ฝากปัญหาถึง Netflix เอาเปรียบลูกค้าเกินไปรึไม่??

ผมมีเรื่องที่อยากจะขอฝากเรื่องไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับทาง Netflix ช่วยพิจารณา เกี่ยวกับเรื่องวิธีในการสมัครแพคเก็จต่างๆของลูกค้า ว่าแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ โดยปกติแล้ว ผมจะถูกตัดยอดเรียกเก็บเงินทุกๆวันที่ 4 ของเดือน ในแพคเก็จพื้นฐาน (169บาท) โดยจ่ายผ่านของระบบมือถือค่ายหนึ่ง ซึ่งผมก็จ่ายตรงตามกำหนดชำระมาตลอด แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้มีการซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่เข้ามาที่บ้าน เลยต้องทำการ log in เข้าระบบของ Netflix ใหม่ ก็ใส่ user name และ password ตามปกติ หลังจาก log in เข้าไปแล้ว มีหน้าจอหนึ่งปรากฏขึ้นมา และมีแถบให้เลือกซ้ายกับขวา โดยที่แถบซ้ายคือ แพคเก็จพื้นฐาน(169บาท) และแถบขวา คือ แพคเก็จพรีเมี่ยม (419บาท) อาจจะเป็นด้วยความไม่รอบคอบของผมเอง หรืออาจจะมือไวไป ผมเลยเผลอไปกดแถบด้านขวาซึ่งคือ แพคเก็จแบบพรีเมี่ยม (419บาท)โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อผมรู้ตัวว่าผมกดผิดไป ก็ได้รีบติดต่อไปทาง Netflix **โดยทันที** เพื่อแจ้งเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยจะขอเปลี่ยนกลับเป็นแพคเก็จพื้นฐาน(169บาท) ตัวเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ก็ได้เปลี่ยนกลับให้ผมเป็นที่เรียบร้อย แต่มีแจ้งเพิ่มเติมว่า รอบตัดยอดของผมจะเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 20 โดยที่วันที่ 20 ในเดือนเดียวกัน ผมต้องชำระยอดเข้ามาเพิ่มอีก 169 บาท แต่ทางลูกค้าจะได้รับชมในแบบแพคเกจพรีเมี่ยมตั้งแต่วันที่ลูกค้ากดสมัครผิดแพคเก็จไปจนถึงวันที่ 20 นั่นเท่ากับว่า ในเดือนนั้นผม ต้องจ่ายค่าแพคเกจ 2 ครั้งใน 1 เดือน  คำถามคือ สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมานั้น มันเป็นการมัดมือชก หรือเอาเปรียบลูกค้าเกินไปหรือไม่ เพราะทางผมก็แจ้งแล้วว่า มันเกิดจากความผิดพลาด เผลอไปกดโดน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจต้องการจะเปลี่ยนแพคเก็จใดๆทั้งสิ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งแต่เพียงว่า เรื่องได้เข้าระบบไปแล้ว ต้องชำระยอดเพิ่มอีกในวันที่ 20 เป็นจำนวน 169 บาท และนอกจากนี้ผมได้ถามถึงเรื่องการยกเลิกเป็นสมาชิกของ netflix ว่าต้องทำอย่างไร  ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า สามารถแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้เลย หรือ สามารถทำได้ด้วยตัวเองก็ได้  โดยที่หากทำด้วยตัวเอง เมื่อกรอกข้อมูลไปตามขั้นตอน จะมีหน้าต่างยืนยันถามลูกค้าขึ้นมาอีกครั้ง...........***สิ่งที่ผมไม่เข้าใจเลยคือ พอลูกค้าจะต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก ทางคุณมีหน้าต่างยืนยันขึ้นมาถามลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง ว่าต้องการยกเลิกใช่หรือไม่ แต่กลับกัน พอตอนสมัครแพคเก็จ ทางคุณกลับไม่เห็นมีหน้าต่างยืนยันถามขึ้นมาแบบตอนยกเลิก ว่าต้องการเปลี่ยนแพคเก็จใดๆหรือไม่***  การกระทำแบบนี้มันเหมาะสมแล้วหรือไม่ มันไม่เป็นการบังคับลูกค้าไปโดยปริยายรึเปล่าว่าให้ต้องรับสภาพไป ทั้งๆที่ กับความผิดพลาด คลิกปุ่มเดียว ซึ่งผมเชื่อว่า คนเราก็คงมีการผิดพลาดเกิดขึ้นได้  กับการที่ทางคุณจะทำหน้าต่างขึ้นมาอีกสักอันเพื่อถามยืนยันกับลูกค้าว่าต้องการเปลี่ยนแพคเก็จหรือไม่ ก็คงไม่ยากเกินไป เพราะตอนจะยกเลิกสมาชิกคุณยังทำได้เลย ยังมีหน้าต่างยืนยันขึ้นมาอีกครั้งได้เลย  เลยอยากจะขอฝากไว้พิจารณาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ