สำนวนไทยที่ว่า "สามล้อถูกหวย" เกิดขึ้นที่จังหวัดอุทัยธานี จนเป็นสำนวนโด่งดัง ที่คนไทยใช้เปรียบเปรยจนถึงทุกวันนี้
เรื่องเล่า สามล้อถูกหวย ของนายแทน นายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 ถึง สองครั้ง แต่หมดตัวทั้งสองครั้ง
นายแทนเป็นชาวอุทัยธานีมีอาชีพ ขี่สามล้อรับจ้าง ในตัวเมืองอุทัยธานีช่วงก่อนปี พ.ศ.2500 เล็กน้อย รูปร่างสูงประมาณ 155-160 ซม. น้ำหนักราว 60กิโลกรัม กล้ามขาแข็งแรงเป็นมัด ประมาณปี 2510 ก็ได้ย้ายไปอยู่จังหวัดทางตอนเหนือ เงียบหายไป แต่ก็ได้ทิ้งตำนานอันแสนจะโด่งดัง ไว้กับเมืองอุทัยธานี จนมีที่มาของสำนวนไทย “สามล้อถูกหวย”
นายแทน มีสามล้อคู่ใจเป็นของตัวเอง มีครอบครัวอยู่ตลาดตัวเมืองอุทัยธานีอยู่บ้านเช่า แถวหน้าวัดสังกัส ก่อนถึงโรงสี ต่อมาย้ายมาอยู่บริเวณหน้าวัดโรงโค
ราวปี พ.ศ.2503 นายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 500,000 บาท ราคาสลากใบละ 10 บาท ค่าเงิน สมัยนั้นเทียบกับ ราคาทองคำน้ำหนักบาทละ 416 บาท เท่ากับราคาข้าวเปลือก 1 เกวียน ปัจจุบันสลากใบละ 80 บาท เงินรางวัลที่หนึ่ง 6,000,000 บาท ทองบาทละ 62000 บาท ราคาข้าวเปลือก เกวียนละ 7,000 บาท
จากอาชีพขี่สามล้อ หาเช้ากินค่ำ นายแทน กลายเป็นเสี่ยแทน มหาเศรษฐี แห่งเมืองอุทัยธานีทันที หน้าบ้านที่บริเวณหน้าวัดโรงโค ถนนณรงค์วิถี ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงญาติมิตรจำนวนมากกินเลี้ยง กินเหล้าฉลองกันทุกวันช่วงเย็นสามล้อจอดเรียงรายเต็มไปหมดดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับแกล้มอย่างดีนายแทนแจกเงินไม่อั้น พร้อมกับนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนทำธุรกิจการเดินรถยนต์โดยสาร ต่อมาปีเศษๆ เงินได้หมดลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจการเดินรถก็ขาดทุน จนหมดตัวนายแทนต้อง กลับมายึดอาชีพเดิม คือขี่สามล้อรับจ้างวนเวียนอยู่แถววงเวียนห้าแยกวิทยุ ชาวบ้านเรียกนายแทนว่า “สามล้อถูกหวย”
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปี ถัดมานายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 อีกเป็นครั้งที่ 2 ทั้งสองฉบับมีลายเซ็น ของท่านจอมพล... เป็นประธานกรรมการ หวยจึงขายตามราคาบนฉลาก
ชีวิตก็กลับมาเป็นเสี่ยแทน มหาเศรษฐีแห่งเมืองอุทัยธานีอีกเป็นครั้งที่สอง ได้เงินรางวัลอีก 500,000 บาท เสี่ยแทนใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายแบบเดิมอีก เงินจำนวนมากได้หมดลงอย่างรวดเร็ว นายแทนได้นำเงินก้อนสุดท้ายอพยพไปอยู่จังหวัดใกล้เคียงและได้หายไปจากจังหวัดอุทัยธานีไม่กลับมาอีกเลย
อาชีพขี่สามล้อ ถูกหวยรางวัลที่ 1 ถึงสองครั้ง หมดตัวทั้งสองครั้ง ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ดื่มกินอย่างเทน้ำเทท่า การใช้จ่ายอย่างไม่ยั้งคิด หรือดื่มกินจนกระทั่งล้มพับหมดสติ หมดเนื้อหมดตัว จึงเกิด สำนวนที่เป็นตำนาน เรื่องเล่าของชาวอุทัยธานี สำหรับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ว่า "สามล้อถูกหวย"
จะมีสักกี่คนในโลก ที่โชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 ถึงสองครั้ง เงินรางวัลจากการถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ครั้งเดียวก็มากพอที่จะเป็นเศรษฐี มีกินมีใช้ไปชั่วลูกชั่วหลานถ้ามีสติปัญญาพอเพียง แต่ถ้าขาดสติปัญญา ทรัพย์สมบัติ เงินทองที่มีมากมายเท่าไรก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณอามาโนช พรพิบูลย์ คุณธีรยุทธ สำนวน คุณเฮียเอ้ย บรรณวัฒน์ คุณเอี่ยม รูปทอง
ข้อมูลจากคุณเสถียร แผ่วัฒนากุล
ที่มา เพจ รีวิวอุทัยธานี
ภาพประกอบ เจาะเวลาหาอดีต
💵 ที่มาของคำว่า "สามล้อถูกหวย"
เรื่องเล่า สามล้อถูกหวย ของนายแทน นายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 ถึง สองครั้ง แต่หมดตัวทั้งสองครั้ง
นายแทนเป็นชาวอุทัยธานีมีอาชีพ ขี่สามล้อรับจ้าง ในตัวเมืองอุทัยธานีช่วงก่อนปี พ.ศ.2500 เล็กน้อย รูปร่างสูงประมาณ 155-160 ซม. น้ำหนักราว 60กิโลกรัม กล้ามขาแข็งแรงเป็นมัด ประมาณปี 2510 ก็ได้ย้ายไปอยู่จังหวัดทางตอนเหนือ เงียบหายไป แต่ก็ได้ทิ้งตำนานอันแสนจะโด่งดัง ไว้กับเมืองอุทัยธานี จนมีที่มาของสำนวนไทย “สามล้อถูกหวย”
นายแทน มีสามล้อคู่ใจเป็นของตัวเอง มีครอบครัวอยู่ตลาดตัวเมืองอุทัยธานีอยู่บ้านเช่า แถวหน้าวัดสังกัส ก่อนถึงโรงสี ต่อมาย้ายมาอยู่บริเวณหน้าวัดโรงโค
ราวปี พ.ศ.2503 นายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 500,000 บาท ราคาสลากใบละ 10 บาท ค่าเงิน สมัยนั้นเทียบกับ ราคาทองคำน้ำหนักบาทละ 416 บาท เท่ากับราคาข้าวเปลือก 1 เกวียน ปัจจุบันสลากใบละ 80 บาท เงินรางวัลที่หนึ่ง 6,000,000 บาท ทองบาทละ 62000 บาท ราคาข้าวเปลือก เกวียนละ 7,000 บาท
จากอาชีพขี่สามล้อ หาเช้ากินค่ำ นายแทน กลายเป็นเสี่ยแทน มหาเศรษฐี แห่งเมืองอุทัยธานีทันที หน้าบ้านที่บริเวณหน้าวัดโรงโค ถนนณรงค์วิถี ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงญาติมิตรจำนวนมากกินเลี้ยง กินเหล้าฉลองกันทุกวันช่วงเย็นสามล้อจอดเรียงรายเต็มไปหมดดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับแกล้มอย่างดีนายแทนแจกเงินไม่อั้น พร้อมกับนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนทำธุรกิจการเดินรถยนต์โดยสาร ต่อมาปีเศษๆ เงินได้หมดลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจการเดินรถก็ขาดทุน จนหมดตัวนายแทนต้อง กลับมายึดอาชีพเดิม คือขี่สามล้อรับจ้างวนเวียนอยู่แถววงเวียนห้าแยกวิทยุ ชาวบ้านเรียกนายแทนว่า “สามล้อถูกหวย”
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปี ถัดมานายแทนถูกหวยรางวัลที่ 1 อีกเป็นครั้งที่ 2 ทั้งสองฉบับมีลายเซ็น ของท่านจอมพล... เป็นประธานกรรมการ หวยจึงขายตามราคาบนฉลาก
ชีวิตก็กลับมาเป็นเสี่ยแทน มหาเศรษฐีแห่งเมืองอุทัยธานีอีกเป็นครั้งที่สอง ได้เงินรางวัลอีก 500,000 บาท เสี่ยแทนใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายแบบเดิมอีก เงินจำนวนมากได้หมดลงอย่างรวดเร็ว นายแทนได้นำเงินก้อนสุดท้ายอพยพไปอยู่จังหวัดใกล้เคียงและได้หายไปจากจังหวัดอุทัยธานีไม่กลับมาอีกเลย
อาชีพขี่สามล้อ ถูกหวยรางวัลที่ 1 ถึงสองครั้ง หมดตัวทั้งสองครั้ง ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ดื่มกินอย่างเทน้ำเทท่า การใช้จ่ายอย่างไม่ยั้งคิด หรือดื่มกินจนกระทั่งล้มพับหมดสติ หมดเนื้อหมดตัว จึงเกิด สำนวนที่เป็นตำนาน เรื่องเล่าของชาวอุทัยธานี สำหรับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ว่า "สามล้อถูกหวย"
จะมีสักกี่คนในโลก ที่โชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 ถึงสองครั้ง เงินรางวัลจากการถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ครั้งเดียวก็มากพอที่จะเป็นเศรษฐี มีกินมีใช้ไปชั่วลูกชั่วหลานถ้ามีสติปัญญาพอเพียง แต่ถ้าขาดสติปัญญา ทรัพย์สมบัติ เงินทองที่มีมากมายเท่าไรก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณอามาโนช พรพิบูลย์ คุณธีรยุทธ สำนวน คุณเฮียเอ้ย บรรณวัฒน์ คุณเอี่ยม รูปทอง
ข้อมูลจากคุณเสถียร แผ่วัฒนากุล
ที่มา เพจ รีวิวอุทัยธานี
ภาพประกอบ เจาะเวลาหาอดีต