คิดว่าถ้าไทยลงทุนสร้างแลนบริดเชื่อมกับโครงการเกาะฟูโกว๊กของเวียดนามจะคุ้มมั๊ยค่ะ? เพราะความเสี่ยงไทยต้องลงทุนสูงมากกว่า1ล้านล้านบาท ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็ตามมา แต่ถ้าทำสำเร็จไทยจะกลายเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ ทำให้GDP เพิ่มปีละ1.5%
(**สำหรับวิธีการเชื่อมต่อนั้น หมายถึงการสร้างระบบเชื่อมต่อการเดินเรือทางทะเล ระหว่างท่าเรือชุมพร ข้ามไปยังเกาะฟูโกว๊กหรือท่าเรืออื่น ไม่ได้ให้สร้างถนนหรือสะพานข้ามทะเล500-600 กม.นะ**)
คห.gemini
โครงการเชื่อมโยงแลนด์บริดจ์ไทยกับเวียดนามเป็น "การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนสูง"
* คุ้มค่าสูงถ้าสำเร็จ: ไทยจะเป็นผู้ควบคุมเส้นทางโลจิสติกส์ระดับโลก และสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับเวียดนามในการสร้างเส้นทางลัดข้ามทวีปที่รวดเร็ว
* ไม่คุ้มค่าถ้าล้มเหลว: ไทยต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนใหญ่ ($28,000 ล้าน) หากไม่สามารถดึงเรือจากช่องแคบมะละกาได้ พร้อมกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์กับกัมพูชา และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่แก้ไขไม่ได้
สรุปสั้นที่สุด: ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับ การรับประกันอุปสงค์จากตลาดโลก และ ความสามารถในการจัดการความเสี่ยงด้านการเมืองและสิ่งแวดล้อม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป้อนข้อความการตัดสินใจลงทุนสร้าง แลนด์บริดจ์ของไทย เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการ เกาะฟูโกว๊กของเวียดนาม เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่มีเดิมพันสูงมาก และมีคำตอบอยู่ในหลักการ "ผลตอบแทนสูง/ความเสี่ยงสูง" (High-Risk, High-Reward) ครับ
การคุ้มค่าของโครงการนี้ขึ้นอยู่กับว่าไทยจะสามารถจัดการกับปัจจัยหลัก 3 ประการได้หรือไม่:
⚖️ จุดคุ้มทุน: ต้องแลกด้วยอะไรบ้าง?
1. 🥇 ด้านที่ "คุ้มค่ามาก" (The High Reward)
* ความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์โลก: ไทยจะสามารถเปลี่ยนสถานะจากประเทศทางผ่านไปเป็น "ผู้ควบคุมเส้นทางข้ามทวีป" ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก (โดยร่วมมือกับเวียดนาม) ซึ่งจะสร้างรายได้จากการขนถ่ายสินค้ามหาศาล และมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
* เส้นทางที่รวดเร็วและยืดหยุ่น: สินค้าที่เข้า-ออกเวียดนาม (ตลาดกว่า 100 ล้านคน) จะมีทางเลือกที่รวดเร็วและปลอดภัยกว่าการอ้อมช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของทั้งสองประเทศ
* สร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์: เป็นการผูกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยและเวียดนามเข้าด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น เพื่อเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญในอาเซียน
2. 📉 ด้านที่ "ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง" (The High Risk)
* ภาระทางการเงินมหาศาล: งบประมาณการก่อสร้าง Land Bridge สูงถึงกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น ความเสี่ยงทางการคลัง ที่ต้องแบกรับ หากโครงการไม่ดึงดูดปริมาณเรือได้ตามเป้าหมาย (เพราะคู่แข่งอย่างมะละกายังคงมีประสิทธิภาพสูง)
* ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์: การเชื่อมโยงนี้จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับ กัมพูชา (เนื่องจากเป็นการปิดล้อมและบดบังโครงการคลองฟูนันเตโช) ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์และการถูกโจมตีทางโฆษณาชวนเชื่อในระยะยาว
* ต้นทุนสิ่งแวดล้อมถาวร: ผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือและเส้นทางขนส่งต่อระบบนิเวศของอ่าวไทยและอันดามันนั้นรุนแรงและอาจ ไม่สามารถฟื้นฟูได้ มูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมมักถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง
🔑 ข้อสรุป: "จะคุ้มค่าเมื่อ..."
โครงการนี้จะ คุ้มค่าอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อรัฐบาลไทยสามารถ:
* สร้างความมั่นใจของตลาดโลก: ต้องมีสัญญาผูกมัดหรือการรับรองจากสายการเดินเรือขนาดใหญ่ระดับโลกว่าจะเปลี่ยนเส้นทางมาใช้ Land Bridge จริง
* จัดการความเสี่ยงทางการเมือง: สามารถจัดการความตึงเครียดกับกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศเพื่อสนับสนุนโครงการระยะยาว
* การควบคุมต้นทุนสิ่งแวดล้อม: มีมาตรการบรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและโปร่งใส เพื่อให้ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจไม่ถูกหักล้างด้วยความเสียหายทางนิเวศวิทยา
ถ้าทำได้ครบถ้วน โครงการนี้คือ โอกาสแห่งศตวรรษ แต่ถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง โครงการนี้อาจกลายเป็น กับดักหนี้ที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และสิ่งแวดล้อม ของประเทศได้ครับ
คห.จากGrok
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป้อนข้อความการตัดสินใจลงทุนสร้าง แลนด์บริดจ์ของไทย เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการ เกาะฟูโกว๊กของเวียดนาม เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่มีเดิมพันสูงมาก และมีคำตอบอยู่ในหลักการ "ผลตอบแทนสูง/ความเสี่ยงสูง" (High-Risk, High-Reward) ครับ
การคุ้มค่าของโครงการนี้ขึ้นอยู่กับว่าไทยจะสามารถจัดการกับปัจจัยหลัก 3 ประการได้หรือไม่:
⚖️ จุดคุ้มทุน: ต้องแลกด้วยอะไรบ้าง?
1. 🥇 ด้านที่ "คุ้มค่ามาก" (The High Reward)
* ความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์โลก: ไทยจะสามารถเปลี่ยนสถานะจากประเทศทางผ่านไปเป็น "ผู้ควบคุมเส้นทางข้ามทวีป" ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก (โดยร่วมมือกับเวียดนาม) ซึ่งจะสร้างรายได้จากการขนถ่ายสินค้ามหาศาล และมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
* เส้นทางที่รวดเร็วและยืดหยุ่น: สินค้าที่เข้า-ออกเวียดนาม (ตลาดกว่า 100 ล้านคน) จะมีทางเลือกที่รวดเร็วและปลอดภัยกว่าการอ้อมช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของทั้งสองประเทศ
* สร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์: เป็นการผูกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยและเวียดนามเข้าด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น เพื่อเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญในอาเซียน
2. 📉 ด้านที่ "ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง" (The High Risk)
* ภาระทางการเงินมหาศาล: งบประมาณการก่อสร้าง Land Bridge สูงถึงกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น ความเสี่ยงทางการคลัง ที่ต้องแบกรับ หากโครงการไม่ดึงดูดปริมาณเรือได้ตามเป้าหมาย (เพราะคู่แข่งอย่างมะละกายังคงมีประสิทธิภาพสูง)
* ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์: การเชื่อมโยงนี้จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับ กัมพูชา (เนื่องจากเป็นการปิดล้อมและบดบังโครงการคลองฟูนันเตโช) ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์และการถูกโจมตีทางโฆษณาชวนเชื่อในระยะยาว
* ต้นทุนสิ่งแวดล้อมถาวร: ผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือและเส้นทางขนส่งต่อระบบนิเวศของอ่าวไทยและอันดามันนั้นรุนแรงและอาจ ไม่สามารถฟื้นฟูได้ มูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมมักถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง
🔑 ข้อสรุป: "จะคุ้มค่าเมื่อ..."
โครงการนี้จะ คุ้มค่าอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อรัฐบาลไทยสามารถ:
* สร้างความมั่นใจของตลาดโลก: ต้องมีสัญญาผูกมัดหรือการรับรองจากสายการเดินเรือขนาดใหญ่ระดับโลกว่าจะเปลี่ยนเส้นทางมาใช้ Land Bridge จริง
* จัดการความเสี่ยงทางการเมือง: สามารถจัดการความตึงเครียดกับกัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศเพื่อสนับสนุนโครงการระยะยาว
* การควบคุมต้นทุนสิ่งแวดล้อม: มีมาตรการบรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและโปร่งใส เพื่อให้ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจไม่ถูกหักล้างด้วยความเสียหายทางนิเวศวิทยา
ถ้าทำได้ครบถ้วน โครงการนี้คือ โอกาสแห่งศตวรรษ แต่ถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง โครงการนี้อาจกลายเป็น กับดักหนี้ที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และสิ่งแวดล้อม ของประเทศได้ครับ
คิดว่าถ้าไทยลงทุนสร้างแลนบริดเชื่อมกับโครงการเกาะฟูโกว๊กของเวียดนามจะคุ้มมั๊ย?
(**สำหรับวิธีการเชื่อมต่อนั้น หมายถึงการสร้างระบบเชื่อมต่อการเดินเรือทางทะเล ระหว่างท่าเรือชุมพร ข้ามไปยังเกาะฟูโกว๊กหรือท่าเรืออื่น ไม่ได้ให้สร้างถนนหรือสะพานข้ามทะเล500-600 กม.นะ**)
คห.gemini
โครงการเชื่อมโยงแลนด์บริดจ์ไทยกับเวียดนามเป็น "การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนสูง"
* คุ้มค่าสูงถ้าสำเร็จ: ไทยจะเป็นผู้ควบคุมเส้นทางโลจิสติกส์ระดับโลก และสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับเวียดนามในการสร้างเส้นทางลัดข้ามทวีปที่รวดเร็ว
* ไม่คุ้มค่าถ้าล้มเหลว: ไทยต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนใหญ่ ($28,000 ล้าน) หากไม่สามารถดึงเรือจากช่องแคบมะละกาได้ พร้อมกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์กับกัมพูชา และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่แก้ไขไม่ได้
สรุปสั้นที่สุด: ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับ การรับประกันอุปสงค์จากตลาดโลก และ ความสามารถในการจัดการความเสี่ยงด้านการเมืองและสิ่งแวดล้อม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คห.จากGrok
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้