
: Parasite หนังเกาหลีที่ทำให้ผมอึ้ง ทึ่ง เสียว จนต้องมาตั้งกระทู้บอกต่อ!
สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการไปดูหนังเรื่อง Parasite มาครับ บอกเลยว่าดูจบแล้วนั่งมึนไปพักใหญ่ ไม่ใช่หนังไม่ดีนะครับ แต่มันดีจนผมต้องใช้เวลาประมวลผลนิดหน่อย มันเป็นหนังที่กระแทกใจ กระแทกความคิด และทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองหลายอย่างมากจริงๆ ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ไม่ใช่คอหนังเกาหลีจ๋าอะไรขนาดนั้นครับ ส่วนใหญ่จะดูหนังฮอลลีวูดเสียมากกว่า แต่พอเห็นกระแสของ Parasite แรงมากๆ บวกกับได้ยินชื่อผู้กำกับอย่าง Bong Joon Ho ที่เคยทำหนังอย่าง Snowpiercer หรือ Okja มาก่อน ก็เลยตัดสินใจลองไปดูครับ และผมก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
เรื่องย่อคร่าวๆ ก็ประมาณว่า เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ยากจนมาก อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินแบบโทรมๆ ครับ วันหนึ่งลูกชายก็ได้โอกาสจากเพื่อนไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกสาวของครอบครัวที่รวยมากๆ ครับ จากจุดนั้นเอง ครอบครัวที่ยากจนก็เริ่มวางแผนเข้ามาทำงานในบ้านของครอบครัวที่รวย โดยการสวมรอยเป็นคนละอาชีพกันหมดเลยครับ ตั้งแต่คนขับรถ นักทำความสะอาด ไปจนถึงพี่เลี้ยงเด็ก
สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งมากๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยคือ การเล่าเรื่องของ Bong Joon Ho ครับ มันลื่นไหลมากๆ ไม่มีจังหวะไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว หนังจะค่อยๆ พาเราเข้าไปทำความรู้จักกับทั้งสองครอบครัว ทั้งครอบครัวคิมที่แสนจะอบอุ่นแต่ยากจน และครอบครัวปาร์คที่ดูดีมีชาติตระกูลแต่ก็มีความห่างเหินในแบบของคนรวย เราจะเห็นความแตกต่างของชีวิตของทั้งสองครอบครัวอย่างชัดเจนมากๆ ครับ ผ่านการจัดฉาก เสื้อผ้า และพฤติกรรมต่างๆ
สิ่งที่ Parasite ทำได้ดีมากๆ คือการเสียดสีสังคมครับ หนังไม่ได้บอกตรงๆ ว่าใครดีใครเลว แต่เป็นการนำเสนอภาพความจริงของความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มันมีอยู่จริงในเกือบทุกประเทศทั่วโลกครับ เราจะได้เห็นว่าคนรวยก็มีปัญหาของคนรวย คนจนก็มีปัญหาของคนจน แต่ปัญหาเหล่านั้นมันถูกสะท้อนออกมาผ่านพฤติกรรมและความคิดของตัวละครได้อย่างคมคายมากๆ ครับ
ผมชอบวิธีที่หนังใช้สัญลักษณ์ต่างๆ นะครับ เช่น บ้านของครอบครัวปาร์คที่อยู่บนเนินเขา มีสวนกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ในขณะที่บ้านของครอบครัวคิมอยู่ใต้ดินที่แออัด สกปรก และมีกลิ่นอับชื้น มันเป็นการเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัดเจนมากๆ ครับ หรือแม้กระทั่งเรื่องกลิ่น ที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง มันสะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้นที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้จริงๆ ครับ
การแสดงของนักแสดงทุกคนก็ต้องบอกว่าสุดยอดมากๆ ครับ Song Kang Ho ที่รับบทพ่อของครอบครัวคิม นี่เล่นได้ถึงบทบาทมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทาง คือเป็นพ่อที่น่าสงสาร น่าเห็นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความทะเยอทะยานแฝงอยู่ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็เล่นได้สมบทบาทมากๆ ครับ ทำให้เราเชื่อในตัวละครทุกตัวจริงๆ
ผมชอบที่ Parasite มันไม่ใช่หนังที่คาดเดาได้ครับ มันมีจุดหักมุมหลายจุดที่ทำให้ผมต้องอุทานออกมาเบาๆ ในโรงเลยครับ บางทีก็ตกใจ บางทีก็สงสาร บางทีก็ขำ แต่ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไปหมด มันเป็นการวางแผนที่ซับซ้อน แต่ก็สมเหตุสมผลตามบริบทของหนังครับ
ประเด็นที่หนังเล่นกับอารมณ์คนดูนี่สุดยอดจริงๆ ครับ บางช่วงเราจะรู้สึกเห็นใจครอบครัวคิมมากๆ อยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่บางช่วงเราก็จะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่พวกเขาทำ หรือบางทีก็แอบสงสารครอบครัวปาร์คเหมือนกันที่ต้องตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ แต่นั่นแหละครับคือความซับซ้อนของมนุษย์และความจริงของสังคม
หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมคิดต่อหลังจากดูจบไปนานเลยครับ มันทำให้เรามองย้อนกลับมาดูชีวิตตัวเอง ดูสังคมรอบข้าง ว่าเราเองก็อาจจะมีอคติบางอย่างที่มองไม่เห็นเหมือนกัน หรือเราอาจจะกำลังถูกมองด้วยอคติบางอย่างอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังที่ดูสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก แล้วก็มีอะไรให้คิดตามเยอะๆ ผมแนะนำ Parasite เลยครับ มันไม่ใช่แค่หนังบันเทิง แต่มันคือบทเรียนทางสังคมที่ถูกย่อยออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ น่าจะมีความรู้สึกคล้ายๆ กับผม คือประทับใจในความสามารถของผู้กำกับ การเล่าเรื่องที่เฉียบคม การแสดงที่ทรงพลัง และประเด็นที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งครับ
ถ้าให้คะแนน ผมให้เต็ม 10 เลยครับ! ไม่หัก! เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูมากๆ ครับ และถ้าใครมีโอกาสได้ดูแล้ว มาคุยกันได้นะครับ ผมอยากฟังความคิดเห็นของทุกคนเหมือนกันว่าดูแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านรีวิวของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกท่านครับ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ สวัสดีครับ
Parasite หนังเกาหลีที่ทำให้ผมอึ้ง ทึ่ง เสียว จนต้องมาตั้งกระทู้บอกต่อ!
: Parasite หนังเกาหลีที่ทำให้ผมอึ้ง ทึ่ง เสียว จนต้องมาตั้งกระทู้บอกต่อ!
สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการไปดูหนังเรื่อง Parasite มาครับ บอกเลยว่าดูจบแล้วนั่งมึนไปพักใหญ่ ไม่ใช่หนังไม่ดีนะครับ แต่มันดีจนผมต้องใช้เวลาประมวลผลนิดหน่อย มันเป็นหนังที่กระแทกใจ กระแทกความคิด และทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองหลายอย่างมากจริงๆ ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ไม่ใช่คอหนังเกาหลีจ๋าอะไรขนาดนั้นครับ ส่วนใหญ่จะดูหนังฮอลลีวูดเสียมากกว่า แต่พอเห็นกระแสของ Parasite แรงมากๆ บวกกับได้ยินชื่อผู้กำกับอย่าง Bong Joon Ho ที่เคยทำหนังอย่าง Snowpiercer หรือ Okja มาก่อน ก็เลยตัดสินใจลองไปดูครับ และผมก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
เรื่องย่อคร่าวๆ ก็ประมาณว่า เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ยากจนมาก อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินแบบโทรมๆ ครับ วันหนึ่งลูกชายก็ได้โอกาสจากเพื่อนไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกสาวของครอบครัวที่รวยมากๆ ครับ จากจุดนั้นเอง ครอบครัวที่ยากจนก็เริ่มวางแผนเข้ามาทำงานในบ้านของครอบครัวที่รวย โดยการสวมรอยเป็นคนละอาชีพกันหมดเลยครับ ตั้งแต่คนขับรถ นักทำความสะอาด ไปจนถึงพี่เลี้ยงเด็ก
สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งมากๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยคือ การเล่าเรื่องของ Bong Joon Ho ครับ มันลื่นไหลมากๆ ไม่มีจังหวะไหนที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว หนังจะค่อยๆ พาเราเข้าไปทำความรู้จักกับทั้งสองครอบครัว ทั้งครอบครัวคิมที่แสนจะอบอุ่นแต่ยากจน และครอบครัวปาร์คที่ดูดีมีชาติตระกูลแต่ก็มีความห่างเหินในแบบของคนรวย เราจะเห็นความแตกต่างของชีวิตของทั้งสองครอบครัวอย่างชัดเจนมากๆ ครับ ผ่านการจัดฉาก เสื้อผ้า และพฤติกรรมต่างๆ
สิ่งที่ Parasite ทำได้ดีมากๆ คือการเสียดสีสังคมครับ หนังไม่ได้บอกตรงๆ ว่าใครดีใครเลว แต่เป็นการนำเสนอภาพความจริงของความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มันมีอยู่จริงในเกือบทุกประเทศทั่วโลกครับ เราจะได้เห็นว่าคนรวยก็มีปัญหาของคนรวย คนจนก็มีปัญหาของคนจน แต่ปัญหาเหล่านั้นมันถูกสะท้อนออกมาผ่านพฤติกรรมและความคิดของตัวละครได้อย่างคมคายมากๆ ครับ
ผมชอบวิธีที่หนังใช้สัญลักษณ์ต่างๆ นะครับ เช่น บ้านของครอบครัวปาร์คที่อยู่บนเนินเขา มีสวนกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ในขณะที่บ้านของครอบครัวคิมอยู่ใต้ดินที่แออัด สกปรก และมีกลิ่นอับชื้น มันเป็นการเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัดเจนมากๆ ครับ หรือแม้กระทั่งเรื่องกลิ่น ที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง มันสะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้นที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้จริงๆ ครับ
การแสดงของนักแสดงทุกคนก็ต้องบอกว่าสุดยอดมากๆ ครับ Song Kang Ho ที่รับบทพ่อของครอบครัวคิม นี่เล่นได้ถึงบทบาทมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทาง คือเป็นพ่อที่น่าสงสาร น่าเห็นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความทะเยอทะยานแฝงอยู่ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็เล่นได้สมบทบาทมากๆ ครับ ทำให้เราเชื่อในตัวละครทุกตัวจริงๆ
ผมชอบที่ Parasite มันไม่ใช่หนังที่คาดเดาได้ครับ มันมีจุดหักมุมหลายจุดที่ทำให้ผมต้องอุทานออกมาเบาๆ ในโรงเลยครับ บางทีก็ตกใจ บางทีก็สงสาร บางทีก็ขำ แต่ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไปหมด มันเป็นการวางแผนที่ซับซ้อน แต่ก็สมเหตุสมผลตามบริบทของหนังครับ
ประเด็นที่หนังเล่นกับอารมณ์คนดูนี่สุดยอดจริงๆ ครับ บางช่วงเราจะรู้สึกเห็นใจครอบครัวคิมมากๆ อยากให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่บางช่วงเราก็จะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่พวกเขาทำ หรือบางทีก็แอบสงสารครอบครัวปาร์คเหมือนกันที่ต้องตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ แต่นั่นแหละครับคือความซับซ้อนของมนุษย์และความจริงของสังคม
หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมคิดต่อหลังจากดูจบไปนานเลยครับ มันทำให้เรามองย้อนกลับมาดูชีวิตตัวเอง ดูสังคมรอบข้าง ว่าเราเองก็อาจจะมีอคติบางอย่างที่มองไม่เห็นเหมือนกัน หรือเราอาจจะกำลังถูกมองด้วยอคติบางอย่างอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังที่ดูสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก แล้วก็มีอะไรให้คิดตามเยอะๆ ผมแนะนำ Parasite เลยครับ มันไม่ใช่แค่หนังบันเทิง แต่มันคือบทเรียนทางสังคมที่ถูกย่อยออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ น่าจะมีความรู้สึกคล้ายๆ กับผม คือประทับใจในความสามารถของผู้กำกับ การเล่าเรื่องที่เฉียบคม การแสดงที่ทรงพลัง และประเด็นที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งครับ
ถ้าให้คะแนน ผมให้เต็ม 10 เลยครับ! ไม่หัก! เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูมากๆ ครับ และถ้าใครมีโอกาสได้ดูแล้ว มาคุยกันได้นะครับ ผมอยากฟังความคิดเห็นของทุกคนเหมือนกันว่าดูแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านรีวิวของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกท่านครับ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ สวัสดีครับ