แฟนๆ ค่าย Suzuki ที่กำลังรอคอยการมาถึงของรถใหม่กันอยู่ ตอนนี้ที่อินโดนีเซียเขามีการเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือ Suzuki Satria Pro และ Suzuki Satria F150 ซึ่งข่าวนี้มันน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเราคนไทยยังไงน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่ามีโอกาสสูงมากที่เจ้า 2 รุ่นนี้แหละ อาจจะเป็นโฉมใหม่ของ Suzuki Raider R150 ที่ทำตลาดในบ้านเรานั่นเอง หลายคนคงรู้ดีว่าเจ้า Raider R150 ของเรานั้นก็โลดแล่นอยู่บนถนนมานานพอสมควรแล้ว และยังไม่มีการปรับโฉมใหญ่แบบจริงๆ จังๆ มาหลายปีดีดัก การเปิดตัวที่อินโดนีเซียครั้งนี้เลยเหมือนเป็นสัญญาณส่งมาบอกว่า การรอคอยของเราอาจจะใกล้สิ้นสุดลงแล้ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกข้อมูลที่ได้มากันครับว่าเจ้า 2 รุ่นนี้มีอะไรเด็ดๆ บ้าง แล้วมันต่างกันยังไง เผื่อว่าถ้า Suzuki ประเทศไทยนำเข้ามาจริงๆ เราจะได้รู้กันก่อนว่ารุ่นไหนจะโดนใจเรามากที่สุด
ก่อนอื่นเลยมาว่ากันเรื่องชื่อรุ่นกันก่อน บางคนอาจจะงงว่า เอ๊ะ Satria Pro แล้วก็ Satria F150 มันคือรุ่นไหนกันแน่ ต้องบอกแบบนี้ครับว่า ชื่อรุ่นพวกนี้ก็แตกต่างกันไปตามตลาดที่วางจำหน่าย อย่างในอินโดนีเซียเขาใช้ชื่อนี้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว รถทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือรถที่มีพื้นฐานเดียวกันกับ Suzuki Raider R150 ที่เรารู้จักกันดีในประเทศไทยนี่แหละครับ มันเหมือนเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เกิดกันคนละประเทศเท่านั้นเอง ดังนั้นสเปคหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เรากำลังจะพูดถึงกันต่อไปนี้ มันจึงเกี่ยวข้องกับอนาคตของ Raider R150 ในบ้านเราโดยตรงเลยทีเดียว นี่คือเหตุผลหลักๆ เลยว่าทำไมการเปิดตัวครั้งนี้ถึงเป็นที่น่าจับตามองของชาวไบค์เกอร์ไทยอย่างพวกเรา
ทีนี้เรามาดูความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดกันก่อนเลย นั่นก็คือเรื่องของดีไซน์ โดยเฉพาะไฟหน้าครับ ในรุ่น Satria Pro นั้น ข้อมูลบอกว่ามีการใช้ดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่เลย ซึ่งดีไซน์ที่ว่านี้จะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Gixxer 150 หรือ Gixxer 250 ลองนึกภาพตามนะครับ มันน่าจะให้ความรู้สึกที่ดุดันขึ้น สปอร์ตมากขึ้น และดูทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ถือเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่น Satria F150 ที่คาดว่าจะยังคงใช้ดีไซน์ที่คุ้นเคยกันอยู่ หรืออาจจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับรุ่น Pro แน่นอน แค่เรื่องไฟหน้าอย่างเดียวก็ทำให้รุ่น Pro ดูโดดเด่นและพรีเมียมขึ้นมาทันทีเลยครับ
มาถึงจุดที่เป็นไฮไลท์เด็ดที่สุดของงานนี้กันบ้าง นั่นคือฟีเจอร์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่อัดแน่นเข้ามาในรุ่น Satria Pro ต้องบอกว่านี่คือการยกระดับที่แท้จริง เริ่มกันที่ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่เรียกว่า Suzuki R Connect ระบบนี้จะทำให้เราสามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนของเราเข้ากับหน้าจอของตัวรถได้เลย ลองจินตนาการดูสิครับว่ามันจะเจ๋งแค่ไหน เราอาจจะเห็นการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า หรือข้อมูลอื่นๆ จากมือถือบนหน้าปัดรถเราเลยก็ได้ นี่คือฟีเจอร์ที่รถมอเตอร์ไซค์ยุคใหม่เริ่มมีกันแล้ว และการที่ Satria Pro มีระบบนี้มาให้ก็ถือว่าล้ำสมัยมากๆ
ยังไม่หมดแค่นั้นครับ ความสะดวกสบายในการใช้งานก็เป็นอีกเรื่องที่ Suzuki ให้ความสำคัญ ในรุ่น Pro จะมาพร้อมกับระบบกุญแจอัจฉริยะ หรือ Smart Key นั่นเอง ลืมเรื่องการต้องควักกุญแจออกมาไขไปได้เลยครับ แค่เรามีกุญแจอยู่ในกระเป๋า ก็สามารถสตาร์ทรถหรือล็อครถได้ทันที มันทั้งสะดวกสบายและยังช่วยเรื่องความปลอดภัยได้อีกระดับหนึ่งด้วย ฟีเจอร์นี้ปกติเราจะเห็นในรถสกู๊ตเตอร์ราคาสูงๆ หรือรถบิ๊กไบค์ แต่ตอนนี้มันกำลังจะมาอยู่ในรถสปอร์ตครอบครัวแบบนี้แล้ว
และอีกหนึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่แบบสุดๆ ก็คือช่องชาร์จ USB ครับ ในรุ่น Satria Pro จะมีพอร์ต USB มาให้สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือเพาเวอร์แบงค์ หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทางไปได้เลย ยิ่งถ้าเราต้องใช้สมาร์ตโฟนเชื่อมต่อกับระบบ Suzuki R Connect ตลอดเวลาด้วยแล้ว การมีช่องชาร์จในตัวนี่คือสวรรค์ชัดๆ และที่สำคัญ ช่องชาร์จนี้ไม่ได้อยู่แบบลอยๆ นะครับ มันถูกติดตั้งมาให้อย่างดีในกล่องเก็บของ ซึ่งกล่องนี้ก็มีขนาดความจุที่ระบุมาให้ชัดเจนเลยคือ 961 มิลลิลิตร ขนาด 961 ml นี่ก็ถือว่าไม่เล็กนะครับ มันใหญ่พอที่เราจะเก็บสมาร์ตโฟนในขณะชาร์จได้สบายๆ หรืออาจจะเก็บกระเป๋าสตางค์และของจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการออกแบบที่คิดมาดีมากๆ
ในส่วนของระบบที่ช่วยในการขับขี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ทั้ง 2 รุ่นนี้มีการพูดถึงระบบเบรก ABS ซึ่งข้อมูลระบุว่าจะเป็น ABS ที่ติดตั้งมาให้เฉพาะล้อหน้าเท่านั้น เหตุผลก็เพื่อให้ผ่านกฎหมายในบางประเทศนั่นเองครับ แม้ว่าจะเป็น ABS แค่ล้อหน้า แต่ก็ถือเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือบนพื้นผิวถนนที่ลื่น การมี ABS ที่ล้อหน้าจะช่วยป้องกันล้อล็อคและช่วยให้เรายังสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น ถือว่าดีกว่าไม่มีระบบนี้เลยครับ

นอกจากระบบเบรกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งระบบที่น่าสนใจคือ SCAS หรือชื่อเต็มๆ ว่า Suzuki Class Assist System ระบบนี้จะเข้ามาช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ของเรานั้นนุ่มนวลขึ้น ลดอาการกระตุกกระชากเวลาที่เราเปลี่ยนเกียร์ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงก็ตาม ประโยชน์ของมันคือจะทำให้การขับขี่โดยรวมสบายขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ มันจะช่วยลดความเหนื่อยล้าและทำให้การขับขี่สนุกสนานไหลลื่นมากยิ่งขึ้นครับ
· มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ นั่นคือเรื่องของราคาครับ ต้องย้ำกันอีกครั้งว่านี่เป็นราคาที่เปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียนะครับ ยังไม่ใช่ราคาในประเทศไทย สำหรับรุ่น Satria Pro นั้น ราคาอยู่ที่ 34.9 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย เมื่อคำนวณเป็นเงินไทยแบบคร่าวๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 67,200 บาท ส่วนในรุ่น Satria F150 ราคาจะย่อมเยากว่า อยู่ที่ 31 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 59,700 บาท จะเห็นว่าราคาทั้ง 2 รุ่นต่างกันพอสมควร ซึ่งก็สมเหตุสมผลกับออปชันและเทคโนโลยีต่างๆ ที่รุ่น Pro ได้รับเพิ่มเข้ามาอย่างจัดเต็ม
· ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญที่สุดครับว่า แล้วในประเทศไทยล่ะ เราจะได้เห็นรถรุ่นนี้กันไหม ผู้รีวิวในข้อมูลต้นทางก็ได้คาดการณ์ไว้อย่างน่าสนใจครับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ Suzuki จะนำรุ่นใดรุ่นหนึ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หรืออาจจะมาทั้ง 2 รุ่นเลยก็ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า Suzuki Raider R150 ในบ้านเรานั้นยังไม่มีการปรับโฉมใหญ่มานานแล้ว การนำโมเดลใหม่ที่สดกว่า ล้ำกว่า เข้ามาสู้ในตลาดก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าทาง Suzuki ประเทศไทยจะตัดสินใจยังไง จะเลือกรุ่น Pro ที่จัดเต็มเทคโนโลยี หรือจะเลือกรุ่น F150 ที่ทำราคาได้น่าสนใจ หรืออาจจะนำมาทั้งคู่เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับไบค์เกอร์ชาวไทย เราคงต้องติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดครับ
รีวิวการเปิดตัว Suzuki Satria Pro และ Satria F150 ในอินโดนีเซีย
แฟนๆ ค่าย Suzuki ที่กำลังรอคอยการมาถึงของรถใหม่กันอยู่ ตอนนี้ที่อินโดนีเซียเขามีการเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือ Suzuki Satria Pro และ Suzuki Satria F150 ซึ่งข่าวนี้มันน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเราคนไทยยังไงน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่ามีโอกาสสูงมากที่เจ้า 2 รุ่นนี้แหละ อาจจะเป็นโฉมใหม่ของ Suzuki Raider R150 ที่ทำตลาดในบ้านเรานั่นเอง หลายคนคงรู้ดีว่าเจ้า Raider R150 ของเรานั้นก็โลดแล่นอยู่บนถนนมานานพอสมควรแล้ว และยังไม่มีการปรับโฉมใหญ่แบบจริงๆ จังๆ มาหลายปีดีดัก การเปิดตัวที่อินโดนีเซียครั้งนี้เลยเหมือนเป็นสัญญาณส่งมาบอกว่า การรอคอยของเราอาจจะใกล้สิ้นสุดลงแล้ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกข้อมูลที่ได้มากันครับว่าเจ้า 2 รุ่นนี้มีอะไรเด็ดๆ บ้าง แล้วมันต่างกันยังไง เผื่อว่าถ้า Suzuki ประเทศไทยนำเข้ามาจริงๆ เราจะได้รู้กันก่อนว่ารุ่นไหนจะโดนใจเรามากที่สุด
ก่อนอื่นเลยมาว่ากันเรื่องชื่อรุ่นกันก่อน บางคนอาจจะงงว่า เอ๊ะ Satria Pro แล้วก็ Satria F150 มันคือรุ่นไหนกันแน่ ต้องบอกแบบนี้ครับว่า ชื่อรุ่นพวกนี้ก็แตกต่างกันไปตามตลาดที่วางจำหน่าย อย่างในอินโดนีเซียเขาใช้ชื่อนี้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว รถทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือรถที่มีพื้นฐานเดียวกันกับ Suzuki Raider R150 ที่เรารู้จักกันดีในประเทศไทยนี่แหละครับ มันเหมือนเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เกิดกันคนละประเทศเท่านั้นเอง ดังนั้นสเปคหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เรากำลังจะพูดถึงกันต่อไปนี้ มันจึงเกี่ยวข้องกับอนาคตของ Raider R150 ในบ้านเราโดยตรงเลยทีเดียว นี่คือเหตุผลหลักๆ เลยว่าทำไมการเปิดตัวครั้งนี้ถึงเป็นที่น่าจับตามองของชาวไบค์เกอร์ไทยอย่างพวกเรา
ทีนี้เรามาดูความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดกันก่อนเลย นั่นก็คือเรื่องของดีไซน์ โดยเฉพาะไฟหน้าครับ ในรุ่น Satria Pro นั้น ข้อมูลบอกว่ามีการใช้ดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่เลย ซึ่งดีไซน์ที่ว่านี้จะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Gixxer 150 หรือ Gixxer 250 ลองนึกภาพตามนะครับ มันน่าจะให้ความรู้สึกที่ดุดันขึ้น สปอร์ตมากขึ้น และดูทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ถือเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่น Satria F150 ที่คาดว่าจะยังคงใช้ดีไซน์ที่คุ้นเคยกันอยู่ หรืออาจจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับรุ่น Pro แน่นอน แค่เรื่องไฟหน้าอย่างเดียวก็ทำให้รุ่น Pro ดูโดดเด่นและพรีเมียมขึ้นมาทันทีเลยครับ
มาถึงจุดที่เป็นไฮไลท์เด็ดที่สุดของงานนี้กันบ้าง นั่นคือฟีเจอร์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่อัดแน่นเข้ามาในรุ่น Satria Pro ต้องบอกว่านี่คือการยกระดับที่แท้จริง เริ่มกันที่ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่เรียกว่า Suzuki R Connect ระบบนี้จะทำให้เราสามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนของเราเข้ากับหน้าจอของตัวรถได้เลย ลองจินตนาการดูสิครับว่ามันจะเจ๋งแค่ไหน เราอาจจะเห็นการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า หรือข้อมูลอื่นๆ จากมือถือบนหน้าปัดรถเราเลยก็ได้ นี่คือฟีเจอร์ที่รถมอเตอร์ไซค์ยุคใหม่เริ่มมีกันแล้ว และการที่ Satria Pro มีระบบนี้มาให้ก็ถือว่าล้ำสมัยมากๆ
ยังไม่หมดแค่นั้นครับ ความสะดวกสบายในการใช้งานก็เป็นอีกเรื่องที่ Suzuki ให้ความสำคัญ ในรุ่น Pro จะมาพร้อมกับระบบกุญแจอัจฉริยะ หรือ Smart Key นั่นเอง ลืมเรื่องการต้องควักกุญแจออกมาไขไปได้เลยครับ แค่เรามีกุญแจอยู่ในกระเป๋า ก็สามารถสตาร์ทรถหรือล็อครถได้ทันที มันทั้งสะดวกสบายและยังช่วยเรื่องความปลอดภัยได้อีกระดับหนึ่งด้วย ฟีเจอร์นี้ปกติเราจะเห็นในรถสกู๊ตเตอร์ราคาสูงๆ หรือรถบิ๊กไบค์ แต่ตอนนี้มันกำลังจะมาอยู่ในรถสปอร์ตครอบครัวแบบนี้แล้ว
และอีกหนึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่แบบสุดๆ ก็คือช่องชาร์จ USB ครับ ในรุ่น Satria Pro จะมีพอร์ต USB มาให้สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือเพาเวอร์แบงค์ หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทางไปได้เลย ยิ่งถ้าเราต้องใช้สมาร์ตโฟนเชื่อมต่อกับระบบ Suzuki R Connect ตลอดเวลาด้วยแล้ว การมีช่องชาร์จในตัวนี่คือสวรรค์ชัดๆ และที่สำคัญ ช่องชาร์จนี้ไม่ได้อยู่แบบลอยๆ นะครับ มันถูกติดตั้งมาให้อย่างดีในกล่องเก็บของ ซึ่งกล่องนี้ก็มีขนาดความจุที่ระบุมาให้ชัดเจนเลยคือ 961 มิลลิลิตร ขนาด 961 ml นี่ก็ถือว่าไม่เล็กนะครับ มันใหญ่พอที่เราจะเก็บสมาร์ตโฟนในขณะชาร์จได้สบายๆ หรืออาจจะเก็บกระเป๋าสตางค์และของจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการออกแบบที่คิดมาดีมากๆ
ในส่วนของระบบที่ช่วยในการขับขี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ทั้ง 2 รุ่นนี้มีการพูดถึงระบบเบรก ABS ซึ่งข้อมูลระบุว่าจะเป็น ABS ที่ติดตั้งมาให้เฉพาะล้อหน้าเท่านั้น เหตุผลก็เพื่อให้ผ่านกฎหมายในบางประเทศนั่นเองครับ แม้ว่าจะเป็น ABS แค่ล้อหน้า แต่ก็ถือเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือบนพื้นผิวถนนที่ลื่น การมี ABS ที่ล้อหน้าจะช่วยป้องกันล้อล็อคและช่วยให้เรายังสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น ถือว่าดีกว่าไม่มีระบบนี้เลยครับ
นอกจากระบบเบรกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งระบบที่น่าสนใจคือ SCAS หรือชื่อเต็มๆ ว่า Suzuki Class Assist System ระบบนี้จะเข้ามาช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ของเรานั้นนุ่มนวลขึ้น ลดอาการกระตุกกระชากเวลาที่เราเปลี่ยนเกียร์ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงก็ตาม ประโยชน์ของมันคือจะทำให้การขับขี่โดยรวมสบายขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ มันจะช่วยลดความเหนื่อยล้าและทำให้การขับขี่สนุกสนานไหลลื่นมากยิ่งขึ้นครับ
· มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ นั่นคือเรื่องของราคาครับ ต้องย้ำกันอีกครั้งว่านี่เป็นราคาที่เปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียนะครับ ยังไม่ใช่ราคาในประเทศไทย สำหรับรุ่น Satria Pro นั้น ราคาอยู่ที่ 34.9 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย เมื่อคำนวณเป็นเงินไทยแบบคร่าวๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 67,200 บาท ส่วนในรุ่น Satria F150 ราคาจะย่อมเยากว่า อยู่ที่ 31 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 59,700 บาท จะเห็นว่าราคาทั้ง 2 รุ่นต่างกันพอสมควร ซึ่งก็สมเหตุสมผลกับออปชันและเทคโนโลยีต่างๆ ที่รุ่น Pro ได้รับเพิ่มเข้ามาอย่างจัดเต็ม
· ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญที่สุดครับว่า แล้วในประเทศไทยล่ะ เราจะได้เห็นรถรุ่นนี้กันไหม ผู้รีวิวในข้อมูลต้นทางก็ได้คาดการณ์ไว้อย่างน่าสนใจครับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ Suzuki จะนำรุ่นใดรุ่นหนึ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หรืออาจจะมาทั้ง 2 รุ่นเลยก็ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า Suzuki Raider R150 ในบ้านเรานั้นยังไม่มีการปรับโฉมใหญ่มานานแล้ว การนำโมเดลใหม่ที่สดกว่า ล้ำกว่า เข้ามาสู้ในตลาดก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าทาง Suzuki ประเทศไทยจะตัดสินใจยังไง จะเลือกรุ่น Pro ที่จัดเต็มเทคโนโลยี หรือจะเลือกรุ่น F150 ที่ทำราคาได้น่าสนใจ หรืออาจจะนำมาทั้งคู่เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับไบค์เกอร์ชาวไทย เราคงต้องติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดครับ