ประกาศขาย 55 ล้าน อ้วกวาฬทะเลนราธิวาส นายทหารเรือโชว์ใบเซอร์ เก็บรักษาอย่างดีตลอด 9 ปี

ชลบุรี เรือโท สังกัด ศฝ.สอ.รฝ. กองทัพเรือ ออกเรือประมงหาปลา ในทะเลอ่าวไทย พื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อ 9 ปีก่อน เจออำพันทะเล หรือที่เรียกว่า “อ้วกวาฬ” ประกาศขาย 55 ล้านบาท มี 55 กิโลกรัม พร้อมใบเซอร์ จากสำนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์และการทดสอบ ม.อ.

https://www.thairath.co.th/news/local/2896607?fbclid=IwdGRjcAOLncFleHRuA2FlbQIxMQBzcnRjBmFwcF9pZAo2NjI4NTY4Mzc5AAEel6q-B9yv4x9Yxo0JCXwnZ8H9B6eFINQcigFn15-XhiIy7bttByF1Ms4tVyI_aem_449WI-7WLxQntQgA6qtRkg



เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก เรือโท ไกรสร นุ่นประดิษฐ์ อายุ 56 ปี สังกัด ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ศฝ.สอ.รฝ.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าได้มีการพบอำพันทะเล หรือที่เรียกว่า “อ้วกวาฬ” ที่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งท้องทะเล จำนวนราว 55 กิโลกรัม นับเป็นมูลค่ามหาศาล

เรือโท ไกรสร เผยว่า เมื่อ 9 ปีก่อน ได้ออกเรือประมงหาปลา ในทะเลอ่าวไทย พื้นที่ จ.นราธิวาส ขณะกำลังลากอวนได้ไปติดกับวัตถุก้อนขนาดใหญ่ลอยน้ำ เมื่อนำขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง ได้นำไปตรวจสอบยังสถาบัน สำนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์และการทดสอบ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565 จึงทราบว่า เป็นอ้วกวาฬ (ไม่ทราบระดับเกรด) ซึ่งทราบว่า มีมูลค่ามาก แต่ขณะนั้นเกรงอาจไม่ปลอดภัย หากมีคนรับรู้เป็นวงกว้าง จึงได้เก็บรักษาไว้อย่างดีมาตลอด 9 ปี ไม่ได้ออกมาเผยแพร่ให้เป็นข่าว

และกล่าวว่า ด้วยขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี จึงตัดสินใจที่จะนำออกมาขาย เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ หรือส่งมอบต่อให้กับผู้ชื่นชอบ ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ โดยเสนอขายที่ราคากิโลกรัมละ 1,000,000 บาท สำหรับก้อนใหญ่สุดมีน้ำหนัก 9.5 กิโลกรัม ไล่ระดับขนาดลงมาจนถึงก้อนเล็ก เนื่องจากตอนที่พบมีขนาดใหญ่มาก ยากต่อการเก็บรักษา จึงได้มาแบ่งเป็นส่วน ๆ ให้ง่ายต่อการจัดเก็บ ซึ่งผู้ใดสนใจ สามารถโทรติดต่อเจ้าของโดยตรงไม่ผ่านนายหน้า ที่หมายเลข 092 2526160 เรือโท ไกรสร นุ่นประดิษฐ์

สำหรับ อำพันทะเล หรือ“อ้วกวาฬ/ขี้วาฬ” ข้อมูลใน วิกิพีเดีย ระบุไว้ว่า เป็นผลิตผลที่มาจากการสำรอก หรือการขับถ่ายของวาฬหัวทุย มีลักษณะเป็นของแข็งซึ่งเป็นก้อนไขมันมีหลายเฉดสีตั้งแต่สีเทาหรือสีดำ ไปจนถึงสีโทนอ่อนอย่างสีส้มหรือสีขาวคล้ายหินอ่อน ที่พบเฉพาะในลำไส้ของวาฬหัวทุย มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอล และไขมันร้อยละ 80, สารเบนโซอิก และแอลกอฮอล์ เชิงซ้อนทำให้มีกลิ่นหอม

โดยวาฬหัวทุยจะกินสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกหมึกเป็นอาหารหลัก แต่จะกินเข้าไปโดยไม่มีการเคี้ยวอย่างละเอียดอย่างสัตว์บก แต่จะใช้วิธีการกลืนเข้าไปทั้งตัวแล้วไปย่อยสลายในกระเพาะ แต่คอเลสเตอรอลของหมึกไม่อาจจะย่อยได้ง่าย

ประกอบกับหมึกมีปากที่แข็งระคายเนื้อเยื่อของวาฬ คอเลสเตอรอลดังกล่าว จึงไปสะสมเป็นก้อนอยู่ในลำไส้ของวาฬ ซึ่งขณะอยู่ในลำไส้ของวาฬ จะไม่มีกลิ่นหอม แต่จะมีกลิ่นเหม็นเหมือนสิ่งขับถ่ายทั่วไป และมีลักษณะเป็นก้อนสีดำมีความนิ่ม แต่เมื่อวาฬได้ขับถ่ายออกมาแล้ว ได้เกิดปฏิกิริยากับสายลม และแสงแดดนานนับปี โดยล่องลอยอยู่ในทะเลด้วยค่าความถ่วงจำเพาะที่มีน้อยกว่าน้ำทะเล จึงมีคุณสมบัติทางเคมีเปลี่ยนไป ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว น้ำตาล เทา หรือดำ ตามระยะเวลาในการทำปฏิกิริยา ละลายที่อุณหภูมิมากกว่า 62 องศาเซลเซียส แต่ด้วยอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จะระเหยเป็นไอ
อำพันทะเล นับเป็นของมีค่า ราคาแพง และหาได้ยากยิ่ง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีประโยชน์ในการทำเป็นหัวน้ำหอม และเครื่องสำอาง หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหาร หรือไวน์ สำหรับตำราสมุนไพรไทยใช้ทำยาได้ ปัจจุบัน ราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับเกรดคุณภาพ ราคาตั้งแต่หลัก 10,000 – 1,000,000 บาท / กิโลกรัม และอำพันทะเลทั้งหมดนี้ หากขายได้ตามราคาที่เจ้าของตั้งไว้ จะมีราคาสูงถึง 55 ล้านบาท เลยทีเดียว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่