทบทุกรุ่น เกิดปัญหาผิดชำระหนี้ วงเงินรวมกว่า 3.3 พันล้านบาท ผู้ถือหุ้นกู้จำนวนหลายพันราย

ขณะที่ JKN มีปัญหาหนี้รุมเร้า “แอน จักรพงษ์” ได้ชิงยื่นแผนฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลายกลาง เป็นการตัดตอนการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่อาจเปิดซักฟอกผู้บริหารได้ และไม่ต้องแบกรับแรงกดดันจากเจ้าหนี้ ขณะที่ ”แอน จักรพงษ์” ยังคงนั่งบริหาร JKN ต่อไป รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 18 หรือช่อง JKN ซึ่งไม่รู้ว่า ปัจจุบันบริหารผังรายการอย่างไร รายได้มีเท่าไหร่ และสินค้าของ ”แอน จักรพงษ์” ที่เปิดขายตรงอยู่ต้องจ่ายค่าเวลาโฆษณาหรือไม่

หุ้น JKN ที่เคยร้อนแรง ราคาเคยถูกลากขึ้นสูงกว่า 10 บาท แต่ปิดการซื้อขายครั้งสุดท้ายเหลือเพียง 31 สตางค์ ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567

การถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษในความผิดแต่งบัญชีงบการเงิน เป็นการตอกย้ำถึงการกลวงโบ๋ของ JKN และการเป็นแม่มดในการสร้างภาพงบการเงินของ “แอน จักรพงษ์” ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เสียอีก

แต่กลไกระบบตรวจสอบของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีประสิทธภาพเพียงพอที่จะเจาะทะลุถึงโครงสร้างการดำเนินงานที่แท้จริงของ JKN ได้

ประชาชนผู้ลงทุนหลายหมื่นคนจึงต้องรับเคราะห์ ถูก “แอน จักรพงษ์” ปล้นจนแทบหมดเนื้อหมดตัว

“แอน จักรพงษ์” สร้างความเสียหายให้นักลงทุนในวงกว้าง และเป็นความจงใจในการวางแผนปล้นเงินของผู้ลงทุน แต่กฎหมายก็ไม่อาจอายัดหรือยึดทรัพย์ไว้ก่อนได้ แม้จะมีคดีร้ายแรงที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษไว้ก็ตาม

ถ้าข่าวลือ “แอน จักรพงษ์” หอบเงิน 6 พันล้านบาท เผ่นไปลี้ภัยกฎหมายไปอยู่เม็กซิโกเป็นจริง อีกหลายสิบปีนักลงทุนผู้สูญเสียคงไม่ได้เจออดีตผู้บริหาร JKN คนนี้

“แอน จักรพงษ์” หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว คงต้องออกประกาศตามหา ”คนหาย” กัน แต่ยังไง เธอคนนี้คงไม่มีวันกลับบ้าน เพราะผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นกู้ JKN หลายหมื่นชีวิตคงไม่มีวันให้อภัย


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่