ฉันจะสู้กับการเรียนป.เอก?

สวัสดีค่ะทุกคน

เรามีเรื่องอยากจะระบายค่ะ อาจจะยาวนิดนึงนะคะ

ก่อนอื่นอาจจะต้องบอกว่าปัญหาที่เราจะเล่าต่อไปนี้มันเป็นคำถาม/ปัญหาที่มีคำตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้วค่ะ เรารู้ดีว่าควรจะทำยังไงแต่มันไม่รู้จะเปลี่ยนใจตัวเองยังไงค่ะ

ตอนนี้เราเริ่มเรียนป.เอกได้สักพักแล้วที่ต่างประเทศ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเรามีโอกาส แต่ปัญหาคือ...
1. เรามีปัญหาทางด้านการเงินมากๆ ค่าใช้จ่ายเดือนชนเดือนทุกเดือน หักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้วเหลือค่ากินไม่เท่าไหร่ ต้องอาศัยทำกับข้าวเอง พยายามไม่ซื้อข้าวนอกบ้าน งานที่เคยทำก็ไม่ได้ทำแล้วเนื่องจากต้องจากไทยมา ดังนั้นเลยไม่มีซัพพอร์ทอื่น งานพาร์ทไทม์ที่นี่หายาก แถมเราแทบไม่มีเวลาเลย
ก่อนหน้าที่เราจะตัดสินใจมาเรียน เราเคยทำงานในที่ที่สามารถใช้จ่ายได้แบบไม่ลำบาก (ปกติเป็นคนฟุ่มเฟือยมากโดยเฉพาะของกิน)

และนี่คือจุดนึงในหลายๆจุดที่เราคิดแล้วคิดอีกว่าเรามาเรียนเพิ่มทำไม ทำไม่ต้องทำให้ตัวเองลำบาก

2. เราไม่รู้ว่าถ้าจบไปแล้วที่ไหนเค้าจะรับเราทำงาน ตอนนี้เราอายุเข้าเลขสามแล้วค่ะ แล้วยิ่งเสพข่าวเรื่องคนตกงานช่วงวัยนี้ยิ่งทำให้เราเครียดว่าเราจะหางานหลังจากที่เรียนจบได้ง่ายมากน้อยขนาดไหน แล้วถ้าได้งาน ค่าตอบแทนจะเพียงพอที่จะทำให้เราไม่ลำบากรึป่าว ถ้าจะหางานที่นี่ภาษาบ้านเค้าเราก็ต้องปังซึ่งเราพูดได้แค่เบสิกค่ะตอนนี้และเป็นภาษาที่ยากมาสำหรับเรา ส่วนตัวเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

เราเลยคิดมากกลัวว่าถ้าไม่ตัดสินใจทำอะไรตอนนี้ เราจะว่างงานยาวเลยหรือเปล่า ปากท้องก็ต้องกินทุกวัน หนี้สินก็ต้องจ่าย แล้วจะเอายังไงกับชีวิต

"ฉันมาที่นี่ทำไม" เป็นคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยมากจนเราไม่อยากทำอะไร
มองเห็นเป้าหมายอีก2-3ปีข้างหน้าแล้วยังถามตัวเองซ้ำๆว่า "เธอเอาจริงหรอ ป.เอกนะ หางานไม่ใช่ง่ายๆนะ"
หัวข้อที่ทำก็ไม่แน่ชัด อาจารย์ปล่อยชิว นางนี่ก๋ปล่อยจอยสุดชีวิต จนตอนนี้กำลังจะสอบและมีmeeting แต่งานยังไม่เดินเลย

3. เรามีปัญหาการจัดการเวลามากๆค่ะ เราทราบค่ะเราโตพอที่จะจัดการทุกอย่างได้แล้ว และก่อนหน้านี้เราก็เรียกตัวเองว่าเป็นนักบริหารเวลาที่ดีในระดับหนึ่งคนนีงเลยนะ แต่ตอนนี้ระบบพังไปหมด เราติดโทรศัพท์มากๆ เล่นเกม ดูการ์ตูน นอน จะทำงานของแต่ละวิชาก็ต่อเมื่อเรามี Deadline และส่วนใหญ่จะทำ2วันสุดท้ายก่อนส่ง ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ดีมากๆ หนังสือก็ไม่อ่าน ยิ่งอาจารย์ปล่อย เราก็ชิลไปเลย ไม่สนใจหัวข้อของตัวเอง (ตอนนี้ก็มีแอบเสียวบ้างว่าอาจารย์จะเรียกคุยแล้วเราไม่มีงานส่ง เราเลยจะเริ่มทำแล้วค่ะ)

ปํญหาพวกนี้มันมาจากที่เราติดเล่นค่ะ จนกลายเป็นคนที่ชอบ procrastinate อีกอย่างคือเป็น perfectionist ในระดับนึงค่ะแต่จะหมดแรงกระตุ้นเร็วมากถ้าเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่มีเป้าหมายหรือมีคุณค่า หรือถ้าตัดสินว่ามันไม่น่าเวิร์คก็ไม่อยากทำต่อละ กลัวเฟล กลัวเสียหน้า..ใช่ค่ะ มันคือความกลัวอะไรก็ไม่รู้ที่เราสร้างมาและสุดท้ายมันทำให้เรากลายเป็นคนไม่เอาไหนแบบนี้

มีคนรู้จักหลายคนแนะนำและเพจต่างๆที่โพสต์เรื่องการจัดเวลา คือให้ทำเช็คลิสต์ เขียนไดอารี่ ...เราก็รับฟังนะคะ เราทำตามได้วันเดียวเพราะมันไม่ใช่นิสัย

เราเกลียดตัวเองมากเวลาที่เห็นโทรศัพท์แล้วห้ามตัวเองไม่ให้หยิบมาเช็กได้ พอเปิดคอมก็อยากดูหนังอยากดูการ์ตูน พอไม่เปิดอะไรสักอัน ไฟล์เรียนต่างๆดันอยู่ในคอม แต่พอเปิดคอมก็เข้าลูปเดิม นั่งดูการ์ตูนเป็นวันๆยังทำได้ ทั้งๆที่ใจบอกว่า "เลิกดูการ์ตูนแล้วไปทำงานให้เสร็จก่อน" แต่เราก็ได้แค่คิด แต่ตาก็ยังการ์ตูน มือก็ไถโทรศัพท์ไปพลางอยู่ดี

และพอหมดวัน เราก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง แล้วก็จะรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่....ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า พรุ่งนี้เดี๋ยวทำๆ ........สรุป...พอแหกตาตื่นขึ้นมาเราก็เข้าลูปเดิม

เราชอบหาเหตุผลมาหักล้างให้ตัวเองเสมอว่าเรา deserve เวลาว่าง ทั้งๆที่จริงเราว่าง และว่างพอที่เอาเวลาไปอ่านหนังสือ ....แต่เราไม่ทำ!!! ไม่ได้ว่ามันง่าย ทำแป้บเดียวนะคะ ...แต่เราไม่คิดอะไรเลยต่างหาก...แค่ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ---ได้หรอ?

เราตามใจตัวเองมากค่ะ ทราบดี แต่ถ้ากดดันตัวเองจนเกินไปก็กลัวจะเครียด กลัวไปหมดทุกอย่าง กลายเป็นว่างั้นไม่ทำ จะได้ไม่ต้องคาดหวัง

สุดท้ายเราเลยมาถามตัวเองว่า เธอจะเรียนไปทำไม ถ้ายังทำตัวแบบนี้ คนอื่นนเค้าพยายามกว่านี้เยอะ เราไม่คู่ควรที่จะมายืนอยู่ตรงนี้เลย เราควรกลับบ้าน ไปทำงาน หาเงินได้แล้ว .....หรือเราจะพูดแรงไปกับตัวเองคะ...เราควรให้อภัยตัวเองแล้วกลับตัวกลับใจมั้ย  

4. เรามีปัญหาสุขภาพเยอะมาก ไปหาหมอทีไรจะโดนแนะนำเรื่องการกินและการออกกำลังกายเสมอ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมากค่ะ แต่ตั้งแต่มาอยู่ตปท. และต้องประหยัด อาหารอะไรที่ถูกๆแต่แคลเป็นล้านต่อมื้อก็ต้องกิน แล้วมันดันอร่อยเลยกินไม่หยุด 555

เราอยากจะออกจากวงจรนี้ค่ะ เราเลยสร้างความคิดที่ว่า ถ้า....เราไม่ไปต่อ...แล้วกลับไทย + ทำงาน + มีเงิน เราคงได้กลับไปดูแลตัวเองได้เหมือนเดิม (แต่พูดก็พูดเถอะอยู่ที่ไหนมันก็ดูแลตัวเองได้) เราก็รักตัวเองมากๆๆๆนะคะ แต่เราลดนน.ไม่ได้สักทีด้วยปัจจัยและข้ออ้างหลายอย่าง ใครจะไม่อยากสวยจริงมั้ย แต่เรากลัวการกลับไปออกกำลังกาย ขี้เกียจที่ต้องทำทุกวัน กลัวว่าจะไม่ได้กินของอร่อยๆในปริมาณที่เรากินเท่าไหร่ก็ได้อีก ...เราเลยผลัดวันไม่ยอมออกกำลังกายจริงจังสักที ในขณะที่นน.ก็เพิ่ม สุขภาพจิตก็แย่ลงเรื่อยๆ

กะทู้นี้เราคิดนานมากๆว่าจะโพสต์ดีมั้ย ถ้าโพสต์แล้วจะดีกับตัวเราเองมั้ย แต่ก็นั่นแหละค่ะ อย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้ระบาย และ take some time off the phone

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คืออยากระบายกึ่งขอความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ยอมอ่านจนจบนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่