👤ปฏิบัติการปั้นเงา: ปฏิบัติการลวงโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ปฏิบัติการปั้นเงา (Operation Fortitude) เป็นหนึ่งในปฏิบัติการลวงโลก (Deception) ที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การทหารของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือการทำให้กองทัพเยอรมัน เข้าใจผิด เกี่ยวกับสถานที่ลงจอดที่แท้จริงของการบุกยุโรป (D-Day)

.

1. เป้าหมายหลัก: ซ่อนการบุกนอร์มังดี

การยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี (Normandy) ในเดือนมิถุนายน 1944 ต้องเป็นความลับสุดยอด เพราะถ้าเยอรมนีรู้ล่วงหน้า พวกเขาจะสามารถระดมกองกำลังป้องกันชายฝั่งได้เต็มที่ ปฏิบัติการปั้นเงาถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ฮิตเลอร์เชื่อว่า การโจมตีครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง จะไม่เกิดขึ้นที่นอร์มังดี แต่จะเกิดขึ้นที่อื่น

.

2. แบ่งเป็นสองส่วน (เหนือและใต้)

ปฏิบัติการปั้นเงาแบ่งเป็นสองส่วนเพื่อสร้างความสับสนอย่างสมบูรณ์ ได้แก่

🧭Fortitude North (ทางเหนือ)
เป้าหมายคือการหลอกให้เยอรมนีเชื่อว่าการบุกครั้งต่อไปจะมาจากสก็อตแลนด์เพื่อโจมตี นอร์เวย์ (ซึ่งถูกยึดครองโดยเยอรมนี) ด้วยวิธีการสร้างวิทยุจราจรปลอมและให้ข้อมูลที่รั่วไหลไปถึงสายลับของเยอรมนี (ซึ่งจริง ๆ แล้วถูกควบคุมโดยฝ่ายสัมพันธมิตร) เพื่อยืนยันว่ากองทัพใหญ่กำลังรวมตัวกันในสก็อตแลนด์

🧭Fortitude South (ทางใต้) – ส่วนที่สำคัญที่สุด
เป้าหมายคือการหลอกให้เยอรมนีเชื่อว่าการยกพลขึ้นบกหลักจะเกิดขึ้นที่ ปาดัวลี (Pas de Calais) ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุดของช่องแคบอังกฤษ (อยู่ใกล้เบลเยียมในปัจจุบัน)

วิธีการลวงโลก ได้แก่

😈กองทัพปลอม: สร้าง กองทัพกลุ่มสหรัฐฯ (FUSAG) ซึ่งมี นายพลจอร์จ เอส. แพ็ตตัน (General George S. Patton) ผู้เป็นที่นับถือของเยอรมนีเป็นผู้บัญชาการ

😈รถถังเป่าลม: สร้าง รถถังเป่าลม (Inflatable Tanks), เครื่องบิน และรถบรรทุกปลอมหลายร้อยคัน นำไปตั้งไว้ในแคมป์และฐานทัพรอบปาดัวลี

😈วิทยุปริศนา: ออกอากาศวิทยุปลอมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจำลองการสื่อสารของกองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังเตรียมพร้อม

😈เรือปลอม: สร้าง เรือยกพลขึ้นบกปลอม (Dummy Landing Craft) ที่ทำจากไม้และผืนผ้าใบ เพื่อให้เครื่องบินสอดแนมของเยอรมนีเห็น

😈สายลับสองหน้า: ใช้สายลับชาวเยอรมันที่ถูกจับได้และเปลี่ยนใจให้เป็น สายลับสองหน้า (Double Agents) เพื่อส่งข้อมูลที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะนี้กลับไปยังหน่วยข่าวกรองของเยอรมนี

.

3. ผลลัพธ์: ความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อ

ปฏิบัติการ Fortitude ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ

แม้หลังจากการบุกนอร์มังดี (D-Day) ในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 แล้ว ฮิตเลอร์และผู้บัญชาการทหารเยอรมันก็ยังคงเชื่อว่าการยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดีเป็นเพียงการโจมตีเบี่ยงเบนความสนใจ (Diversionary Attack) เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ กองกำลังสำรองที่ดีที่สุดของเยอรมนีจึงถูกตรึงไว้ที่ปาดัวลี เป็นเวลาหลายสัปดาห์หลัง D-Day โดยรอการโจมตีครั้งใหญ่ที่ไม่มีวันมาถึง สิ่งนี้ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรมีเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแนวรบที่แข็งแกร่งในนอร์มังดีได้สำเร็จ

.

ปฏิบัติการ Fortitude เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของ "สงครามจิตวิทยา" ที่สามารถประหยัดชีวิตทหารได้นับพันคนเลยครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่