🪪 "ชินซอนจอง" บอสค่ายของ BTS – ผู้บริหารที่คอยดูแลและนำทีมในการเตรียมการคัมแบคครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของ BTS



World Leaders ของ MBW เป็นคอลัมน์ประจำที่จะพาไปโฟกัสบุคคลสำคัญในวงการเพลงที่มีอิทธิพลสูงและดูแลตลาดระดับนานาชาติ ในบทความนี้ เราได้พูดคุยกับ ชินซองจอน ซีอีโอของ BIGHIT MUSIC ค่ายหลักของ HYBE ซึ่งเป็นค่ายของศิลปิน K-Pop ระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง BTS, TOMORROW X TOGETHER และศิลปินอื่น ๆ อีกมากมาย

อะไรที่ BTS, TOMORROW X TOGETHER, ILLIT และ TWS มีเหมือนกัน ?

พวกเขาล้วนเป็นศิลปิน K-pop ที่ช่วงเริ่มต้นอาชีพได้รับการปลุกปั้นโดย ชินซอนจอง

ก่อนจะได้รับตำแหน่งสำคัญในปี 2024 ชินซอนจองเคยเป็นหัวหน้าฝ่าย Training & Development ของ HYBE ดูแลเด็กฝึกเกือบ 200 คน และในปีนั้นเอง เธอก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการขึ้นเป็น ซีอีโอหญิงคนแรกของ BIGHIT MUSIC ค่ายหลักของ HYBE และเป็นค่ายเพลงของ BTS

การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งซีอีโอของเธอ เกิดจากประสบการณ์หลายปีที่ทำงานใกล้ชิดด้านการพัฒนาศิลปินในเกาหลีใต้ รวมถึงการนำโมเดลการเทรนของ HYBE ไปสู่ระดับโลก.ผ่านโปรเจกต์ ‘The Debut: Dream Academy’ ร่วมกับ Geffen Records เธอมีส่วนสำคัญในการสร้างวง KATSEYE ซึ่งเป็นวงที่เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Best New Artist ในงาน Grammys 2026

ตอนนี้ ในฐานะบอสใหญ่ของ BIGHIT MUSIC ชินซอนจอง กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ถูกคาดหวังมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ K-pop กับการนำ BTS คัมแบคเต็มวงในปี 2026

สมาชิกทั้ง 7 คนของ BTS ได้เสร็จสิ้นการรับใช้ชาติครบแล้ว โดย SUGA เป็นคนสุดท้ายที่ปลดประจำการในเดือนมิถุนายน 2025

ตัววงได้ทำเพลงใหม่อยู่ที่สหรัฐฯ และมีเป้าหมายจะปล่อยผลงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 ซึ่งจะตรงกับการเปิดเวิลด์ทัวร์ด้วย

ความคาดหวังสูงมาก เพราะ BTS ยังคงเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ HYBE และการกลับมาครั้งนี้คาดว่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ทั้งในวงการคอนเสิร์ตและวงการเพลงที่ออกวางจำหน่าย (สตรีมมิ่ง, อัลบั้มดิจิทัล, ซีดี)

ผู้บริหาร HYBE บอกกับนักวิเคราะห์ในสายประชุมผลประกอบการไตรมาส 3 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า พวกเขาคาดการณ์ว่ารายได้จะดีขึ้นอย่างมากหลังจากกิจกรรมของวงกลับมาในปีหน้า



“เราตระหนักดีถึงความคาดหวังที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับการคัมแบคของ BTS แบบเต็มวง”

“เรามองสิ่งนี้เป็นสัญญาณเชิงบวก ที่พิสูจน์ว่าเพลงและเรื่องราวของพวกเขา (BTS) ยังคงส่งพลังและเชื่อมต่อกับแฟน ๆ ทั่วโลกได้อย่างแข็งแกร่ง” — ชินซอนจองกล่าว

แต่ความรับผิดชอบของเธอไม่ได้มีแค่ BTS เท่านั้น เธอยังเป็นผู้นำดูแล TOMORROW X TOGETHER ศิลปิน K-pop ที่มีผลงานติดชาร์ต Billboard 200 ถึง 12 ครั้ง และกำลังดูแลการเดบิวต์ของ CORTIS บอยกรุ๊ปวงใหม่วงแรกของ BIGHIT MUSIC ในรอบ 6 ปี

CORTIS เปิดตัวอย่างร้อนแรงในปี 2025 โดย EP เดบิวต์ COLOR OUTSIDE THE LINES ทำยอดขายมากกว่า 430,000 copiesnในสัปดาห์แรก ซึ่งถือเป็น ยอดขายเปิดตัวสัปดาห์แรกสูงสุดอันดับ 4 ของวง K-pop หน้าใหม่ตลอดกาล และยังเป็นวงน้องใหม่วงเดียวในปีนี้ ที่สามารถเข้าชาร์ต Billboard 200 โดยเดบิวต์ที่อันดับ #15

ชินซอนจอง บอกกับ MBW ในบทสัมภาษณ์พิเศษด้านล่างว่า หลักคิดในการเป็นผู้นำของเธอมีศูนย์กลางอยู่ที่คำเพียงคำเดียวคือ  สมดุล

“ตอนที่ฉันได้รับแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของ BIGHIT MUSIC คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือ ‘สมดุล’”

“ฉันรู้สึกถึงความรับผิดชอบอย่างลึกซึ้งที่จะต้องให้เกียรติมรดกที่ BTS ได้สร้างไว้ และในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นต่อไปของเราสามารถแสดงตัวตนของพวกเขาได้อย่างเต็มที่” — ชินซอนจองกล่าว

ในบทสัมภาษณ์นี้ ชินซอนจอง ได้พูดถึงความท้าทายในการรับมือกับความคาดหวังระดับสูงต่อการคัมแบคของ BTS และสิ่งที่จำเป็นในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่แรงกดดันในการสร้างซูเปอร์สตาร์ระดับโลกสูงกว่าเดิมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน…

🗣 คุณเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของ BIGHIT MUSIC ในปี 2024 ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่คุณต้องเจอคืออะไร และคุณมีสิ่งใดในลิสต์ที่ต้องทำเป็นอันดับแรกบ้าง ?

ชินซองจอน : ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของฉันคือ การทำให้เอกลักษณ์หลักของ BIGHIT MUSIC ยังคงแข็งแกร่งอยู่ ท่ามกลางภูมิทัศน์วงการเพลงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ตั้งแต่วันแรก ฉันให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการสื่อสารภายในและวัฒนธรรมองค์กร พร้อมกับวางระบบที่ศิลปินได้รับความเคารพอย่างไม่ต้องสงสัยในฐานะแกนกลางของการสร้างสรรค์งาน

BIGHIT MUSIC ให้คุณค่ากับความจริงใจต่อดนตรีและศิลปินมาโดยตลอด เป้าหมายของฉันตอนนี้คือการต่อยอดพื้นฐานนั้น และสร้างโครงสร้างที่ยั่งยืนเพื่อให้ค่ายเติบโตต่อไปได้ในฐานะผู้เล่นระดับโลก

🗣 แล้ว BIGHIT MUSIC ถูกวางบทบาทไว้อย่างไรภายใน HYBE และในธุรกิจ K-pop ที่กว้างขึ้น ?

ชินซองจอน : ในฐานะค่ายที่เป็นจุดเริ่มต้นของ HYBE — BIGHIT MUSIC ยืนหยัดตามพันธกิจของบริษัทเสมอ คือเชื่อในพลังของดนตรี เราขับเคลื่อนด้วยปรัชญาที่ว่าดนตรีต้องเป็นศูนย์กลางเสมอ เพื่อให้ทุกศิลปินสามารถถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์และข้อความของพวกเขาได้อย่างจริงใจในแบบของตัวเอง

BIGHIT MUSIC ยังเป็นค่ายที่มุ่งค้นหาแนวดนตรีใหม่ๆ เพื่อกำหนดบทต่อไปของวงการ K-pop

“โดยต่อยอดจากมาตรฐานระดับโลกที่ BTS สร้างไว้ เรากำลังสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ของเราอย่างเต็มที่”

ต่อยอดจากมาตรฐานระดับโลกที่ BTS ได้สร้างไว้ เรากำลังสนับสนุนศิลปินรุ่นต่อไปของเรา อย่าง TOMORROW X TOGETHER และ CORTIS ในการสร้างเรื่องราวและเอกลักษณ์ทางความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเอง

เราตั้งเป้าที่จะพัฒนาเป็นค่ายที่สร้างวงจรที่ดี ที่ดนตรี ศิลปิน และแฟนๆเติบโตไปด้วยกัน

🗣 ก่อนจะเป็นซีอีโอ คุณเคยนำทีมฝ่าย Training & Development ของ HYBE ดูแลเด็กฝึกเกือบ 200 คน ประสบการณ์นั้นช่วยเตรียมคุณสำหรับการเป็นผู้นำ BIGHIT MUSIC อย่างไรบ้าง?

ชินซองจอน : สี่ปีที่ฉันทำงานในฐานะหัวหน้าฝ่าย Training & Development ของ HYBE เป็นช่วงเวลาที่วางพื้นฐานสำคัญให้กับการเป็นผู้นำของฉันในวันนี้ การได้สังเกตพัฒนาการของเด็กฝึกเกือบ 200 คนอย่างใกล้ชิดทำให้ฉันเรียนรู้ว่า แต่ละคนเติบโตในจังหวะของตัวเอง และต่างมีศักยภาพเฉพาะตัว ฉันได้เรียนรู้ว่าการเติบโตที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อศิลปินค้นพบตัวตนของตัวเอง และมีคนที่เห็นคุณค่านั้นและช่วยผลักดันให้เติบโต

“สี่ปีที่ฉันทำงานในฝ่าย Training & Development เป็นพื้นฐานสำคัญที่หล่อหลอมการเป็นผู้นำของฉันในวันนี้”

ความเชื่อนั้นยังเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำของฉันที่ BIGHIT MUSIC ฉันมองว่าหน้าที่สำคัญที่สุดของฉันคือการช่วยให้ศิลปินได้สำรวจตัวตนทางความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ทางดนตรีของพวกเขาอย่างอิสระ พร้อมกับการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ๆร่วมกัน

แม้ว่าข้อมูลและโครงสร้างจะเป็นกรอบที่ช่วยกำหนดทิศทาง แต่สิ่งที่ฉันให้ความสำคัญที่สุดคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินสามารถเบ่งบานได้จริง

🗣 สมาชิก BTS อยู่ในช่วงต่างๆของการทำงานเดี่ยว คุณสร้างความสมดุลระหว่างการสนับสนุนเส้นทางเดี่ยวของแต่ละคน กับการรักษาตัวตนของวงและเตรียมการคัมแบคอย่างไร ?

ชินซองจอน : ฉันมองว่าผลงานเดี่ยวของ BTS เป็นส่วนสำคัญของการเดินทางทางศิลปะของพวกเขา เป็นกระบวนการที่แต่ละคนได้สำรวจ “สี” และข้อความของตัวเอง สำหรับฉัน เส้นทางเดี่ยวของพวกเขาไม่ได้แยกออกจากกัน แต่เป็นส่วนขยายที่เป็นธรรมชาติของเรื่องราวของวงในภาพรวม

🗣 ความคาดหวังต่อการคัมแบคแบบครบทั้ง 7 คนของ BTS ในปี 2026 ถือว่าไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ K-pop ความท้าทายและโอกาสที่มาพร้อมความคาดหวังระดับนี้ ทั้งจากภายในองค์กรและจากแฟนทั่วโลกคืออะไร ?

ชินซองจอน : ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือ การทำให้ดนตรีของ BTS ยังคงคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์และความหมายที่เหนือกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยไว้ให้ได้เช่นเคย

BTS ไม่ได้เป็นเพียงศิลปินระดับโลก แต่เป็น "ไอคอนป๊อปแห่งศตวรรษที่ 21" ที่แบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกของพวกเขาผ่านดนตรี สร้างความรู้สึกร่วมที่เชื่อมโยงผู้คนต่างวัฒนธรรมและต่างยุคสมัยเข้าด้วยกัน

กุญแจสำคัญอยู่ที่การถ่ายทอดบทต่อไปของพวกเขาอย่างจริงใจ ในขณะที่ทั้ง 7 กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเติมเต็มเรื่องราวที่พวกเขามีร่วมกัน ช่วงเวลานี้ยังเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ โอกาสที่ BTS จะได้เชื่อมต่อกับแฟนๆผ่านดนตรีอีกครั้ง พร้อมกับต่อยอดมรดกทางดนตรีที่พวกเขาสร้างไว้

ที่ BIGHIT MUSIC เราทุ่มเทสนับสนุนกระบวนการนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนที่ก้าวไปข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และจริงใจสำหรับศิลปิน

🗣 ความสำเร็จในยุคคัมแบคของ BTS สำหรับ BIGHIT MUSIC มีหน้าตาแบบไหน และมรดกที่คุณอยากทิ้งไว้คืออะไร ?

ชินซองจอน : การคัมแบคของ BTS ที่กำลังมาถึงนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเริ่มต้นบทใหม่ของวงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของ BIGHIT MUSIC ในฐานะค่ายเพลงอีกด้วย เพราะศิลปินอย่าง TOMORROW X TOGETHER และ CORTIS ก็จะยังเติบโตและแสดงตัวตนของพวกเขาในแบบเฉพาะตัวต่อไปเช่นกัน

วิสัยทัศน์ของฉันคือ การทำให้ BIGHIT MUSIC ยังคงเป็นค่ายที่ดึงดูดศิลปินที่มีความหลากหลายและมีความสามารถ ศิลปินที่อยากมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของเรา ที่ซึ่ง “ความเป็นตัวเอง” และการเติบโตของแต่ละคนได้รับคุณค่าอย่างแท้จริง และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือสภาพแวดล้อมที่เราสร้างให้กับคนทำงานในค่าย ฉันอยากให้ทีมงานทุกคนได้ค้นพบและไม่หลงลืมจุดแข็งของตัวเอง




Source : MBW
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่