สวัสดีค่ะทุกคน เราไปหาหมอมาอีกเเล้วนะคะวันนี้ เพราะว่าไม่เชื่อว่าตัวเองป่วยเลยไปถามสาเหตุการวินิจฉัยตามกระทู้ที่เราเคยเขียนอะค่ะ เเต่ปรากฏว่าเราก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น bipolar disorder เหมือนเดิมเเละเพิ่มยาอีกเพราะพักนี้ก้าวร้าวเเละก่อเรื่องที่โรงเรียน เเละเพิ่มไปอีกว่ามีพฤติกรรมเเบบ Antisocial personality disorder โพสต์อื่นเราอธิบายไว้ทั้งหมดเเล้วนะคะว่าเรามีพฤติกรรมยังไง ใจคอเป็นเเบบไหน ครอบครัวการเลี้ยงดูต่างๆ ไปอ่านโพสต์ก่อนหน้านี้ได้ค่ะ ซึ่งเราจะมาเล่านะคะว่าหมอพูดไรบ้าง ตอนเเรกที่พบหมอจิตเราเปิดไปว่า หมอคะหนูเป็นไบโพล่าร์จริงหรอ ทำไมพฤติกรรมหนูไม่เหมือนคนเป็นไบโพล่าร์ หมอก็ตอบนะคะว่าเราไม่ได้มีอารมณ์เศร้าก็จริง เเต่เบื่อหน่ายตลอดเวลา อารมณ์ต่ำ เเต่จะมีสลับขั้วเป็นmaniaเเต่ไม่บ่อยนะคะ ไบโพล่าร์ของจริงกว่าจะสลับก็นาน ไม่ได้สวิงขึ้นลงเหมือนกราฟหุ้นเเบบในหนังนะคะ อันนั้นจะเหมือนคนเป็น Borderline personality disorder ซะมากกว่า ต่อนะคะ ซึ่งเราก็ถามหมอหลายโรคเลยละค่ะ เช่นออทิสติก สมาธิสั้น IED ว่าหนูเสี่ยงเป็นอะไรบ้างหมอก็ตอบนะคะว่าไม่ได้เป็นออทิสติกหรืออะไรทั้งนั้นเพราะควบคุมอารมณ์ได้เเต่เลือกที่จะทำตามใจตัวเอง ซึ่งต่อนะคะว่าทำไมเป็นไซโคพาธ หมอถามหลายคำถามกับยายเราเเละเรานะคะ เราจะยกตัวอย่างคำถามให้นะคะ เช่น เคยฆ่lสัตว์มั้ย ขโมยของรึเปล่า เคยทำผิดกฎหมาย กฎระเบียบไรมั้ย เคยกลั่นเเกล้งอะไรใครมั้ย เเละมีอีกมากมายนะคะคุยกันเกือบชั่วโมง เเละก็ให้เราเล่าเคสของตัวเอง ว่าเคยฆ่lทรมานเเมวเเละไม่ใช่ตัวเดียว ทำร้ายร่างกายเด็กที่อายุประมาณ4ขวบโดยไม่รู้สึกผิด เคยคิดจะเผาโรงเรียน กฎโรงเรียนทำบ้างไม่ทำบ้าง ขาดความกลัวหรือกังวล เราจะปรี๊ดเเตกเวลาไม่ได้ดั่งใจเเต่พฤติกรรมเเละสีหน้าจะไม่ออกดูเหมือนคนปกติเเต่ชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆลอยไปหาฝั่งคนที่เเกล้งชนเราเเล้ว ชอบโกหกหน้าตายเป็นว่าเล่นจนคนในครอบครัวเชื่อสนิทใจว่าเป็นเด็กเรียบร้อย จนกระทั่งวันนี้ที่เปิดเผยต่อหมอทางครอบครัวเราก็ได้ยิน เรื่องที่เราขโมยของเพื่อนร่วมชั้นมาจำนวนมากเเต่บอกยายว่าเพื่อนให้มาหรือเก็บได้ เเล้วพ่อเราก็เป็นคนที่เคยติดคุก ใช้กำลัง ชอบทะเลาะวิวาทอยู่เเล้ว ถึงจะไม่ได้เป็นคนเลี้ยงเรา เเต่เชื้อพ่อก็ถือว่าส่งผลมาต่อเราจริงๆ เอาเป็นว่านะคะเราไม่ค่อยทำร้ายใครก่อน เเต่ถ้าโดนทำร้ายก่อนมักจะตอบโต้อย่างรุนเเรงโดยไม่สนว่าคนนั้นจะเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน เป็นเด็ก คนพิการ คนเเก่ ก็ไม่เว้น ถ้าเราไม่ได้เอาเลือดหัวมันออกคงไม่สบายใจ ซึ่งหมอก็บอกนะคะว่ามันเกินกว่าเหตุ ไม่สมเหตุสมผล เเต่ยังดีที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม หมอยังบอกว่าถ้าถูกคุกคามเราสามารถเเจ้งความได้เเละก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะการใช้กำลังไม่ได้เป็นผลดีจะมีเเต่ปัญหา ต่อนะคะหมอเรียก aspd ว่าพวกอันธพาล มันเป็นพฤติกรรมไม่ใช่โรคเเละไม่มียารักษา ซึ่งก็ตามนั้นค่ะ ถ้าเจ้าตัวไม่คิดจะเปลี่ยนก็ไม่หายมันเป็นนิสัยสันดาน เเละก็เราเคยอ่านผ่านๆคนที่เป็นไซโคพาธมักจะโหดร้าย อำมหิตเเละเย็นชาไร้ความรู้สึก ซึ่งมันไม่ตรงกับเรา เราเลยไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเเต่หมอก็บอกว่ามันไม่เสมอไป ไซโคพาธบางคนมีเสน่ห์พูดจาฉะฉานเหมือนเรา บางคนก็เก็บตัว บางคนก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ บางคนก่อความวุ่นวาย มันไม่เสมอไปว่าไซโคพาธต้องมีนิสัยเหมือนกันหรือเป็นฆาตกร เเต่ปัจจุบันนี้พอเข้าใจเเล้วค่ะ หมอเเกอธิบายดีค่ะว่า มันหายได้ไบโพล่าร์น่ะค่ะ ประมาณอีก1ปีครึ่งเราก็ไม่ต้องกินยาเเล้วเพราะเราเป็นเเบบอ่อน ไม่ได้ถึงขั้นเห็นภาพหลอนหรือหูเเว่ว เเต่มันจะอันตรายต่อคนรอบข้าง เพราะเราเป็นร่วมกับบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ก็เปรียบได้ว่า ไม่ใช่คนเป็นไบโพล่าร์ทั่วไปเเละก็ไม่ใช่ไซโคพาธทั่วไป เเต่เป็นไซโคพาธที่อ่อนไหวง่าย คือไม่ใช่เเบบร้องไห้ง่ายหรือซึมเศร้านะคะ เเต่หมายถึงเป็นคนที่ถูกยั่วยุได้ง่าย ซึ่งก็มีเเค่นี้เเหละค่ะที่เราอยากจะเเชร์ สำหรับคลินิคที่เราไปตรวจคือ อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา หมอดีกรีเกียรตินิยมจิตเวชจุฬาค่ะ ตอนนี้สบายใจเเล้วที่หมออธิบายตรงๆ สำหรับคนที่มาอ่านถ้าเกิดคุณหรือคนรอบข้างคุณที่มีพฤติกรรมเเบบเราคุณควรพาเขาไปจิตเเพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะก่อนที่เขาจะใช้ความรุนเเรงหรือพลั้งมือฆ่าคนจริงๆ คนเป็นเค้าไม่รู้ตัวหรอกค่ะว่าเป็น ขนาดเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นอย่างงั้นเถียงกับคนในชีวิตจริงเเละในเน็ตนับไม่ถ้วน เอาเป็นว่าเราไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นโรคจิตเวชในตอนเเรก เเต่ตอนนี้ทำใจได้เเล้วเเละพยายามบำบัด สำหรับเพื่อนคนไหนที่มีคำถามสามารถถามได้เต็มที่เลยค่ะเราจะตอบตามความเป็นจริงเราจะตอบเท่าที่ตอบได้ วิธีสังเกตคนเป็น มีพฤติกรรมยังไง ควรพูดยังไงกับหมอ เเต่โปรดถามด้วยความสุภาพ
คิดยังไงกับไซโคพาธ