
สวัสดีครับ หมอคณิต
ศัลยแพทย์ตกแต่ง หลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากช่วงนี้เคสผ่าตัดเยอะครับ
วันนี้หมออยากมาเล่าเรื่อง
การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ แบบที่หมอมักเล่าให้คนไข้ฟังตอนปรึกษา
หลายคนถามว่า “
Face Lift แตกต่างจาก Botox, Filler หรือเลเซอร์ยังไง?”
จริง ๆ มันต่างกันมากครับ
Botox เหมาะกับคนที่อยากลดริ้วรอยจากการขยับกล้ามเนื้อ เช่น หน้าผาก ตีนกา แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องความหย่อนคล้อย
Filler เติมเต็มในบริเวณขาดความอิ่ม เช่น แก้ม ร่องน้ำตา หรือร่องแก้ม แต่ก็ไม่ได้ยกผิวให้ตึงขึ้น
เลเซอร์ กระชับผิวชั้นบน ทำให้ผิวแน่นขึ้น แต่ก็ยังไม่ช่วยเรื่องกล้ามเนื้อหย่อน
ส่วนการผ่าตัดดึงหน้า หรือ
Face Lift คือการยกผิวและกล้ามเนื้อชั้นลึก
SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างที่รองรับผิวหน้า ทำให้สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ชัดเจน และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี
คนไข้หลายคนถามหมอว่า “
แผลจะโดนน้ำได้ไหม?”
ตอบเลยครับ
อาบน้ำได้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้น แต่อาจต้องระวัง ไม่ถูหรือขยี้แผลแรง ๆ และใช้น้ำสะอาดหรือน้ำอุ่นตามปกติ
แผลติดเชื้อยากครับถ้าเราปฏิบัติตามคำแนะนำ
เรื่อง
การดูแลแผลหลังผ่าตัด ก็สำคัญมาก
ทายาลดรอยแผล และทากันแดด
ใส่ผ้ากระชับใบหน้า
7–14 วัน เพื่อลดบวม
หลีกเลี่ยงนวดหรือขยี้แผล
มาตรวจตามนัดแพทย์
บางคนสงสัยว่า “ทำสีผมหรือเคมีผมได้เมื่อไหร่?”
หมอมักแนะนำให้รอ
1 เดือน หลังผ่าตัดครับ เพื่อให้แผลเข้าที่และลดความเสี่ยงระคายเคือง
อีกคำถามยอดฮิตคือ “
หลังผ่าตัดหัวเราะหรือขยับหน้าได้ไหม?”
ตอบเลยว่า
ทำได้ครับ แต่ช่วง 1–2 สัปดาห์แรกควรระวังไม่ทำหน้าแข็งเกร็ง เพราะผิวและกล้ามเนื้อกำลังฟื้นตัว
เทคนิค
Deep Plane & High SMAS จะช่วยให้ใบหน้าขยับได้ปกติ ไม่แข็ง และยังคงความเป็นธรรมชาติ
บางคนอยากทำ
Face Lift พร้อมศัลยกรรมอื่น ๆ เช่น ตาบน–ตาล่าง, ยกคิ้ว, Subbrow Lift, Submental Lift หรือเติม Filler
ได้ครับ แต่อย่างที่หมอมักพูดกับคนไข้ คือ
ต้องประเมินก่อนว่าร่างกายและใบหน้าเหมาะกับการทำหลายอย่างพร้อมกันหรือไม่
เรื่อง
พักฟื้นและออกกำลังกาย ก็มีรายละเอียด:
5–7 วันแรก: ทำกิจกรรมเบา ๆ
2–4 สัปดาห์: หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
หลัง 4 สัปดาห์: สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้
และคำถามเล็ก ๆ แต่หลายคนสงสัย เช่น
ทำฟันหรือขูดหินปูน ทำได้ครับ แต่อ้าปากกว้างอาจไม่สะดวกช่วง 2 สัปดาห์แรก
ใส่หน้ากากอนามัยได้ แต่หลีกเลี่ยงแรงกดบริเวณแผล 1–2 สัปดาห์แรก
นอนคว่ำหรือเอียงหน้า ควร
นอนหงายและยกศีรษะสูง อย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อลดบวม
บางคนถามว่า
บวมกี่วัน?
1–5 วันแรก: บวมมากที่สุด
7–10 วัน: เริ่มลดลง
2–4 สัปดาห์: หน้าเข้าที่
และเรื่อง
แผลเป็น
แผลจะซ่อนในแนวธรรมชาติบริเวณขอบหูและแนวผม
ส่วนใหญ่จะจางลงใน
6–12 เดือน
สุดท้าย หลายคนถามว่า
Face Lift เหมาะกับใคร?
เหมาะกับทั้ง
ผู้ชายและผู้หญิง
แต่ต้องมีความหย่อนคล้อยของใบหน้า
เทคนิคและวิธีผ่าตัดจะปรับให้เหมาะกับ
โครงหน้าและอายุของแต่ละคน
💡
สรุปจากหมอ
Face Lift แบบ
Deep Plane & High SMAS ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี และยังคงขยับหน้าตามปกติ การเตรียมตัวและดูแลหลังผ่าตัดสำคัญมากครับ
ถ้าสนใจ หมอแนะนำให้
ปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินใบหน้าและวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมที่สุดครับ
Face Lift คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ ผ่าตัดดึงหน้า
สวัสดีครับ หมอคณิต ศัลยแพทย์ตกแต่ง หลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากช่วงนี้เคสผ่าตัดเยอะครับ
วันนี้หมออยากมาเล่าเรื่อง การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ แบบที่หมอมักเล่าให้คนไข้ฟังตอนปรึกษา
หลายคนถามว่า “Face Lift แตกต่างจาก Botox, Filler หรือเลเซอร์ยังไง?”
จริง ๆ มันต่างกันมากครับ
Botox เหมาะกับคนที่อยากลดริ้วรอยจากการขยับกล้ามเนื้อ เช่น หน้าผาก ตีนกา แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องความหย่อนคล้อย
Filler เติมเต็มในบริเวณขาดความอิ่ม เช่น แก้ม ร่องน้ำตา หรือร่องแก้ม แต่ก็ไม่ได้ยกผิวให้ตึงขึ้น
เลเซอร์ กระชับผิวชั้นบน ทำให้ผิวแน่นขึ้น แต่ก็ยังไม่ช่วยเรื่องกล้ามเนื้อหย่อน
ส่วนการผ่าตัดดึงหน้า หรือ Face Lift คือการยกผิวและกล้ามเนื้อชั้นลึก SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างที่รองรับผิวหน้า ทำให้สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ชัดเจน และผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี
คนไข้หลายคนถามหมอว่า “แผลจะโดนน้ำได้ไหม?”
ตอบเลยครับ อาบน้ำได้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้น แต่อาจต้องระวัง ไม่ถูหรือขยี้แผลแรง ๆ และใช้น้ำสะอาดหรือน้ำอุ่นตามปกติ
แผลติดเชื้อยากครับถ้าเราปฏิบัติตามคำแนะนำ
เรื่อง การดูแลแผลหลังผ่าตัด ก็สำคัญมาก
ทายาลดรอยแผล และทากันแดด
ใส่ผ้ากระชับใบหน้า 7–14 วัน เพื่อลดบวม
หลีกเลี่ยงนวดหรือขยี้แผล
มาตรวจตามนัดแพทย์
บางคนสงสัยว่า “ทำสีผมหรือเคมีผมได้เมื่อไหร่?”
หมอมักแนะนำให้รอ 1 เดือน หลังผ่าตัดครับ เพื่อให้แผลเข้าที่และลดความเสี่ยงระคายเคือง
อีกคำถามยอดฮิตคือ “หลังผ่าตัดหัวเราะหรือขยับหน้าได้ไหม?”
ตอบเลยว่า ทำได้ครับ แต่ช่วง 1–2 สัปดาห์แรกควรระวังไม่ทำหน้าแข็งเกร็ง เพราะผิวและกล้ามเนื้อกำลังฟื้นตัว
เทคนิค Deep Plane & High SMAS จะช่วยให้ใบหน้าขยับได้ปกติ ไม่แข็ง และยังคงความเป็นธรรมชาติ
บางคนอยากทำ Face Lift พร้อมศัลยกรรมอื่น ๆ เช่น ตาบน–ตาล่าง, ยกคิ้ว, Subbrow Lift, Submental Lift หรือเติม Filler
ได้ครับ แต่อย่างที่หมอมักพูดกับคนไข้ คือ ต้องประเมินก่อนว่าร่างกายและใบหน้าเหมาะกับการทำหลายอย่างพร้อมกันหรือไม่
เรื่อง พักฟื้นและออกกำลังกาย ก็มีรายละเอียด:
5–7 วันแรก: ทำกิจกรรมเบา ๆ
2–4 สัปดาห์: หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
หลัง 4 สัปดาห์: สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้
และคำถามเล็ก ๆ แต่หลายคนสงสัย เช่น
ทำฟันหรือขูดหินปูน ทำได้ครับ แต่อ้าปากกว้างอาจไม่สะดวกช่วง 2 สัปดาห์แรก
ใส่หน้ากากอนามัยได้ แต่หลีกเลี่ยงแรงกดบริเวณแผล 1–2 สัปดาห์แรก
นอนคว่ำหรือเอียงหน้า ควร นอนหงายและยกศีรษะสูง อย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อลดบวม
บางคนถามว่า บวมกี่วัน?
1–5 วันแรก: บวมมากที่สุด
7–10 วัน: เริ่มลดลง
2–4 สัปดาห์: หน้าเข้าที่
และเรื่อง แผลเป็น
แผลจะซ่อนในแนวธรรมชาติบริเวณขอบหูและแนวผม
ส่วนใหญ่จะจางลงใน 6–12 เดือน
สุดท้าย หลายคนถามว่า Face Lift เหมาะกับใคร?
เหมาะกับทั้ง ผู้ชายและผู้หญิง
แต่ต้องมีความหย่อนคล้อยของใบหน้า
เทคนิคและวิธีผ่าตัดจะปรับให้เหมาะกับ โครงหน้าและอายุของแต่ละคน
💡 สรุปจากหมอ
Face Lift แบบ Deep Plane & High SMAS ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี และยังคงขยับหน้าตามปกติ การเตรียมตัวและดูแลหลังผ่าตัดสำคัญมากครับ
ถ้าสนใจ หมอแนะนำให้ ปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินใบหน้าและวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมที่สุดครับ