ทำไม​ต้อง​ภาวนาพุทธ​โธ​ท่อง​พุทธ​โธ

ทำไมหลวงปู่เสาร์สอนภาวนาพุทโธ

เพราะพุทโธเป็นกริยาของใจ

หลวงพ่อก็เลยเคยแอบถามท่านว่า
ทำไม? จึงต้องภาวนา พุทโธ

ท่านก็อธิบายให้ฟังว่าที่ให้ภาวนา พุทโธนั้น
เพราะพุทโธ เป็นกิริยาของใจ ถ้าเราเขียน
เป็นตัวหนังสือเราจะเขียน พ - พาน - สระ อุ - ท – ทหาร สะกด สระ โอ ตัว ธ - ธง อ่านว่า
พุทโธ อันนี้เป็นเพียงแต่คำพูด เป็นชื่อของคุณธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อจิตภาวนาพุทโธแล้วมันสงบวูบลงไปนิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน พอหลังจากคำว่า พุทโธ มันก็หายไปแล้ว...

ทำไม? มันจึงหายไป เพราะจิตมันถึงพุทโธแล้ว...จิต กลายเป็นจิตพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น
ผู้เบิกบาน เป็นคุณธรรมที่ทำจิตให้เป็นพุทธะ เกิดขึ้นในจิตของท่านผู้ภาวนา พอหลังจากนั้นจิต ของเราจะหยุดนึกคำว่าพุทโธ
แล้วก็ไปนิ่ง...รู้...ตื่น...เบิกบาน...สว่างไสว... กายเบา จิตเบา กายสงบ จิตสงบ ยังแถมมี
ปีติ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อันนี้! มันเป็นพุทธะ พุทโธ โดยธรรมชาติเกิดขึ้นที่จิตแล้ว พุทโธ แปลว่า...ผู้รู้ ผู้ตน ผู้เบิกบาน เป็นกิริยาของจิตมันใกล้กับความจริง

แล้วทำไมเราจึงมาพร่ำบ่น พุทโธ ๆ ๆ
ในขณะที่จิตเราไม่เป็นเช่นนั้น...
ที่เราต้องมาบ่นว่า พุทโธ นั่นก็เพราะว่า
เราต้องการจะพบพุทโธ ในขณะที่พุทโธ
ยังไม่เกิดขึ้นกับจิตนั้นเราก็ต้องท่อง พุทโธ
ๆ ๆ ๆ เหมือนกับว่า เราต้องการจะพบเพื่อน
คนใดคนหนึ่ง เมื่อเรามองไม่เห็นเขา
หรือเขายังไม่มาหาเรา เราก็เรียกชื่อเขา
ทีนี้! ในเมื่อเขามาพบเราแล้ว เราได้พูดจาสนทนากันแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปเรียก
ชื่อเขาอีก ถ้าขืนเรียกช้ำๆ เขาจะหาว่าเราร่ำไร ประเดี๋ยวเขาด่าเอา

ทีนี้! ในทำนองเดียวกัน ในเมื่อเรียก พุทโธ
ๆ ๆ เข้ามาในจิตของเรา เมื่อจิตของเราได้
เกิดเป็นพุทโธเอง คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
จิตของเราก็หยุดเรียกเอง ทีนี้! ถ้าหากว่าเรา
มีความรู้สึกอันหนึ่งแทรกขึ้นมา เอ้า! ควรจะนึกถึงพุทโธอีก พอเรานึกขึ้นมาอย่างนี้
สมาธิของเราจะถอนทันที แล้วกิริยาที่จิตมันรู้ ตื่น เบิกบาน จะหายไป เพราะสมาธิถอน

ทีนี้! ตามแนวทางของครูบาอาจารย์ ที่ท่านแนะนำพร่ำสอน ท่านจึงให้คำแนะนำว่า...
เมื่อเราภาวนาพุทโธไป จิตสงบวูบลงนิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่านก็ให้ประคองจิตให้อยู่ในสภาพปกติอย่างนั้น...
ถ้าเราสามารถประคองจิตให้อยู่ในสภาพอย่างนั้นได้ตลอดไป จิตของเราจะค่อยสงบ ละเอียด ๆ ๆ ลงไป ในช่วงเหตุการณ์ต่าง ๆ
มันจะเกิดขึ้น ถ้าจิตส่งกระแสออกนอก เกิดมโนภาพ ถ้าวิ่งเข้ามาข้างในจะเห็นอวัยวะภายในร่างกายทั่วหมด ตับ ไต ไส้ พุง เห็นหมด แล้วเราจะรู้สึกว่ากายของเรานี้เหมือนกับแก้วโปร่ง ดวงจิตที่สงบ สว่างเหมือนกับดวงไฟที่เราขุดไว้ในพลบครอบ แล้วสามารถเปล่งรัศมีสว่างออกมารอบ ๆ จนกว่าจิตจะสงบละเอียดลงไป จนกระทั่งว่า กายหายไปแล้ว จึงจะเหลือแต่จิตสว่างไสวอยู่ดวงเดียว ร่างกายตัวตนหายหมด

ถ้าหากจิตดวงนี้มีสมรรถภาพพอที่จะเกิดความรู้ความเห็นอะไรได้ จิตจะย้อนกายลงมาเบื้องล่าง เห็นร่างกายตัวเองนอนตายเหยียดยาวอยู่ ขึ้นอืดเน่าเปื่อยผุพังสลายตัวไป

โมทนาที่มา : ฐานิยตฺเถรวตฺถุ ๔
เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) ณ วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่