หลังจากเล่าเรื่องผิวของฉันใน EP.4
ฉันก็เริ่มสงสัยว่า…
ฉันเป็นคนเดียวไหมที่รู้สึกว่าทำทุกอย่างแล้ว แต่ผิวกลับไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร?
ฉันเลยตัดสินใจทำแบบสำรวจง่าย ๆ
ถามตรง ๆ ว่า
“คุณล้างหน้ายังไง? ใช้อะไรบ้าง? แล้วผิวกำลังเป็นยังไง?”
ตอนอ่านคำตอบของทุกคน ฉันรู้เลยว่า
สิ่งที่ฉันเจอ…ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัวเลย
มันคือเรื่องของผู้หญิงอีกจำนวนมาก
ที่กำลังพยายามเท่าที่ตัวเองจะพยายามได้
แต่ผิวก็ยังไม่ตอบสนองเหมือนที่หวัง
มันไม่ใช่แค่ตัวเลข
แต่มันคือ “เสียง” ของคนที่อยากให้ผิวดีขึ้นเหมือนกันจริง ๆ
คนส่วนใหญ่ดูแลผิวดีมาก—ดีกว่าที่ฉันคิดเยอะ
ตัวเลขแรกที่ทำให้ฉันหยุดอ่านไปแป๊บหนึ่งคือเรื่อง “การล้างหน้า”
84.68% ล้างหน้าเช้า–เย็น วันละ 2 ครั้ง
7.26% ล้างวันละครั้ง
3.23% ล้างมากกว่า 2 ครั้ง
ส่วนที่เหลือใช้เฉพาะบางวัน หรือแทบไม่ใช้เลย
มันชัดมากว่า
เกือบทุกคนดูแลผิวอย่างมีวินัยจริง ๆ
ไม่ใช่ปล่อยปละ ไม่ใช่ลืม ไม่ใช่ขี้เกียจ
แต่แม้จะดูแลดีขนาดนี้…ผิวของคนส่วนใหญ่ยังเจอปัญหาเดิม ๆ เหมือนที่ฉันเคยเจอ
รอยสิว / จุดด่างดำ — 68.55%
รูขุมขนกว้าง — 61.29%
สิว / อุดตัน — 54.84%
ผิวหมอง — 50.81%
ริ้วรอย — 45.16%
คือมันไม่สมเหตุสมผลเลย
ถ้าดูจากความตั้งใจของทุกคน
แต่ถ้าดูจากสภาพผิวที่ “ล้าเรื้อรัง” มันก็สมเหตุสมผลมากเหมือนกัน
เรื่องเซรั่มก็เหมือนกัน—ทุกคนพยายามจริง แต่ผิวกลับไม่ตอบสนอง
ตอนอ่านตรงนี้ ฉันนั่งนิ่งไปเลย
60.48% ใช้เซรั่มเป็นประจำ
35.48% เคยใช้บ้าง
มีแค่ 4.03% ที่ไม่เคยใช้เลย
แปลว่าเกือบทุกคน “ลงทุนกับผิว”
ทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งความหวัง
แต่ผิวส่วนใหญ่ก็ยัง
อุดตัน
หมอง
ไวต่อการระคายเคือง
ไม่เนียน
ฟื้นตัวช้า
เหมือนผิวกำลังบอกว่า
“ขอบคุณนะที่ดูแล…แต่ฉันเหนื่อยแล้วจริง ๆ”
ฉันอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเห็นตัวเองแบบชัดมาก
ฉันก็เคยยืนหน้ากระจก ทาเซรั่มดี ๆ ทุกวัน
แต่ผิวกลับยิ่งบาง ยิ่งล้า ยิ่งอ่อนแอ
เพราะฉันไม่รู้เลยว่า “ผิวฉันต้องการอะไรจริง ๆ”
และพอเอาทุกอย่างมารวมกัน…มันชัดมากว่าปัญหาไม่ใช่ว่าเราไม่ดูแลผิวเลย
แต่คือเรา ยังไม่รู้ว่าผิวต้องการอะไรจริง ๆ
เราไม่ได้ผิด
เราไม่ได้ขี้เกียจ
เราไม่ได้ละเลยตัวเอง
เราทำเต็มที่แล้ว
แค่เราไม่เคยถูกสอนให้ฟังผิวตัวเองอย่างถูกวิธี
ไม่เคยถูกสอนว่าผิวแต่ละคนมีลิมิตไม่เหมือนกัน
และไม่เคยถูกสอนว่า
บางครั้ง “ยิ่งทำ ยิ่งพัง”
เพราะผิวของเราไม่ได้พร้อมรับสิ่งที่เราใส่ลงไปเลยตั้งแต่แรก
ผิวไม่ได้อยากได้ของแพง
ผิวไม่ได้อยากได้ทุกอย่าง
ผิวไม่ได้อยากใช้ห้าขั้นตอนสิบขั้นตอน
ผิวอยากได้แค่ “สิ่งที่เข้ากับมันจริง ๆ”
เท่านั้นเอง
นี่คือเหตุผลที่ฉันลุกขึ้นมาทำ Arvée
ไม่ใช่เพราะฉันอยากเป็นผู้ประกอบการ
ไม่ใช่เพราะอยากมีแบรนด์
ไม่ใช่เพราะอยากตามกระแส
แต่เพราะฉันอยากทำ “อะไรสักอย่างที่ตอบโจทย์จริง ๆ”
ทั้งกับผิวของฉัน
และผิวของคนที่กำลังพยายามเหมือนกัน
ฉันไม่อยากทำสกินแคร์ที่ใช้สารเยอะ ๆ
ไม่อยากทำสูตรที่แรงเกินไป
ไม่อยากทำอะไรที่ทำให้ผิวเหนื่อยโดยไม่จำเป็น
ฉันอยากทำสกินแคร์ที่ “ผิวรับไหว”
ที่ใช้ได้จริงในชีวิตของคนจริง ๆ
ที่ไม่ต้องพยายามจนเหนื่อย
และไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่าผิวต้องการอะไร
นั่นแหละคือ Arvée
เรียบง่าย ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมามาก
EP.6 ฉันจะเล่าต่อว่า…คนส่วนใหญ่ต้องการอะไรจากสกินแคร์จริง ๆ
ไม่ใช่สิ่งที่ตลาดขาย
แต่เป็นสิ่งที่ผิวของเราขอ
ฉันจะเล่าว่าแบบสำรวจนี้ ทำให้ทิศทางการพัฒนาสูตรของ Arvée ชัดขึ้นยังไง
อะไรที่ฉันเลือกใส่
อะไรที่ฉันตัดทิ้ง
และอะไรที่ฉันยืนยันจะไม่ทำเด็ดขาด
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาตอบแบบสำรวจให้ฉันในตอนนั้น
ฉันได้เรียนรู้อะไรจากทุกคนเยอะจริง ๆ — มากพอที่จะทำให้ฉันอยากทำแบรนด์นี้ให้ “ดีจริง” ยิ่งกว่าเดิม 🤍
Arvée Journal EP.5 — แบบสำรวจที่ทำให้ฉันรู้ว่า…เราไม่ได้ไม่ดูแลผิว แต่เราไม่รู้ว่าผิวต้องการอะไรจริง ๆ
ฉันก็เริ่มสงสัยว่า…
ฉันเป็นคนเดียวไหมที่รู้สึกว่าทำทุกอย่างแล้ว แต่ผิวกลับไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร?
ฉันเลยตัดสินใจทำแบบสำรวจง่าย ๆ
ถามตรง ๆ ว่า
“คุณล้างหน้ายังไง? ใช้อะไรบ้าง? แล้วผิวกำลังเป็นยังไง?”
ตอนอ่านคำตอบของทุกคน ฉันรู้เลยว่า
สิ่งที่ฉันเจอ…ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัวเลย
มันคือเรื่องของผู้หญิงอีกจำนวนมาก
ที่กำลังพยายามเท่าที่ตัวเองจะพยายามได้
แต่ผิวก็ยังไม่ตอบสนองเหมือนที่หวัง
มันไม่ใช่แค่ตัวเลข
แต่มันคือ “เสียง” ของคนที่อยากให้ผิวดีขึ้นเหมือนกันจริง ๆ
คนส่วนใหญ่ดูแลผิวดีมาก—ดีกว่าที่ฉันคิดเยอะ
ตัวเลขแรกที่ทำให้ฉันหยุดอ่านไปแป๊บหนึ่งคือเรื่อง “การล้างหน้า”
84.68% ล้างหน้าเช้า–เย็น วันละ 2 ครั้ง
7.26% ล้างวันละครั้ง
3.23% ล้างมากกว่า 2 ครั้ง
ส่วนที่เหลือใช้เฉพาะบางวัน หรือแทบไม่ใช้เลย
มันชัดมากว่า
เกือบทุกคนดูแลผิวอย่างมีวินัยจริง ๆ
ไม่ใช่ปล่อยปละ ไม่ใช่ลืม ไม่ใช่ขี้เกียจ
แต่แม้จะดูแลดีขนาดนี้…ผิวของคนส่วนใหญ่ยังเจอปัญหาเดิม ๆ เหมือนที่ฉันเคยเจอ
รอยสิว / จุดด่างดำ — 68.55%
รูขุมขนกว้าง — 61.29%
สิว / อุดตัน — 54.84%
ผิวหมอง — 50.81%
ริ้วรอย — 45.16%
คือมันไม่สมเหตุสมผลเลย
ถ้าดูจากความตั้งใจของทุกคน
แต่ถ้าดูจากสภาพผิวที่ “ล้าเรื้อรัง” มันก็สมเหตุสมผลมากเหมือนกัน
เรื่องเซรั่มก็เหมือนกัน—ทุกคนพยายามจริง แต่ผิวกลับไม่ตอบสนอง
ตอนอ่านตรงนี้ ฉันนั่งนิ่งไปเลย
60.48% ใช้เซรั่มเป็นประจำ
35.48% เคยใช้บ้าง
มีแค่ 4.03% ที่ไม่เคยใช้เลย
แปลว่าเกือบทุกคน “ลงทุนกับผิว”
ทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งความหวัง
แต่ผิวส่วนใหญ่ก็ยัง
อุดตัน
หมอง
ไวต่อการระคายเคือง
ไม่เนียน
ฟื้นตัวช้า
เหมือนผิวกำลังบอกว่า
“ขอบคุณนะที่ดูแล…แต่ฉันเหนื่อยแล้วจริง ๆ”
ฉันอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเห็นตัวเองแบบชัดมาก
ฉันก็เคยยืนหน้ากระจก ทาเซรั่มดี ๆ ทุกวัน
แต่ผิวกลับยิ่งบาง ยิ่งล้า ยิ่งอ่อนแอ
เพราะฉันไม่รู้เลยว่า “ผิวฉันต้องการอะไรจริง ๆ”
และพอเอาทุกอย่างมารวมกัน…มันชัดมากว่าปัญหาไม่ใช่ว่าเราไม่ดูแลผิวเลย
แต่คือเรา ยังไม่รู้ว่าผิวต้องการอะไรจริง ๆ
เราไม่ได้ผิด
เราไม่ได้ขี้เกียจ
เราไม่ได้ละเลยตัวเอง
เราทำเต็มที่แล้ว
แค่เราไม่เคยถูกสอนให้ฟังผิวตัวเองอย่างถูกวิธี
ไม่เคยถูกสอนว่าผิวแต่ละคนมีลิมิตไม่เหมือนกัน
และไม่เคยถูกสอนว่า
บางครั้ง “ยิ่งทำ ยิ่งพัง”
เพราะผิวของเราไม่ได้พร้อมรับสิ่งที่เราใส่ลงไปเลยตั้งแต่แรก
ผิวไม่ได้อยากได้ของแพง
ผิวไม่ได้อยากได้ทุกอย่าง
ผิวไม่ได้อยากใช้ห้าขั้นตอนสิบขั้นตอน
ผิวอยากได้แค่ “สิ่งที่เข้ากับมันจริง ๆ”
เท่านั้นเอง
นี่คือเหตุผลที่ฉันลุกขึ้นมาทำ Arvée
ไม่ใช่เพราะฉันอยากเป็นผู้ประกอบการ
ไม่ใช่เพราะอยากมีแบรนด์
ไม่ใช่เพราะอยากตามกระแส
แต่เพราะฉันอยากทำ “อะไรสักอย่างที่ตอบโจทย์จริง ๆ”
ทั้งกับผิวของฉัน
และผิวของคนที่กำลังพยายามเหมือนกัน
ฉันไม่อยากทำสกินแคร์ที่ใช้สารเยอะ ๆ
ไม่อยากทำสูตรที่แรงเกินไป
ไม่อยากทำอะไรที่ทำให้ผิวเหนื่อยโดยไม่จำเป็น
ฉันอยากทำสกินแคร์ที่ “ผิวรับไหว”
ที่ใช้ได้จริงในชีวิตของคนจริง ๆ
ที่ไม่ต้องพยายามจนเหนื่อย
และไม่ต้องเดาอีกต่อไปว่าผิวต้องการอะไร
นั่นแหละคือ Arvée
เรียบง่าย ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมามาก
EP.6 ฉันจะเล่าต่อว่า…คนส่วนใหญ่ต้องการอะไรจากสกินแคร์จริง ๆ
ไม่ใช่สิ่งที่ตลาดขาย
แต่เป็นสิ่งที่ผิวของเราขอ
ฉันจะเล่าว่าแบบสำรวจนี้ ทำให้ทิศทางการพัฒนาสูตรของ Arvée ชัดขึ้นยังไง
อะไรที่ฉันเลือกใส่
อะไรที่ฉันตัดทิ้ง
และอะไรที่ฉันยืนยันจะไม่ทำเด็ดขาด
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาตอบแบบสำรวจให้ฉันในตอนนั้น
ฉันได้เรียนรู้อะไรจากทุกคนเยอะจริง ๆ — มากพอที่จะทำให้ฉันอยากทำแบรนด์นี้ให้ “ดีจริง” ยิ่งกว่าเดิม 🤍