สวัสดีครับ SIlver Gaze ครับ
เห้ออออ ผมว่าหลายท่านก็คงจะได้เห็นกันไปแล้วสำหรับข่าว ‘แย้เต้นบนรถ ณ ญี่ปุ่น’ ที่เป็นอะไรที่โคตรจะน่าอับอาย แถมหลายๆ คนก็คิดไปถึงขั้นที่ว่า เรื่องนี้มันอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศเลยก็ได้
แต่สบายใจได้ครับ…เรื่องมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก
เพราะคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะครับ และจากบุญบารมีที่เราช่วยกันสั่งสมมาตั้งแต่สิบยี่สิบปีที่แล้ว ในสายตาของคนญี่ปุ่น เหตุการณ์ ‘แย้เต้นบนรถ’ ก็ยังถือเป็น Rare Case ที่ไม่น่าจะถูกนำมาเหมารวมได้ ยกเว้นคนญี่ปุ่นคนนั้นเขาเกลียดคนไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
ทีนี้สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ของเหตุการณ์นี้ ก็คือทิศทางในอนาคตต่อจากนี้นี่แหละครับ
เพราะถ้าเมื่อไหร่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นบ่อยขึ้นบ่อยขึ้น ทั้งเหตุการณ์แย้เต้น หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ขีดๆ เขียนๆ อยากบอกรักกันบนสะพาน ที่จนแล้วจนรอดก็ต้องมีคนไทยนำอุปกรณ์ไปลบออก ถ้าเหตุการณ์พวกนี้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไอเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะไม่ใช่ Rare Case อีกต่อไป และมันก็จะกลายเป็นภาพจำของนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยรวม เหมือนที่เราก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ว่าทั่วโลกมองนักท่องเที่ยวด้วยสายตาประมาณไหน
บอกเลยครับว่าถ้าเป็นแบบนั้นนี่สนุกแน่ เพราะพูดกันตรงๆ ถึงนักท่องเที่ยวจีนจะโคตรห่วยในสายตาคนทำงานบริการทั่วโลก แต่คนจีนมันเยอะอ่ะ มันมีเงินด้วย แล้วเผอิญจังหวะนั้นประเทศผมก็ต้องการเงินซะด้วย มันเลยพอจะมีเหตุผลให้ผมพอหยวนๆ ให้ประเทศจีนถูกไหมครับ
แต่พอมองกลับมาที่ประเทศไทยล่ะ มีอะไรให้เอ่ย ? ตัดออกไปเลย ก็ไม่ติด
จุดนี้แหละครับที่ผมว่าบางที การเสพติดการด่าก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว คือในอดีตมันอาจจะเวิร์กนะ เพราะเราด่าหน่วยงานต่างๆ แล้วมันก็มีอีกหน่วยงานหนึ่งที่จ้องจะเล่นหน่วยงานนั้นอยู่แล้ว การด่าของเราก็เลยกลายเป็นเหมือนใบเบิกทางให้อีกหน่วยงานหนึ่งทำงานได้ง่ายขึ้น
แต่ในปัจจุบันมีคนที่จับจุดได้ว่าคนไทยเสพติดการด่า แล้วพร้อมที่เอาตัวเองมาเจ็บเพื่อเรียกยอด Engagement มันมีมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว ถึงเรื่องมันจะดูใหญ่มาก คนสนใจทั้งประเทศ แต่เรื่องมันก็แค่นี้ โดนด่าแลกยอด จากนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วก็กลับมาโดนด่าแลกยอดใหม่อีกรอบ เนื่องจากอันนี้มันคือเอกชน แล้วใครจะนั่งจัดการปัญหาเรื่องนี้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เอกชน หรือพูดง่ายๆ ก็คือพวกเรากันเองนี่แหละ
แถมที่เยี่ยมยอดไปกว่านั้นก็คือ สำนักงานข่าวออนไลน์ต่างๆ ที่พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงสำหรับการหายอด Engagement ให้คุณอยู่แล้วด้วย เพราะในขณะที่คุณได้คนด่าเพียบ สำนักงานข่าวออนไลน์เหล่านั้น ก็ได้ยอด Engagement ของคนที่ขี้เกียจจะเข้าไปด่าคุณตรงๆ แต่ก็อยากจะด่าอยู่ดีด้วยเช่นกัน
เรียกได้ว่า Win - Win ทั้งสองฝ่าย เสียประโยชน์อยู่คนเดียวคือคนที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติ
ในขณะที่เหตุการณ์นี้ ถ้ามันจบแบบนี้ ถ้ามันมีแค่การโดนด่าสักพักแล้วเรื่องก็เงียบ ผมเชื่อเลยครับว่าเหตุการณ์นี้น่าจะทำให้ใครอีกหลายคนมองแล้วว่า "ถ้าเจ็บแค่นี้ แล้วได้เงิน คุ้มจะตายไป" จากนั้นในอนาคต คุณก็จะได้แย้ 2 แย้ 3 แย้ 4 ซุปเปอร์แย้ แย้ก็อปปี้ และแย้ก็อปปี้ในก็อปปี้อีกที ขึ้นมาอีกเพียบ จากนั้นก็อย่างที่ผมว่าไปช่วงต้นนั้นแหละครับ ว่าถ้าเมื่อไหร่ Rare Case มันมีมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ ทีนี้ก็เตรียมไปเล่นหิมะที่บ้านหิมะใน Dream world หรือไม่ก็จัดกระเป๋าเตรียมเที่ยวโครงการ Amazing Thailand เที่ยวไทยกันให้สุขกันไปข้าง
ส่วนตัวผมเลยมองว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นได้นะ นอกจากการด่า ด่า แล้วก็ด่า จากนั้นก็ลืม ยกตัวเช่น การตัดช่องทางการทำกินด้วยการไปรุม Report ช่องซะ แล้วก็ใส่เหตุผลว่า ‘เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี’ ‘ทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสีย’ หรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างให้บทลงโทษมันมีค่ามากกว่าผลประโยชน์
ไม่งั้นลองจินตนาการภาพประเทศที่คุณขายยาเสพติดแล้วบทลงโทษแค่โดนไม้บรรทัดตีมือดูสิครับ
อ้อ โทษที ไม่ต้องจินตนาการก็ได้ ผมลืมไป
หวังว่าจะได้พบกันอีก
Silver Gaze
แย้เต้นบนรถ ณ ญี่ปุ่น และโรคเสพติดการด่า
เห้ออออ ผมว่าหลายท่านก็คงจะได้เห็นกันไปแล้วสำหรับข่าว ‘แย้เต้นบนรถ ณ ญี่ปุ่น’ ที่เป็นอะไรที่โคตรจะน่าอับอาย แถมหลายๆ คนก็คิดไปถึงขั้นที่ว่า เรื่องนี้มันอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศเลยก็ได้
แต่สบายใจได้ครับ…เรื่องมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก
เพราะคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะครับ และจากบุญบารมีที่เราช่วยกันสั่งสมมาตั้งแต่สิบยี่สิบปีที่แล้ว ในสายตาของคนญี่ปุ่น เหตุการณ์ ‘แย้เต้นบนรถ’ ก็ยังถือเป็น Rare Case ที่ไม่น่าจะถูกนำมาเหมารวมได้ ยกเว้นคนญี่ปุ่นคนนั้นเขาเกลียดคนไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
ทีนี้สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ของเหตุการณ์นี้ ก็คือทิศทางในอนาคตต่อจากนี้นี่แหละครับ
เพราะถ้าเมื่อไหร่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นบ่อยขึ้นบ่อยขึ้น ทั้งเหตุการณ์แย้เต้น หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ขีดๆ เขียนๆ อยากบอกรักกันบนสะพาน ที่จนแล้วจนรอดก็ต้องมีคนไทยนำอุปกรณ์ไปลบออก ถ้าเหตุการณ์พวกนี้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไอเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะไม่ใช่ Rare Case อีกต่อไป และมันก็จะกลายเป็นภาพจำของนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยรวม เหมือนที่เราก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ว่าทั่วโลกมองนักท่องเที่ยวด้วยสายตาประมาณไหน
บอกเลยครับว่าถ้าเป็นแบบนั้นนี่สนุกแน่ เพราะพูดกันตรงๆ ถึงนักท่องเที่ยวจีนจะโคตรห่วยในสายตาคนทำงานบริการทั่วโลก แต่คนจีนมันเยอะอ่ะ มันมีเงินด้วย แล้วเผอิญจังหวะนั้นประเทศผมก็ต้องการเงินซะด้วย มันเลยพอจะมีเหตุผลให้ผมพอหยวนๆ ให้ประเทศจีนถูกไหมครับ
แต่พอมองกลับมาที่ประเทศไทยล่ะ มีอะไรให้เอ่ย ? ตัดออกไปเลย ก็ไม่ติด
จุดนี้แหละครับที่ผมว่าบางที การเสพติดการด่าก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว คือในอดีตมันอาจจะเวิร์กนะ เพราะเราด่าหน่วยงานต่างๆ แล้วมันก็มีอีกหน่วยงานหนึ่งที่จ้องจะเล่นหน่วยงานนั้นอยู่แล้ว การด่าของเราก็เลยกลายเป็นเหมือนใบเบิกทางให้อีกหน่วยงานหนึ่งทำงานได้ง่ายขึ้น
แต่ในปัจจุบันมีคนที่จับจุดได้ว่าคนไทยเสพติดการด่า แล้วพร้อมที่เอาตัวเองมาเจ็บเพื่อเรียกยอด Engagement มันมีมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว ถึงเรื่องมันจะดูใหญ่มาก คนสนใจทั้งประเทศ แต่เรื่องมันก็แค่นี้ โดนด่าแลกยอด จากนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วก็กลับมาโดนด่าแลกยอดใหม่อีกรอบ เนื่องจากอันนี้มันคือเอกชน แล้วใครจะนั่งจัดการปัญหาเรื่องนี้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เอกชน หรือพูดง่ายๆ ก็คือพวกเรากันเองนี่แหละ
แถมที่เยี่ยมยอดไปกว่านั้นก็คือ สำนักงานข่าวออนไลน์ต่างๆ ที่พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงสำหรับการหายอด Engagement ให้คุณอยู่แล้วด้วย เพราะในขณะที่คุณได้คนด่าเพียบ สำนักงานข่าวออนไลน์เหล่านั้น ก็ได้ยอด Engagement ของคนที่ขี้เกียจจะเข้าไปด่าคุณตรงๆ แต่ก็อยากจะด่าอยู่ดีด้วยเช่นกัน
เรียกได้ว่า Win - Win ทั้งสองฝ่าย เสียประโยชน์อยู่คนเดียวคือคนที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติ
ในขณะที่เหตุการณ์นี้ ถ้ามันจบแบบนี้ ถ้ามันมีแค่การโดนด่าสักพักแล้วเรื่องก็เงียบ ผมเชื่อเลยครับว่าเหตุการณ์นี้น่าจะทำให้ใครอีกหลายคนมองแล้วว่า "ถ้าเจ็บแค่นี้ แล้วได้เงิน คุ้มจะตายไป" จากนั้นในอนาคต คุณก็จะได้แย้ 2 แย้ 3 แย้ 4 ซุปเปอร์แย้ แย้ก็อปปี้ และแย้ก็อปปี้ในก็อปปี้อีกที ขึ้นมาอีกเพียบ จากนั้นก็อย่างที่ผมว่าไปช่วงต้นนั้นแหละครับ ว่าถ้าเมื่อไหร่ Rare Case มันมีมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ ทีนี้ก็เตรียมไปเล่นหิมะที่บ้านหิมะใน Dream world หรือไม่ก็จัดกระเป๋าเตรียมเที่ยวโครงการ Amazing Thailand เที่ยวไทยกันให้สุขกันไปข้าง
ส่วนตัวผมเลยมองว่าเราน่าจะทำอย่างอื่นได้นะ นอกจากการด่า ด่า แล้วก็ด่า จากนั้นก็ลืม ยกตัวเช่น การตัดช่องทางการทำกินด้วยการไปรุม Report ช่องซะ แล้วก็ใส่เหตุผลว่า ‘เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี’ ‘ทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสีย’ หรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างให้บทลงโทษมันมีค่ามากกว่าผลประโยชน์
ไม่งั้นลองจินตนาการภาพประเทศที่คุณขายยาเสพติดแล้วบทลงโทษแค่โดนไม้บรรทัดตีมือดูสิครับ
อ้อ โทษที ไม่ต้องจินตนาการก็ได้ ผมลืมไป
หวังว่าจะได้พบกันอีก
Silver Gaze