JJNY : ปชน.เปิดตัว ธีระ กลุ่มนิติราษฎร์│พริษฐ์ชี้ถ้ายุบสภาหนีซักฟอก│Con for All ยื่นหนังสือ│ชี้ฝนหนักลากยาวถึงต้นหนาว

พรรคประชาชน เปิดตัว ธีระ สุธีวรางกูร กลุ่มนิติราษฎร์ นั่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ช่วยขับเคลื่อนรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5467395
.

.
พรรคประชาชน เปิดตัว อ.ธีระ กลุ่มนิติราษฎร์ นั่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ขับเคลื่อนรธน.
.
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
.
ขอต้อนรับ อาจารย์ธีระ สุธีวรางกูร อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน สู่บทบาทใหม่ในการร่วมกับพวกเราพรรคประชาชน เป็น “ที่ปรึกษาพรรคประชาชนด้านกฎหมาย” โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเกี่ยวกับกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง และที่สำคัญคือ การขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ครับ
.
โดยก่อนหน้านี้ พรรคประชาชน ได้เปิดเผยตารางกิจกรรมงาน รีชาร์จ ประชาชน วันที่ 22-23 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นที่จับตาว่ารายชื่อแขกพิเศษในงาน จะมาร่วมงานกับพรรคประชาชนในด้านต่างๆ หรือไม่
.
https://www.facebook.com/natthaphong.ruengpanyawut/posts/pfbid0377Q6LeJmwpVrkhFxYcB3c1nqgWcZDaVQ7i2g3aVVzmtVJ2GaV8fxvsuz1VLHfvZnl
.

.
พริษฐ์ ชี้ถ้า ‘อนุทิน’ ยุบสภาหนีซักฟอก ไม่ส่งผลดีเลือกตั้ง เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5467456
.
พริษฐ์ ชี้หาก ‘อนุทิน’ ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแน่นอน เหตุประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯไปแล้ว ซัด เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน-ปิดกิจการหนีการตรวจสอบ เชื่อเจตนารมณ์ รธน.ระบุชัด ไม่อยากให้ยุบสภาหนีซักฟอก ปัดตอบผิด MOA หรือไม่
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่ายุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้รับผลกระทบไปด้วย ว่า ท่าทีของนายกรัฐมนตรีในการยุบสภา ซึ่งตนเคยพูดไว้ว่าหากนายกฯ จะยุบสภาเพื่อหลีกหนีการตรวจสอบหรือปัดความรับผิดชอบเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้รับเหมาที่ทิ้งงานหรือปิดกิจการเพื่อหนีการตรวจสอบ แม้เวลานี้ยังมีการถกเถียงในเชิงข้อกฎหมายอยู่ว่าเมื่อยื่นอภิปรายแล้วจะยุบสภาได้หรือไม่
.
ตนคิดว่าเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ชัดว่า “ไม่ต้องการให้นายกฯใช้อำนาจในการยุบสภาหนีการตรวจสอบ” แม้ว่าจะถกกันว่ากฎหมายตีความอย่างไร ตนคิดว่าในเชิงความรับผิดรับชอบทางการเมือง หากนายกฯ ตัดสินใจยุบสภา ก็ย่อมไม่ส่งผลดีต่อมุมมองของประชาชนที่มีต่อนายกฯ โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึง
.
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเงื่อนไขของพรรคประชาชน เรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราประกาศชัดเจนใน 3 เงื่อนไข ได้แก่ 1.หากนายกฯ ไม่ยุบสภาภายในวันที่ 31 ม.ค. 2569 ก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถือว่าขัดเงื่อนไข MOA 2.หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เสร็จสิ้นในวาระ 3 ภายในสิ้นปีนี้ เราจะยื่นอภิปราย 3.นอกเหนือจาก 2 เงื่อนไขข้างต้น หากมีการดำเนินนโยบายอะไรที่เราเห็นว่าสร้างความเสียหายให้ประชาชน เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่แน่นอนว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว ซึ่งเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของพรรคอื่นที่จะพิจารณายื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ด้วยเงื่อนไขของตัวเอง แต่หากเป็นเช่นนั้น เราก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ของเราในสภา
.
เมื่อถามว่าหากยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค.โดยที่รัฐธรรมนูญยังแก้ไขไม่เสร็จ จะถือว่าพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลงกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าชัดเจน ว่า MOA ที่ลงนามกันไว้ มี 2 ประเด็นหลักคือต้องมีการยุบสภาภายใน 31 ม.ค. 2569 และการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และหากไม่มี 2 คำถามในการทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งก็ถือว่าผิดเงื่อนไข MOA
.
ต่อข้อถามว่าสิ่งที่นายกฯพูด พยามยามส่งสัญญาณทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเบื้องหลังเป็นอย่างไร แต่ตนขอย้ำจุดยืนเดิมว่าถ้ายุบสภา ก็เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงานหรือปิดกิจการเพื่อหนีการตรวจสอบ แต่ช่วงใกล้เลือกตั้งแบบนี้ก็คงไม่ส่งผลดีแน่นอนต่อตัวนายกฯ เพราะนายอนุทินได้ประกาศไปแล้วว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว
.
เมื่อถามย้ำว่าเสียงโหวตในสภา พรรคประชาชนอาจต้องเลือกว่าจะเป็นฝ่ายค้ำรัฐธรรมนูญและฝ่ายค้ำรัฐบาลหรือไม่ เพราะนายกฯ ระบุว่า ไม่ได้กลัวการซักฟอก แต่กลัวเสียงโหวตในสภา นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขและท่าทีของเราชัดเจนว่าการยื่นอภิปรายเป็นอย่างไร และเราชัดเจนมาตลอดว่าในการเซ็น MOA ตอนนั้น เราตั้งใจให้คนที่เป็นคู่สัญญาของเรา ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นใครก็ตามมาดำรงสถานะในรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เราสามารถใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจควบคุมให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญาตามเงื่อนไข MOA การที่เราคงสถานะเป็นฝ่ายค้าน นอกจากจะสอดคล้องกับสิ่งที่เราประกาศมาโดยตลอดว่าเราจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดสภาชุดนี้ อีกส่วนก็เพื่อให้เราคงสถานะอิสระในการตรวจสอบรัฐบาล โดยใช้กลไกรัฐสภาในการตรวจสอบ
.
เมื่อถามว่าหากยุบสภาก่อนจนทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไปไม่ถึงปลายทาง พรรคประชาชนจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ภารกิจของทุกพรรคการเมืองตอนนี้ คงไม่ใช่แค่พรรคประชาชนอยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เราพยายามทำคือการจูงมือทุกฝ่าย เพื่อทำให้การผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเร็วที่สุด และเราเข้าใจดีว่าเรื่องนี้จะสำเร็จต้องอาศัยทุกฝ่าย
.
เมื่อถามว่าหากชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยว่าจะอภิปรายหรือไม่ ยื่นใคร ไม่ยื่นใคร ยื่นเมื่อไหร่ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย เราก็เคารพสิทธิ์
.

.
Con for All ยื่นหนังสือ กมธ.แก้รธน. ให้ยึดมั่น ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมาจากการเลือกตั้งของปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5467539
.
Con for All ยื่นหนังสือ ‘กมธ.แก้ รธน.’ ยึดมั่นให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ใช่เก็บอำนาจไว้ในมือ -ให้อำนาจแก่สมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ด้าน ‘ณัฐวุฒิ’ ย้ำแม้มีข้อจำกัดคำวินิจฉัยศาลฯ แต่กมธ.ยกร่าง ก็มาจากตัวแทนปชช.
.
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Con for All) เข้ายื่นหนังสือถึง นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา เพื่อขอให้รัฐสภายึดมั่นว่า ผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้จะมีการถกเถียงกันเรื่องวิธีการได้มาซึ่งผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายใต้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 18/2568 แต่เห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น เป็นอำนาจของประชาชนโดยแท้จริง และประชาชนได้มอบอำนาจนั้นผ่านการเลือกตั้งสส.
.
ดังนั้นในการพิจารณาเรื่องวิธีการได้มาซึ่งผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐสภาจึงมีอำนาจและหน้าที่ออกแบบกระบวนการให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง ไม่ใช่เก็บอำนาจไว้ในมือ และให้อำนาจแก่สมาชิกรัฐสภาเท่านั้นที่เป็นผู้คัดเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญเอง และเชื่อว่า กระบวนการที่ให้ประชาชนออกเสียงเลือกตั้งผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรงเท่านั้น จะนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมที่แท้จริงและทำให้ประชาชนทั่วประเทศรู้สึกว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นของประชาชน
.
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จุดยืนของกมธ.ฯ ไม่แตกต่าง กับประชาชน คือต้องการเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีที่มาชอบธรรม และประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจน กรณีการเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าอำนาจการสถาปนารัฐธรรมนูญไม่ได้มาจากประชาชน ซึ่งในการพิจารณาของกมธ.ฯได้เน้นย้ำถ้อยคำยืนยันอำนาจดังกล่าว และแม้จะมีข้อจำกัด แต่ก็ขอรับจุดยืนและความต้องของCon for All บันทึกไว้ในการประชุมกมธ.ฯ
.
ซึ่งขณะนี้ กมธ.ฯลงมติให้การยกร่างที่เกิดจากการลงสมัครของผู้คุณวุฒิ และตัวแทนต่างๆ ของภาคประชาชน แต่ส.สและสว.ต้องเป็นผู้มีสิทธิ์เลือก เราปฏิเสธสิ่งนี้ไม่ได้ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว แต่เราได้เพิ่มกมธ.ฯรับฟังความเห็นและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน มาจากผู้รับสมัครและให้ตัวแทนประชาชนเป็นผู้เลือกอยู่ดี แต่ผู้เลือกทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นในสภาฯ ชุดนี้ และเราก็ยังไม่รู้ว่าในสภาฯ ชุดถัดไปแต่ละพรรคการเมืองจะได้ตัวแทนมามากน้อยแค่ไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่