วาทกรรมอำนาจเก่า: อาวุธทางความหมายในการแย่งชิงความชอบธรรมทางการเมือง

ในทุกยุคสมัย การเมืองไม่เคยเป็นศึกของเก่าหรือใหม่จริง ๆ แต่คือศึกของผู้ที่พยายามผูกขาดความจริงเพื่อช่วงชิงอำนาจปกครอง

ความพยายามชี้ว่าฝ่ายหนึ่งไร้ตรรกะ-จริง ๆ แล้วสะท้อน การใช้ภาษาเป็นอาวุธทางอำนาจ มากกว่าจะเป็นการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล

1. วาทกรรม "​อำนาจเก่า" เ​ป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่ความจริงทางการเมือง​ ​การแบ่งผู้ปกครองเป็น อำนาจเก่า-อำนาจใหม่ เป็นเพียง กลยุทธ์สร้างความชอบธรรม (legitimacy) ให้ฝ่ายที่ต้องการขึ้นสู่อำนาจ เพราะในโลกความจริง ผู้ปกครองทุกยุคไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า ถูกตัดสินด้วยความสามารถในการทำให้บ้านเมือง อยู่รอดและงอกงาม ไม่ใช่ด้วยอายุของอำนาจนั้นเอง

2. การเมืองทุกสมัยเคลื่อนด้วยความต้องการล้มอำนาจเดิมเพื่อขึ้นมาแทนที่
นี่คือโครงสร้างสากลของประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ความจริงเฉพาะประเทศไทย
จากจีนโบราณ
จนถึงตะวันตกที่ใช้วาทกรรม ปฏิวัติ เพื่อล้มอำนาจเก่า
ทุกฝ่ายต่างเชื่อว่าตนเองคือผู้ถือความชอบธรรมและทุกฝ่ายต่างพยายามทำให้คู่แข่ง เสื่อมความชอบธรรม
วาทกรรมจึงไม่ใช่ภาพของความจริง แต่เป็น สนามรบของความหมาย

3. ปัญหาจึงไม่ใช่อำนาจเก่าหรือใหม่ แต่คือการใช้เหตุผลเป็นเครื่องมือแสวงอำนาจ
เมื่อฝ่ายหนึ่งประกาศว่าตนคือ ตรรกะแห่งความก้าวหน้า และอีกฝ่ายคือ ความล้าหลังไร้เหตุผล สิ่งที่เกิดขึ้นคือการ ผูกขาดความจริง มากกว่าการสร้างพื้นที่สนทนา
ในมุมปรัชญา ก็มีนักคิดเตือนมาตลอดว่า เหตุผล และ ศีลธรรม มักถูกใช้เป็นกำแพงบังการแย่งชิงอำนาจ
มากกว่าจะเป็นความจริงแท้ของโลกการเมือง

4. ผู้ปกครองใดก็ตาม ไม่ว่าใหม่หรือเก่า มีหน้าที่สูงสุด คือทำให้ประชาชนอยู่รอด
นี่คือหลักปรัชญาการเมืองพื้นฐานที่สุด
และเป็นเกณฑ์เดียวที่ควรใช้วัดอำนาจ
ฝ่ายที่พยายามยกตนเป็น อำนาจใหม่ที่บริสุทธิ์ แต่ใช้วาทกรรมเพื่อทำลายความชอบธรรมของทุกสิ่งที่มาก่อน โดยไม่พิสูจน์ว่าตนปกครองได้ดีกว่า
ย่อมอยู่ในตรรกะเดียวกับผู้ที่ตนกล่าวหาว่าเป็น อำนาจเก่า

สรุปอย่างง่าย
วาทกรรม อำนาจเก่า-อำนาจใหม่ จึงไม่ใช่หลักความจริง
แต่เป็น ภาษาที่ใช้ลบล้างความชอบธรรมของอีกฝ่ายเพื่อแย่งชิงพื้นที่การปกครอง
ผู้ที่เข้าใจกลไกนี้ได้ จะไม่หลงกับถ้อยคำ แต่จะมองที่ผลลัพธ์ของการปกครองจริง ๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่