KEY POINTS
รายงานพิเศษ : เวียดนามแซงโค้งอาเซียน! เร่งปฏิรูปรัฐ-สร้างฮับเศรษฐกิจ-ดึง FDI คุณภาพสูง
เปลี่ยนตัวเองจากฐานแรงงานราคาถูก สู่ ศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีเอเชีย
นักลงทุนทั่วโลกขนานนามเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของภูมิภาค
เวียดนามมีดีอะไร ? ทำไมใครๆ ถึงไปลงทุน...เรื่องเล่าจากนักลงทุนในสนามจริง
ลองจินตนาการถึงประเทศหนึ่งที่เคยถูกมองว่าเป็น "โรงงานแรงงานราคาถูก" ของโลก แต่วันนี้…ประเทศนั้นกำลังวางหมากใหม่ เปลี่ยนตัวเองเป็น "เครื่องยนต์เศรษฐกิจความเร็วสูง" ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเทศนั้นคือ "เวียดนาม" และนี่คือภาพที่นักลงทุนซึ่งอยู่ในเวียดนามจริงๆ เล่าให้ฟัง…
ประเทศที่กล้าผ่าตัดตัวเอง
นักลงทุนเล่าให้
"โพสต์ทูเดย์" ฟังว่า จุดที่เขาประหลาดใจที่สุดคือ
"ความกล้า" ของเวียดนามในการรื้อโครงสร้างรัฐ แบบที่หลายประเทศทำไม่ได้
ย้อนกลับไป 8 ปีก่อน เวียดนามมีสัดส่วนข้าราชการสูงที่สุดในอาเซียน ราว 4.8% และติดอันดับต้นๆของโลก งบรัฐบาลที่ควรนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กลับต้องใช้ไปกับ "เงินเดือนข้าราชการ" เป็นจำนวนมาก
แต่แทนที่จะปล่อยให้เป็นภาระ เวียดนามกลับทำในสิ่งที่หลายประเทศไม่กล้าทำ นั่นก็คือ "ยุบรวมกระทรวง" จาก 18 กระทรวง เหลือเพียง 14 กระทรวงเท่านั้น
"กระทรวง Planning and Investment" ที่ดึงคนเข้ามาลงทุน ถูกรวมเข้ากับ "กระทรวงการคลัง" ซึ่งเป็นคนปล่อย Incentive ให้เป็นทีมเดียวกัน
"กระทรวงคมนาคม" ถูกรวมเข้ากับ "กระทรวงก่อสร้าง" เพื่อเร่งการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ ถนน ท่าเรือ และรางรถไฟ
"กระทรวงสิ่งแวดล้อม" ยุบรวมกับ "กระทรวงเกษตรกร" เพื่อรับมือ Net Zero 2050 และบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ…เวียดนามกำลังปั้น "ข้าราชการรุ่นใหม่" อายุเฉลี่ยลดลงจาก 50 กว่าปี เหลือเพียงช่วงอายุ 40 กว่าปีเท่านั้น พร้อมความสามารถการสื่อสารภาษาอังกฤษดีขึ้น ทำงานเร็วขึ้น รับนักลงทุนได้มืออาชีพขึ้น
นี่คือประเทศที่ยอม "Lean ตัวเอง" เพื่อสร้างอนาคต!
เมื่อทั้งประเทศถูกออกแบบให้เป็น ‘Economic Hubs’
อีกสิ่งที่นักลงทุนชื่นชมคือ เวียดนามไม่ได้คิดถึงแค่วันนี้ แต่กำลัง "จัดโครงสร้างพื้นที่ใหม่ทั้งประเทศ" จาก 63 จังหวัด เหลือเพียง 34 จังหวัด และแต่ละจังหวัดถูกออกแบบให้เป็น "ศูนย์กลางเศรษฐกิจ (Hubs)" เช่น ท่าเรือน้ำลึก, เขตการเงิน หรือฐานการผลิตส่งออก
ผู้ว่าราชการไม่ได้เป็นแค่ผู้ปกครอง แต่คือ "Operator" ที่ต้องผลักดัน 'การผลิต-โลจิสติกส์-ส่งออก' ให้เชื่อมกันเป็น Ecosystem เดียวกัน
ที่สำคัญ เวียดนามไม่ได้แค่ "วางแผน" แต่ลงมือทำ อย่างรวดเร็วและชัดเจน เปรียบเหมือนบริษัทที่ยอมล้างไส้ใน ปรับตัวเองให้ Lean และ Focus แบบเอาจริงเอาจัง
ประเทศที่มีทิศทางชัดเจน และไม่เปลี่ยนตามลม
สิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกให้คะแนนสูงมากคือ…
มีทิศทางชัดเจน (Direction) แผนพัฒนา 5 ปี หรือ 10 ปี มีความชัดเจน ต่อเนื่อง และเป็นระบบ
ผู้บริหารเปลี่ยน แต่ "ทิศทาง" ไม่เปลี่ยน เพราะแก่นของประเทศถูกวางไว้อย่างมั่นคง ทำให้ความเสี่ยงด้านนโยบายต่ำ นักลงทุนจึงวางแผนระยะยาวได้สบายใจ
เตรียมตัวสู่ยุค High-Tech Manufacturing
เวียดนาม รู้ดีถึงจุดแข็งที่ว่า…
แรงงานวัยทำงาน มากกว่า 70 ล้านคน
ค่าแรงที่เคยถูก…จะไม่ถูกตลอดไป
ดังนั้นพวกเขาจึงเร่งเปลี่ยนฐานเศรษฐกิจไปสู่ Value - Add & High - Tech พร้อมดึงดูด FDI คุณภาพสูง จากประเทศพัฒนาแล้ว
Infrastructure เร่งเครื่อง ปรับคนเร่งขึ้น และการศึกษาถูกยกระดับควบคู่กันไปเป็นระบบ
เวียดนามกลายเป็น "ผู้เล่นตัวจริง" ของอาเซียน
ในสายตานักลงทุน การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียง "ทฤษฎี" หรือ "แผนบนกระดาษ" แต่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงแบบเต็มรูปแบบ
เวียดนามกำลังไม่ใช่แค่ประเทศทางเลือก แต่กำลังจะเป็นหนึ่งในหัวใจเศรษฐกิจของ Southeast Asia
และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม…บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฮเทค รวมถึงนักลงทุนใหญ่จากทั่วโลกถึงแห่กันเข้ามาปักธงที่เวียดนาม
เวียดนามน่าลงทุน… เพราะเขากำลัง "สร้างประเทศใหม่" แบบมีแผน มีทิศทาง และมีการลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่กำลังกลายเป็นประเทศที่
Lean ขึ้น
ทำงานเร็วขึ้น
โครงสร้างดีขึ้น
High-Tech มากขึ้น
มั่นคงมากขึ้น
และที่สำคัญที่สุด "เขากำลังทำสิ่งที่หลายประเทศอยากทำ แต่ไม่กล้าทำ"
นี่คือเวียดนามในสายตานักลงทุนตัวจริง ประเทศที่กำลังก้าวจาก "โรงงานแรงงานราคาถูก" ก้าวสู่ "เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย"
มองเวียดนาม...มองไทย
เมื่อใครสักคนบินลงจอดสู่สนามบินไทย สิ่งแรกที่เขารู้สึกได้ไม่ใช่แค่ความคึกคักของเมืองหลวง แต่คือ "ความพร้อมของประเทศ" ที่สัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรก ถนนที่ราบเรียบ การเดินทางที่สะดวกสบาย ระบบสาธารณูปโภคที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่ได้อย่างไร้รอยต่อ
สิ่งเหล่านี้คือข้อได้เปรียบที่ไทยมีเหนือหลายประเทศในภูมิภาค และเป็นผลลัพธ์จากการลงทุนระยะยาวที่เคยวางรากฐานไว้ดีมาก
ไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐานเท่านั้นที่แข็งแรง ไทยยังมี "คุณภาพสินค้าที่นักลงทุนยอมรับ" จากประสบการณ์อันยาวนานที่ญี่ปุ่นเคยเข้ามาปลูกฝังมาตรฐานการผลิตให้เติบโต จน Industry input ของไทยมีคุณภาพในระดับที่แข่งขันได้
ขณะเดียวกัน "บริการแบบไทย" ก็เป็นเสน่ห์ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ง่าย ความใส่ใจ ความสุภาพ และ Service mind คือทุนมนุษย์ที่สร้างความแตกต่างให้กับประเทศนี้มาเสมอ
วันนี้ รัฐบาลไทยกำลังเดินหน้าออกสู่โลก เปิดตลาดใหม่ๆ และผูกมิตรกับ Global Market มากขึ้น ดูเหมือนทุกอย่างกำลังไปในทางที่ดี แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังรู้สึกลังเล
...สิ่งนั้นคือ "แผนที่ที่หายไป (The Missing Map)"
แม้โครงสร้างของประเทศจะพร้อม แม้ศักยภาพจะมีครบ แต่ทิศทางที่ชัดเจนยังไม่เกิดขึ้น ความไม่แน่นอนนี้กำลังทำให้การตัดสินใจลงทุนต้องชะงัก และภาคธุรกิจต้องรอคำตอบที่ยังไม่ถูกประกาศออกมา
ระหว่างที่ประเทศกำลังรอแผนที่ ไทยเองก็กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่สองประการ หนึ่งในนั้นคือ การเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบเต็มตัว
นี่คือความท้าทายที่อันตรายที่สุด เพราะถ้าเราไม่เร่งวางทิศทางใหม่ ไม่สร้างความชัดเจน และไม่เดินตามแผนอย่างจริงจัง วันหนึ่งเราอาจไม่มีเงินพอจะดูแลหรือซ่อมบำรุงสาธารณูปโภคชั้นดีที่เรามีอยู่แล้ว และนั่น…คือจุดที่ประเทศอาจเสียเปรียบอย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่จุดจบเพราะประเทศไทยยัง "ทัน" ทันที่จะปรับตัว ทันที่จะเดินหน้าใหม่ ทันที่จะสร้างอนาคตที่แข็งแรงกว่าเดิม
เรามีของดีอยู่แล้ว เรามีพื้นฐานที่หลายประเทศอยากมี!
สิ่งเดียวที่ต้องทำตอนนี้คือ "ทำให้ภาพอนาคตของประเทศชัดเจนขึ้น และเดินตามแผนนั้นอย่างมั่นคง"
หากทำได้ ประเทศไทยไม่ใช่แค่พร้อม แต่จะ "พุ่งขึ้น" ได้ทันทีที่แผนที่ถูกวางลงบนโต๊ะอย่างชัดเจน แต่หากไม่เร่งแก้เกมในเร็ววันนี้ ไทยอาจจะตามหลายประเทศ ไม่ใช่แค่เวียดนาม.
Cr.
https://www.posttoday.com/business/financial/733858
เจาะสูตรสำเร็จ "เวียดนาม" มีดีอะไร ? ทำไมทั่วโลกเร่งเข้าไปลงทุน
Cr. https://www.posttoday.com/business/financial/733858