เดินทางมาถึง Ep.3 แล้วครับ ก่อนจะเที่ยวด้วยกันต่อสามารถดู Ep ก่อนๆได้นะครับ
เป็นกำลังใจตามไปกดติดตาม Ig , FB ด้วยนะครับชื่อ with my shutter
FB :
https://www.facebook.com/share/15pR8VUeKM/?mibextid=wwXIfr
Ig :
https://www.instagram.com/with_my_shutter?igsh=aGx1NXRiYmo2NDh6&utm_source=qr
ยังอยู่ใน Day 5 วันที่ 19 พย 68
ต่อจากความเดิมที่ผมมาถึงสนามบิน Uyuni นะครับ เมื่อเข้ามาถึงแล้วก็เจอสนามบินเลย ไม่มีอะไรซับซ้อนมากครับ
สนามบินเล็กมากๆครับ ดูจากรูปได้เลย
ระหว่างนี้ก็รอรับกระเป๋าครับ ตอนนี้เดินออกไปทะลุนอกสนามบินเลย หาที่รับกระเป๋าไม่เจอ เจ้าหน้าที่บอกว่าไปรอด้านในครับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ทยอยมาวางให้ตามรูปครับ ไม่มีสายพานเหมือนสนามบินอื่นๆครับ ด้วยความเป็นท้องถิ่นก็จะมีความน่ารักตามพื้นเมืองครับ
และสำหรับโรงแรมของวันนี้ จองวัน 2 วันเหมือนเดิมนะครับ เพราะไปถึงเช้าและราคาที่พักไม่แพงด้วย เลยจองไว้ 2 เหมือนเดิมจะได้เข้าห้องพักได้
ขอบอกเลยว่าที่พักนี้ผมประทับใจพนักวงานมากๆครับ เขาให้ความช่วยเหลือดีมากๆ และหารถไว้รับไปที่พักจากสนามบิน ราคา 15 BOB เองครับ จ่ายตรงกับคนขับได้เลย เลยค่อยข้างสบายใจในการเตรียข้อมูลว่ามีรถมารับส่งไว้ครับ
อ่ะ มาบอกชื่อโรงแรมกันครับ Hotel de Sal Reina del Salar วงเล็บครับ รับเฉพาะเงินดอลล่านะครับ
จริงผมจองผ่านเว็ป รร บ้านเราไว้แต่จ่ายปลายทางนะครับเป็นเงินดอลล่า หรือ หากจะแนะนำลองทัก Whatsapp ไปจองห้องพักได้นะครับ ถูกกว่าในเว็ปอีกด้วยเขาลดให้ เขาช่วยเหลือไว้ดีมากๆในเรื่องการประสานงาน
ประมาณวันละ 40 USD นะครับ แต่ถ้าจองตรงลองต่อรองราคาดูได้นะครับ
สำหรับห้องพักก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายครับ ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม กลางเมืองอูยูนิเลย และสามารถเดินไปหาร้านอาหารทานได้เลย ติดกันเลยถนนร้านอาหาร และมีร้านแลกเงินที่เลทดีๆติดที่พักเลยครับ แถมบางวันมีตลาดมาตั้งหน้าที่พักเลย เดินชอปปิ้งชิวๆ ของท้องถิ่นได้ด้วย
whatsapp : +59176444778
เอาล่ะ มาลุยกันต่อครับ เมื่อถึงสนามบินรับกระเป๋าแล้ว เขาก็มายืนถือป้ายรอเลยครับ และช่วยยกของอย่างดีเลย
ค่ารถ 15 BOB ครับ ต่อคันนะครับไม่ใช่ต่อคน มันคือถูกมากๆเลย แถมสะดวกด้วยครับ จากสนามบินไปที่พักประมาณ 15 นาทีถึงครับ
เมืองเล็กๆครับ ไม่ไกลเลย
บรรยากาศในที่พักนะครับ มี 3 ชั้นครับ แถมไม่มีลิฟท์นะครับ แถวนี้ไม่ต้องห่วง ยกกระเป๋าโลดดดดด อย่างโหด

บรรยากาศของห้องนอนนะครับ ผนังทำมาจากการตกแต่งด้วยเกลือแท้ๆครับ นอนได้ครับ ไม่มีปัญหา ที่สุดคือทำเลดี
เมื่อถึงที่พักกลางเมือง อูยูนิ ที่พักผมก็หยิบมือถือมาดูแล้วต้องบอกว่า เน็ตแรงมาก ขึ้นสัญญาณเต็ม
เลยลองเทสสปีดดู ก็บอกได้เลยว่า eSimvacay ดีครับ เหมาะมากกับการใช้งานในอเมริกาใต้ครับ เท่าที่เทสมาก็คือครอบคลุมนะครับ
เดี๋ยวเราจะลองดูว่าในทะเลเกลือจะมีเน็ตไหม เพราะเขาว่ากันว่าโซนนี้เน็ตจะไม่มี
หลังจากที่อาบน้ำ เก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาทัวร์ครับ เดินดูตามตึกๆครับ จะมีหลากหลายบริษัท ก็ไปคุยราคาและพวกเขาจะแนะนำว่าทัวร์ไปที่ไหนบ้างครับ ผมเอาบรรบากาศมาให้ชมเมืองอูยูนิกันก่อน เป็นเมืองไกล ไม่ค่อยมีอะไรเลยครับ ดูเหงาๆ แดดแรงๆ
และแล้วผมเดินหาประมาณ 3-4 เจ้าครับ มาจบที่ SALTY DESERT นะครับ ผมตัดสินใจขอเที่ยวแบบสบายหน่อยด้วยราคา 7000 BOB ครับ
เป็นทัวร์แบบ 3 วัน 2 คืน ส่วนตัวครับ ผมเลือกคนขับแบบพูดสเปนครับ เพราะผมไม่ค่อยเน้นข้อมูลการพาเที่ยวแนะนำ ผมแค่อยากให้พาไปส่งตามสถานที่เที่ยวต่างๆ โดยผมขอวางโปรแกรมในวันแรกที่ทะเลเกลือโดยขอไปในที่ส่วนที่มีน้ำและมีพระอามิตย์ตก ตรงตารางแพลนจะพาไปโดนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นสำหรับแพลย วันเดทริปครับ ผมจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยแก้ไขแพลนให้ เขาก็ทำตามครับ
สรุปคือโปรแกรมผมคร่าวๆคือ
- ทะเลเกลือ กระบองเพชรยักษ์ ธง และอีกหลายที่เลยครับ มาจบที่ดูพระอาทิตย์ตกในน้ำ ที่เป็นทะเลเกลือ กลับไปนอนในเมืองอูยูนิ แต่คนทั่วไปต้องไปนอนที่ระหว่างทางครับ เพราะไปสถานที่เที่ยวในวันถัดไปต่อ
- เริ่มออกเที่ยวตามภูเขา ต่างๆ และตามเลคด้วย ดูสัตว์มากมาย
- เที่ยวดูโซนภูเขาไฟ แช่น้ำร้อน และอื่นๆ
เดี๋ยวต้องรอตามไปเที่ยวด้วยกันครับ
ในรูปคือหน้าตาของออฟฟิศบริษัทนี้ครับ อ้อ พรุ่งนี้จะเริ่มทัวร์กันเลยครับ ประมาณ 9 โมงครึ่งครับ พรุ่งนี้ไปลุยกัน

หลังจากที่เดินหาทัวร์แล้ว ก็หิวครับ เมืองไม่ใหญ่มากครับ เดินหาอะไรทานสักหน่อย ครับ บอกเลยว่ากลางวันแดดแรงมากๆครับ
ส่วนพอเย็นมาหนาวมากกกกกก คือไข้ขึ้นได้เลยครับ ผมลองทานร้านอาหารครับ ขอจิบสักหน่อยครับ จะได้สดชื่นด้วย
มาแล้วอาหารท้องถิ่น เป็นไก่คลุกด้วยเครื่องเทศ พร้อมกับแป้ง ทานกับข้าวสวยอร่อย และมีเครื่องเคียงด้วยครับ
จานบะประมาณ 65 BOB ครับ ส่วนตัวถ้าเทียบค่าเงินก็แพงเลยแหละสำหรับบ้านเรา ค่าเงินเขาไม่อ่อนเลย ใครว่าอ่อน

หลังจากที่อิ่มท้อแล้ว ก็เดินเล่นรอบๆตัวเมืองกันครับ สำรวจเมืองหน่อย ในเรื่องของวิถีชิวิตยังดำรงชีพเหมือนคนสมัยก่อนครับ
ยังมีร้านของชำ มีพลาซ่าแบบเราเรียนสมัยก่อน ร้านกิฟช็อป มีเด็กๆคอยซือเยอะแยะกันเอง มีตลาดขายผักปลา เสื้อผ้า เครื่องอิเล็กโทรนิก มันแบบไม่น่าเชื่อเลยว่าเหมือนหลุดมาอีกยุคหนึ่ง
ป้ายนี้มีอยู่ที่ Salar De Uyuni หรือที่เรียกทะเลเกลือ อูยูนิครับ เดี๋ยวเราจะไปดูของจริงกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนประมาณ 4 โมงเย็น และก็จะงีบหลับสักหน่อย กะว่าจะตื่นมาหาอะไรทานสักประมาณ 2 ทุ่ม ปรากฏว่าหลับแบบไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกที ตี 3 แล้วดันนอนไม่หลับเลย เลยต้องนั่งเล่นโทรศัพท์ลากยาวไปยันเช้า จัดกระเป๋าอีกครั้ง และรอรถมารับครับเป็นของทัวร์มารับ ปรากฏว่าลงมาด้านล่างถนนหน้าโรีงแรมเป็นตลาดนัดด้วยครับ ไม่ได้มีทุกวันนะครับ เขาเรียกกันว่างานตลาดแฟร์ เหมือนจัดวันเว้นวันอะครับ
เข้าสู่ Day 6 ของการเดินทางครับ 20 พย 2568 เข้าสู่เช้าวันใหม่ที่ตื่นมาตั้งแต่ตี 3 อะดิ
อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวจะมีทัวร์มารับ ผมก็เลยมาเดินเล่นที่ตลาดนัดครับ ได้หมวกโบลิเวียกลับไปเป็นของฝากครับ
เสน่ห์ของที่นี่คือ การแต่งตัว น่ารักมากครับ ผู้หญิงแต่งเป็นกระโจมสวย น่ารัก

มีขายของ มีใบโคคา ด้วย
โอเค เมื่อเดินเล่นเสร็จแล้ว ก็รถมารับครับ ก่อนจะเริ่มทัวร์ผมขอรวบทัวร์ของอูยูนิว่า ทัวร์ถึกนะครับ บอกเลยว่าวิวสวยจริงๆแต่การเดินทางไกลและเส้นทางแบบโหดมาก ลูกรัง ฝุ่น ใครจะมาแนะนำเอาแมส หรือ ผ้าปิดจมูกมานั่งรถด้วยนะครับ แล้วรถทุกคนจะไม่ชอบเปิดแอร์ครับ เอาลมเข้ามา แล้วคือแดดแรงมาก นั่งอบกันในรถไปเลย แต่ผมทัวร์ส่วนตัวก็แอบเปิดกระจกบ่อยๆ นานๆทีคนขับก็จะเปิดแอร์ที่รถครับ ผมได้เจอกับนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ต้องเจอกันเยอะเพราะเป็นรูทเดียวกัน เขาบอกว่าเขาแชร์ทัวร์แล้วแบบว่า ต้องนั่งอัดกัน 6 คน และเขาไม่ยอมเปิดแอร์และกระจกเลย พวกเขาทรมานมาก แต่ก็ต้องทน ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเหมือนกันเกือบทุกทัวร์และทุกคันครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องของการถนอมรถด้วยไหม เพราะเส้นทางลูกรังมากๆ ฝุ่นเยอะมากด้วยครับ ใครตัดสินใจอยากจะมาต้องทำใจไว้นะครับ แต่สถานที่เที่ยวยอมรับว่าสวยจริงๆครับ แต่ต้องแลกกับระยะทาง นั่งรถจนง่อมไปเลยครับ
เริ่มทัวร์วันแรกครับ สถานที่แรก
1.รางรถไฟ และรถไฟเก่า ประวัติผมแนะนำว่าลองอ่านเองนะครับ ผมเอาบรรยากาศมาฝากให้ดูว่าทัวร์พาไปไหนบ้าง
รถจอดและให้เวลาเดินเล่นถ่ายรูป 30 นาที สำหรับผมไม่พอแน่นอน ก็เลทไปบ้างครับ เพราะผมจอง Private มาเองก็จะสะดวกหน่อย
กระเป๋าของแบรนด์ Mont bell ครับ เป็นแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องการเดินทาง เดินป่า และมีเสื้อกันหนาวดีๆเยอะมากครับ
เป็นแบรนด์ที่ผมต้องไปตามหาเลย และจริงๆได้ของมาหลายอย่างจะค่อยๆเอาไอเทมที่ต้องพกติดตัวเวลาไปต่างประเทศมาให้ชมกันนะครับ
รุ่นนี้ที่ผมเลือกเพราะว่า เน้นความกระชับ และใส่ของได้เยอะที่ดูกระเป๋าไม่ใหญ่ สามารถพกขึ้นเครื่องได้สบายๆด้วยครับ
จุดเด่นคือ ตรงสายสะพายจะมีช่วงใส่ของด้วยที่สาย สามารถใส่มือถือได้สบายๆเลย และด้านข้างสอดกระปุกน้ำดื่มได้ สายรัดที่หน้าอก และ เอวได้แบบสบายตัวเลยครับ ลองไปหาดูมาใช้ครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ

ดูบรรยากาศกันต่อครับ แดดร้อนมากๆครับ ใครชอบมุมไหนก็ปีนป่านกันไปโลดครับ
เดินทางกันต่อครับ ไปไหนไปตามกันครับ เพราะเอาจริงๆต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยชื่อสถานที่จำไม่ได้ แต่จะแปะรูปให้ดูตามแต่ละจุดเลยครับ
ข้างทางก็ดูแห้งแล้ง แต่มีสัตว์สวยๆหลากหลายมากครับ เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศสวยมากที่หนึ่งเลย
โอเค จุดที่ 2 เป็นจุดร้านของฝากครับ เขาจะพาเรามาปล่อยให้เดินเล่นซื้อของนะครับ มีห้องน้ำให้เข้า เสียค่าเข้าด้วยนะครับ ทุกๆที่
ทัวร์ทุกที่ก็จะมีรูทเที่ยวเหมือนๆกันครับ
เที่ยวอเมริกาใต้ด้วยตัวเอง รอบ2 เที่ยวไปรีวิวไป Ep.3
เดินทางมาถึง Ep.3 แล้วครับ ก่อนจะเที่ยวด้วยกันต่อสามารถดู Ep ก่อนๆได้นะครับ
เป็นกำลังใจตามไปกดติดตาม Ig , FB ด้วยนะครับชื่อ with my shutter
FB : https://www.facebook.com/share/15pR8VUeKM/?mibextid=wwXIfr
Ig : https://www.instagram.com/with_my_shutter?igsh=aGx1NXRiYmo2NDh6&utm_source=qr
ยังอยู่ใน Day 5 วันที่ 19 พย 68
ต่อจากความเดิมที่ผมมาถึงสนามบิน Uyuni นะครับ เมื่อเข้ามาถึงแล้วก็เจอสนามบินเลย ไม่มีอะไรซับซ้อนมากครับ
สนามบินเล็กมากๆครับ ดูจากรูปได้เลย
ระหว่างนี้ก็รอรับกระเป๋าครับ ตอนนี้เดินออกไปทะลุนอกสนามบินเลย หาที่รับกระเป๋าไม่เจอ เจ้าหน้าที่บอกว่าไปรอด้านในครับ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ทยอยมาวางให้ตามรูปครับ ไม่มีสายพานเหมือนสนามบินอื่นๆครับ ด้วยความเป็นท้องถิ่นก็จะมีความน่ารักตามพื้นเมืองครับ
และสำหรับโรงแรมของวันนี้ จองวัน 2 วันเหมือนเดิมนะครับ เพราะไปถึงเช้าและราคาที่พักไม่แพงด้วย เลยจองไว้ 2 เหมือนเดิมจะได้เข้าห้องพักได้
ขอบอกเลยว่าที่พักนี้ผมประทับใจพนักวงานมากๆครับ เขาให้ความช่วยเหลือดีมากๆ และหารถไว้รับไปที่พักจากสนามบิน ราคา 15 BOB เองครับ จ่ายตรงกับคนขับได้เลย เลยค่อยข้างสบายใจในการเตรียข้อมูลว่ามีรถมารับส่งไว้ครับ
อ่ะ มาบอกชื่อโรงแรมกันครับ Hotel de Sal Reina del Salar วงเล็บครับ รับเฉพาะเงินดอลล่านะครับ
จริงผมจองผ่านเว็ป รร บ้านเราไว้แต่จ่ายปลายทางนะครับเป็นเงินดอลล่า หรือ หากจะแนะนำลองทัก Whatsapp ไปจองห้องพักได้นะครับ ถูกกว่าในเว็ปอีกด้วยเขาลดให้ เขาช่วยเหลือไว้ดีมากๆในเรื่องการประสานงาน
ประมาณวันละ 40 USD นะครับ แต่ถ้าจองตรงลองต่อรองราคาดูได้นะครับ
สำหรับห้องพักก็ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายครับ ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม กลางเมืองอูยูนิเลย และสามารถเดินไปหาร้านอาหารทานได้เลย ติดกันเลยถนนร้านอาหาร และมีร้านแลกเงินที่เลทดีๆติดที่พักเลยครับ แถมบางวันมีตลาดมาตั้งหน้าที่พักเลย เดินชอปปิ้งชิวๆ ของท้องถิ่นได้ด้วย
whatsapp : +59176444778
เอาล่ะ มาลุยกันต่อครับ เมื่อถึงสนามบินรับกระเป๋าแล้ว เขาก็มายืนถือป้ายรอเลยครับ และช่วยยกของอย่างดีเลย
ค่ารถ 15 BOB ครับ ต่อคันนะครับไม่ใช่ต่อคน มันคือถูกมากๆเลย แถมสะดวกด้วยครับ จากสนามบินไปที่พักประมาณ 15 นาทีถึงครับ
เมืองเล็กๆครับ ไม่ไกลเลย
บรรยากาศในที่พักนะครับ มี 3 ชั้นครับ แถมไม่มีลิฟท์นะครับ แถวนี้ไม่ต้องห่วง ยกกระเป๋าโลดดดดด อย่างโหด
บรรยากาศของห้องนอนนะครับ ผนังทำมาจากการตกแต่งด้วยเกลือแท้ๆครับ นอนได้ครับ ไม่มีปัญหา ที่สุดคือทำเลดี
เมื่อถึงที่พักกลางเมือง อูยูนิ ที่พักผมก็หยิบมือถือมาดูแล้วต้องบอกว่า เน็ตแรงมาก ขึ้นสัญญาณเต็ม
เลยลองเทสสปีดดู ก็บอกได้เลยว่า eSimvacay ดีครับ เหมาะมากกับการใช้งานในอเมริกาใต้ครับ เท่าที่เทสมาก็คือครอบคลุมนะครับ
เดี๋ยวเราจะลองดูว่าในทะเลเกลือจะมีเน็ตไหม เพราะเขาว่ากันว่าโซนนี้เน็ตจะไม่มี
หลังจากที่อาบน้ำ เก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาทัวร์ครับ เดินดูตามตึกๆครับ จะมีหลากหลายบริษัท ก็ไปคุยราคาและพวกเขาจะแนะนำว่าทัวร์ไปที่ไหนบ้างครับ ผมเอาบรรบากาศมาให้ชมเมืองอูยูนิกันก่อน เป็นเมืองไกล ไม่ค่อยมีอะไรเลยครับ ดูเหงาๆ แดดแรงๆ
และแล้วผมเดินหาประมาณ 3-4 เจ้าครับ มาจบที่ SALTY DESERT นะครับ ผมตัดสินใจขอเที่ยวแบบสบายหน่อยด้วยราคา 7000 BOB ครับ
เป็นทัวร์แบบ 3 วัน 2 คืน ส่วนตัวครับ ผมเลือกคนขับแบบพูดสเปนครับ เพราะผมไม่ค่อยเน้นข้อมูลการพาเที่ยวแนะนำ ผมแค่อยากให้พาไปส่งตามสถานที่เที่ยวต่างๆ โดยผมขอวางโปรแกรมในวันแรกที่ทะเลเกลือโดยขอไปในที่ส่วนที่มีน้ำและมีพระอามิตย์ตก ตรงตารางแพลนจะพาไปโดนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นสำหรับแพลย วันเดทริปครับ ผมจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยแก้ไขแพลนให้ เขาก็ทำตามครับ
สรุปคือโปรแกรมผมคร่าวๆคือ
- ทะเลเกลือ กระบองเพชรยักษ์ ธง และอีกหลายที่เลยครับ มาจบที่ดูพระอาทิตย์ตกในน้ำ ที่เป็นทะเลเกลือ กลับไปนอนในเมืองอูยูนิ แต่คนทั่วไปต้องไปนอนที่ระหว่างทางครับ เพราะไปสถานที่เที่ยวในวันถัดไปต่อ
- เริ่มออกเที่ยวตามภูเขา ต่างๆ และตามเลคด้วย ดูสัตว์มากมาย
- เที่ยวดูโซนภูเขาไฟ แช่น้ำร้อน และอื่นๆ
เดี๋ยวต้องรอตามไปเที่ยวด้วยกันครับ
ในรูปคือหน้าตาของออฟฟิศบริษัทนี้ครับ อ้อ พรุ่งนี้จะเริ่มทัวร์กันเลยครับ ประมาณ 9 โมงครึ่งครับ พรุ่งนี้ไปลุยกัน
หลังจากที่เดินหาทัวร์แล้ว ก็หิวครับ เมืองไม่ใหญ่มากครับ เดินหาอะไรทานสักหน่อย ครับ บอกเลยว่ากลางวันแดดแรงมากๆครับ
ส่วนพอเย็นมาหนาวมากกกกกก คือไข้ขึ้นได้เลยครับ ผมลองทานร้านอาหารครับ ขอจิบสักหน่อยครับ จะได้สดชื่นด้วย
มาแล้วอาหารท้องถิ่น เป็นไก่คลุกด้วยเครื่องเทศ พร้อมกับแป้ง ทานกับข้าวสวยอร่อย และมีเครื่องเคียงด้วยครับ
จานบะประมาณ 65 BOB ครับ ส่วนตัวถ้าเทียบค่าเงินก็แพงเลยแหละสำหรับบ้านเรา ค่าเงินเขาไม่อ่อนเลย ใครว่าอ่อน
หลังจากที่อิ่มท้อแล้ว ก็เดินเล่นรอบๆตัวเมืองกันครับ สำรวจเมืองหน่อย ในเรื่องของวิถีชิวิตยังดำรงชีพเหมือนคนสมัยก่อนครับ
ยังมีร้านของชำ มีพลาซ่าแบบเราเรียนสมัยก่อน ร้านกิฟช็อป มีเด็กๆคอยซือเยอะแยะกันเอง มีตลาดขายผักปลา เสื้อผ้า เครื่องอิเล็กโทรนิก มันแบบไม่น่าเชื่อเลยว่าเหมือนหลุดมาอีกยุคหนึ่ง
ป้ายนี้มีอยู่ที่ Salar De Uyuni หรือที่เรียกทะเลเกลือ อูยูนิครับ เดี๋ยวเราจะไปดูของจริงกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนประมาณ 4 โมงเย็น และก็จะงีบหลับสักหน่อย กะว่าจะตื่นมาหาอะไรทานสักประมาณ 2 ทุ่ม ปรากฏว่าหลับแบบไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกที ตี 3 แล้วดันนอนไม่หลับเลย เลยต้องนั่งเล่นโทรศัพท์ลากยาวไปยันเช้า จัดกระเป๋าอีกครั้ง และรอรถมารับครับเป็นของทัวร์มารับ ปรากฏว่าลงมาด้านล่างถนนหน้าโรีงแรมเป็นตลาดนัดด้วยครับ ไม่ได้มีทุกวันนะครับ เขาเรียกกันว่างานตลาดแฟร์ เหมือนจัดวันเว้นวันอะครับ
เข้าสู่ Day 6 ของการเดินทางครับ 20 พย 2568 เข้าสู่เช้าวันใหม่ที่ตื่นมาตั้งแต่ตี 3 อะดิ
อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวจะมีทัวร์มารับ ผมก็เลยมาเดินเล่นที่ตลาดนัดครับ ได้หมวกโบลิเวียกลับไปเป็นของฝากครับ
เสน่ห์ของที่นี่คือ การแต่งตัว น่ารักมากครับ ผู้หญิงแต่งเป็นกระโจมสวย น่ารัก
มีขายของ มีใบโคคา ด้วย
โอเค เมื่อเดินเล่นเสร็จแล้ว ก็รถมารับครับ ก่อนจะเริ่มทัวร์ผมขอรวบทัวร์ของอูยูนิว่า ทัวร์ถึกนะครับ บอกเลยว่าวิวสวยจริงๆแต่การเดินทางไกลและเส้นทางแบบโหดมาก ลูกรัง ฝุ่น ใครจะมาแนะนำเอาแมส หรือ ผ้าปิดจมูกมานั่งรถด้วยนะครับ แล้วรถทุกคนจะไม่ชอบเปิดแอร์ครับ เอาลมเข้ามา แล้วคือแดดแรงมาก นั่งอบกันในรถไปเลย แต่ผมทัวร์ส่วนตัวก็แอบเปิดกระจกบ่อยๆ นานๆทีคนขับก็จะเปิดแอร์ที่รถครับ ผมได้เจอกับนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ต้องเจอกันเยอะเพราะเป็นรูทเดียวกัน เขาบอกว่าเขาแชร์ทัวร์แล้วแบบว่า ต้องนั่งอัดกัน 6 คน และเขาไม่ยอมเปิดแอร์และกระจกเลย พวกเขาทรมานมาก แต่ก็ต้องทน ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเหมือนกันเกือบทุกทัวร์และทุกคันครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องของการถนอมรถด้วยไหม เพราะเส้นทางลูกรังมากๆ ฝุ่นเยอะมากด้วยครับ ใครตัดสินใจอยากจะมาต้องทำใจไว้นะครับ แต่สถานที่เที่ยวยอมรับว่าสวยจริงๆครับ แต่ต้องแลกกับระยะทาง นั่งรถจนง่อมไปเลยครับ
เริ่มทัวร์วันแรกครับ สถานที่แรก
1.รางรถไฟ และรถไฟเก่า ประวัติผมแนะนำว่าลองอ่านเองนะครับ ผมเอาบรรยากาศมาฝากให้ดูว่าทัวร์พาไปไหนบ้าง
รถจอดและให้เวลาเดินเล่นถ่ายรูป 30 นาที สำหรับผมไม่พอแน่นอน ก็เลทไปบ้างครับ เพราะผมจอง Private มาเองก็จะสะดวกหน่อย
กระเป๋าของแบรนด์ Mont bell ครับ เป็นแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องการเดินทาง เดินป่า และมีเสื้อกันหนาวดีๆเยอะมากครับ
เป็นแบรนด์ที่ผมต้องไปตามหาเลย และจริงๆได้ของมาหลายอย่างจะค่อยๆเอาไอเทมที่ต้องพกติดตัวเวลาไปต่างประเทศมาให้ชมกันนะครับ
รุ่นนี้ที่ผมเลือกเพราะว่า เน้นความกระชับ และใส่ของได้เยอะที่ดูกระเป๋าไม่ใหญ่ สามารถพกขึ้นเครื่องได้สบายๆด้วยครับ
จุดเด่นคือ ตรงสายสะพายจะมีช่วงใส่ของด้วยที่สาย สามารถใส่มือถือได้สบายๆเลย และด้านข้างสอดกระปุกน้ำดื่มได้ สายรัดที่หน้าอก และ เอวได้แบบสบายตัวเลยครับ ลองไปหาดูมาใช้ครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ
ดูบรรยากาศกันต่อครับ แดดร้อนมากๆครับ ใครชอบมุมไหนก็ปีนป่านกันไปโลดครับ
เดินทางกันต่อครับ ไปไหนไปตามกันครับ เพราะเอาจริงๆต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยชื่อสถานที่จำไม่ได้ แต่จะแปะรูปให้ดูตามแต่ละจุดเลยครับ
ข้างทางก็ดูแห้งแล้ง แต่มีสัตว์สวยๆหลากหลายมากครับ เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศสวยมากที่หนึ่งเลย
โอเค จุดที่ 2 เป็นจุดร้านของฝากครับ เขาจะพาเรามาปล่อยให้เดินเล่นซื้อของนะครับ มีห้องน้ำให้เข้า เสียค่าเข้าด้วยนะครับ ทุกๆที่
ทัวร์ทุกที่ก็จะมีรูทเที่ยวเหมือนๆกันครับ