ชาวบ้านชายแดนพร้อมอพยพ หลังหน่วย BHQ เข้าประชิดตาควาย
.
.
ตื่นตัวเสียง F-16 ชาวบ้านชายแดนพร้อมอพยพ หลังหน่วย BHQ เข้าประชิดตาควาย อยากให้ตอบโต้ทางการทหาร เอาปราสาทตาควายกลับคืน
.
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (17 พ.ย.68) หลังมีกระแสข่าว ทหารกัมพูชา หน่วย BHQ เข้ามาประชิดชายแดนบริเวณปราสาทตาควายประมาณ 3,000 นาย ชาวบ้านในพื้นที่ฝั่งไทยก็เตรียมความพร้อมอพยพ รอสัญญาณเตือนจากผู้นำชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้าน มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับการอพยพ
.
ขณะที่เสียงของเครื่องบิน F-16 ซึ่งบินลาดตระเวน บริเวณใกล้กับปราสาทตาควาย เนื่องจากเป็นวงรอบการปฏิบัติประจำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นพื้นที่ตื่นตัวกันพอสมควร
.
ทีมข่าว CH7HD มาสำรวจภายในหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา ตำบลบักไดอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย เพียง 5 กิโลเมตร พบว่าชาวบ้านหลายครอบครัวเตรียมความพร้อมเก็บเสื้อผ้าใส่ไว้ในกระเป๋า รอคำสั่งจากทางการให้อพยพ และบางครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงคนชรา ก็อพยพออกไปอยู่บ้านญาติก่อนหน้านี้แล้ว
.
นายสุริยัน พาสนุก ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านหลายคนเตรียมความพร้อมในการอพยพ และมีบางครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงคนชรา อพยพไปอยู่บ้านญาติก่อนแล้ว ส่วนตัวนั้นไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะการที่กัมพูชานำทหาร BHQ เข้ามาในพื้นที่เป็นเรื่องปกติที่เขาทำ แต่ก็ถือว่าส่งสัญญาณให้ชาวบ้านเตรียมตัวได้เหมือนกัน พร้อมสนับสนุนให้ตอบโต้ทางการทหารเพื่อนำปราสาทตาควายกับคืนให้คนไทย แม้บ้านของตนที่เพิ่งสร้างอาจได้รับผลกระทบพังเสียหายก็ตาม
.
“อยากให้เขาตอบโต้ทางการทหาร บ้านเพิ่งสร้างแต่ก็เป็นของนอกกาย เราสร้างใหม่ได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ ขอให้เอาปราสาทตาควายกลับคืนมา”
.
.
อธิรัฐประกาศชัด ร่วมทีมพรรคประชาชน พร้อมชวนคนไทยร่วมสู้
.
โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าการเริ่มต้นบทใหม่ทางการเมือง พร้อมเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน แม้สมาชิกในครอบครัวบางส่วนจะเลือกเส้นทางต่างพรรค
.
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีต สส.นครราชสีมา ลูกชายคนโตของนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตประธานวิปรัฐบาล และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการเริ่มต้นบทใหม่ทางการเมืองว่า
.
“การเดินทางครั้งใหม่… หนังสือเล่มใหม่… กับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่” พร้อมติดแฮชแท็ก #พรรคประชาชน #เราเอาจริง
.
นายอธิรัฐ ยังเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยโพสต์ทิ้งท้ายว่า
.
“มาช่วยกัน ร่วมสู้ ร่วมสร้าง ไปด้วยกันนะครับ”
.
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนความชัดเจนว่า เตรียมเดินหน้าทางการเมืองในบทบาทใหม่ภายใต้พรรคประชาชน
.
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ น้องชายของนายอธิรัฐ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง สส.นครราชสีมา สังกัดพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ได้ประกาศเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทยไปก่อนแล้ว
.
https://www.facebook.com/atirat.ratanasate/posts/pfbid02hA8owZmLo9bSVZcKzq9G42Su7PVehfCbGwV2rBopHBFxqEekj62XXfVHBb3KyvKUl
.
.
ฮั่วเซ่งเฮง ฟันธง ทองมีลุ้นแตะ 6.7 หมื่นบาท แรงหนุนจีดีพีสหรัฐฯร่วง -หนี้พุ่ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10024759
.
ฮั่วเซ่งเฮง ฟันธง ทองมีลุ้นแตะ 6.7 หมื่นราคาทอง แรงหนุนจีดีพีสหรัฐฯร่วง -หนี้พุ่ง
.
18พ.ย.2568 – ฮั่วเซ่งเฮง ชี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติชัตดาวน์ ไม่ได้แปลว่าวิกฤตจบ หวั่นผลกระทบทางเศรษฐกิจตามมา ทั้ง GDP ที่อาจหดตัวลง และหนี้สาธารณะที่ยังน่าเป็นห่วง พร้อมจับตาความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และสัญญาณการปลดพนักงานครั้งใหญ่จาก AI ที่เริ่มชัดเจนขึ้น แนะนำนักลงทุนจับตาปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด หากตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี อาจดันราคาทองคำพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 4,381 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 67,000 บาทต่อบาททองคำ
นาย
ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำและผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Government Shutdown) ว่า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อค่ำวันพุธที่ 12 พ.ย. 68 (ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ) เพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานกว่า 43 วัน แต่ผลกระทบระยะสั้นและระยะกลางต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงราคาทองคำ ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
.
การยุติการชัตดาวน์ครั้งนี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากงบประมาณชั่วคราวครอบคลุมเพียง 3 ใน 12 ส่วนที่สภาคองเกรสต้องอนุมัติ และมีกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. 69 ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชัตดาวน์ขึ้นอีกครั้ง หากสภาคองเกรสยังไม่สามารถอนุมัติงบประมาณส่วนที่เหลือได้
.
ชี้ผลกระทบ หลังชัตดาวน์ ‘GDP หดตัว – หนี้พุ่ง’
.
นาย
ธนรัชต์ ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยหลักที่ยังสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้สหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการ คือผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Aftereffects) ที่ตามมา โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) จะลดลง 7 พันล้านดอลลาร์ ในกรณีที่ปิดหน่วยงานสี่สัปดาห์ และเพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อปิดหน่วยงานนาน 42 วัน
.
“
นอกจากนี้ ตัวเลขขาดดุลประจำปีงบประมาณ 2025 ที่ CBO ประเมินไว้สูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน จากระดับปัจจุบันที่ทะลุ 38 ล้านล้านดอลลาร์ ความเสี่ยงทางการคลังและหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย” นาย
ธนรัชต์ กล่าว
.
ความไม่แน่นอนของ Fed และแรงสั่นสะเทือนจาก AI
.
นายธนรัชต์ กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่า การชัตดาวน์ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญบางส่วน เช่น รายงานการจ้างงานและดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม อาจมีความล่าช้าหรือไม่ถูกเผยแพร่ ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้หรือไม่
.
“
ความไม่แน่นอนของข้อมูลและภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ทำให้โพลสำรวจ CME FedWatch Tool ปรับลดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเหลือเพียง 43.6% ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดิมที่ 88.2% ในเดือนก่อน และปรับเพิ่มคาดการณ์การคงดอกเบี้ยเป็น 56.4%” (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ย. 68)
.
ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลที่มีอยู่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่จาก ‘คลื่นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)’ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีการปลดพนักงานกว่า 153,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และยอดผู้ถูกเลิกจ้างสะสมตลอดทั้งปีทะลุ 1 ล้านราย ซึ่งสถานการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและความเปราะบางในตลาดแรงงานอย่างชัดเจน
.
คาดทองคำ จ่อทดสอบ ‘67,000 บาท’ อีกครั้ง
.
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นว่า ยังคงต้องติดตามการแถลงการณ์ของประธาน Fed เกี่ยวกับมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาเผยแพร่ได้ตามปกติ ซึ่งหากผลออกมาไม่ดี ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ 4,381 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 67,000 บาท (คำนวณจากค่าเงินบาท 32.30 บาท)
.
“
ในทางกลับกัน หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาด ก็ต้องระวังแรงเทขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยจุดที่น่าสะสมระยะกลางยังอยู่ที่บริเวณ 3,870 – 3,900 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือราคาทองคำแท่งประมาณบาทละ 59,100 – 59,600 บาท (คำนวณจากค่าเงินบาท 32.30 บาท) นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม” นาย
ธนรัชต์ กล่าว
JJNY : พร้อมอพยพ หลัง BHQ เขประชิดตาควาย│อธิรัฐประกาศร่วมทีมปชน.│ฟันธง ทองมีลุ้นแตะ 6.7 หมื่น│ญี่ปุ่นให้คำแนะนำพลเมือง
.
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (17 พ.ย.68) หลังมีกระแสข่าว ทหารกัมพูชา หน่วย BHQ เข้ามาประชิดชายแดนบริเวณปราสาทตาควายประมาณ 3,000 นาย ชาวบ้านในพื้นที่ฝั่งไทยก็เตรียมความพร้อมอพยพ รอสัญญาณเตือนจากผู้นำชุมชน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้าน มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับการอพยพ
.
ขณะที่เสียงของเครื่องบิน F-16 ซึ่งบินลาดตระเวน บริเวณใกล้กับปราสาทตาควาย เนื่องจากเป็นวงรอบการปฏิบัติประจำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นพื้นที่ตื่นตัวกันพอสมควร
.
ทีมข่าว CH7HD มาสำรวจภายในหมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา ตำบลบักไดอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควาย เพียง 5 กิโลเมตร พบว่าชาวบ้านหลายครอบครัวเตรียมความพร้อมเก็บเสื้อผ้าใส่ไว้ในกระเป๋า รอคำสั่งจากทางการให้อพยพ และบางครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงคนชรา ก็อพยพออกไปอยู่บ้านญาติก่อนหน้านี้แล้ว
.
นายสุริยัน พาสนุก ชาวบ้านไทยนิยมพัฒนา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านหลายคนเตรียมความพร้อมในการอพยพ และมีบางครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงคนชรา อพยพไปอยู่บ้านญาติก่อนแล้ว ส่วนตัวนั้นไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะการที่กัมพูชานำทหาร BHQ เข้ามาในพื้นที่เป็นเรื่องปกติที่เขาทำ แต่ก็ถือว่าส่งสัญญาณให้ชาวบ้านเตรียมตัวได้เหมือนกัน พร้อมสนับสนุนให้ตอบโต้ทางการทหารเพื่อนำปราสาทตาควายกับคืนให้คนไทย แม้บ้านของตนที่เพิ่งสร้างอาจได้รับผลกระทบพังเสียหายก็ตาม
.
“อยากให้เขาตอบโต้ทางการทหาร บ้านเพิ่งสร้างแต่ก็เป็นของนอกกาย เราสร้างใหม่ได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ ขอให้เอาปราสาทตาควายกลับคืนมา”
.
https://www.facebook.com/atirat.ratanasate/posts/pfbid02hA8owZmLo9bSVZcKzq9G42Su7PVehfCbGwV2rBopHBFxqEekj62XXfVHBb3KyvKUl
.
.
ฮั่วเซ่งเฮง ฟันธง ทองมีลุ้นแตะ 6.7 หมื่นบาท แรงหนุนจีดีพีสหรัฐฯร่วง -หนี้พุ่ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10024759
.
ฮั่วเซ่งเฮง ฟันธง ทองมีลุ้นแตะ 6.7 หมื่นราคาทอง แรงหนุนจีดีพีสหรัฐฯร่วง -หนี้พุ่ง
.
18พ.ย.2568 – ฮั่วเซ่งเฮง ชี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติชัตดาวน์ ไม่ได้แปลว่าวิกฤตจบ หวั่นผลกระทบทางเศรษฐกิจตามมา ทั้ง GDP ที่อาจหดตัวลง และหนี้สาธารณะที่ยังน่าเป็นห่วง พร้อมจับตาความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และสัญญาณการปลดพนักงานครั้งใหญ่จาก AI ที่เริ่มชัดเจนขึ้น แนะนำนักลงทุนจับตาปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด หากตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี อาจดันราคาทองคำพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 4,381 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 67,000 บาทต่อบาททองคำ
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำและผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Government Shutdown) ว่า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อค่ำวันพุธที่ 12 พ.ย. 68 (ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ) เพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานกว่า 43 วัน แต่ผลกระทบระยะสั้นและระยะกลางต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงราคาทองคำ ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
.
การยุติการชัตดาวน์ครั้งนี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากงบประมาณชั่วคราวครอบคลุมเพียง 3 ใน 12 ส่วนที่สภาคองเกรสต้องอนุมัติ และมีกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ม.ค. 69 ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชัตดาวน์ขึ้นอีกครั้ง หากสภาคองเกรสยังไม่สามารถอนุมัติงบประมาณส่วนที่เหลือได้
.
ชี้ผลกระทบ หลังชัตดาวน์ ‘GDP หดตัว – หนี้พุ่ง’
.
นายธนรัชต์ ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยหลักที่ยังสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้สหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการ คือผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Aftereffects) ที่ตามมา โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) จะลดลง 7 พันล้านดอลลาร์ ในกรณีที่ปิดหน่วยงานสี่สัปดาห์ และเพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อปิดหน่วยงานนาน 42 วัน
.
“นอกจากนี้ ตัวเลขขาดดุลประจำปีงบประมาณ 2025 ที่ CBO ประเมินไว้สูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน จากระดับปัจจุบันที่ทะลุ 38 ล้านล้านดอลลาร์ ความเสี่ยงทางการคลังและหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย” นายธนรัชต์ กล่าว
.
ความไม่แน่นอนของ Fed และแรงสั่นสะเทือนจาก AI
.
นายธนรัชต์ กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่า การชัตดาวน์ทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญบางส่วน เช่น รายงานการจ้างงานและดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม อาจมีความล่าช้าหรือไม่ถูกเผยแพร่ ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้หรือไม่
.
“ความไม่แน่นอนของข้อมูลและภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ทำให้โพลสำรวจ CME FedWatch Tool ปรับลดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเหลือเพียง 43.6% ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดิมที่ 88.2% ในเดือนก่อน และปรับเพิ่มคาดการณ์การคงดอกเบี้ยเป็น 56.4%” (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ย. 68)
.
ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลที่มีอยู่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่จาก ‘คลื่นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)’ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีการปลดพนักงานกว่า 153,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และยอดผู้ถูกเลิกจ้างสะสมตลอดทั้งปีทะลุ 1 ล้านราย ซึ่งสถานการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและความเปราะบางในตลาดแรงงานอย่างชัดเจน
.
คาดทองคำ จ่อทดสอบ ‘67,000 บาท’ อีกครั้ง
.
ฮั่วเซ่งเฮง ประเมินแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นว่า ยังคงต้องติดตามการแถลงการณ์ของประธาน Fed เกี่ยวกับมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาเผยแพร่ได้ตามปกติ ซึ่งหากผลออกมาไม่ดี ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ 4,381 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือประมาณ 67,000 บาท (คำนวณจากค่าเงินบาท 32.30 บาท)
.
“ในทางกลับกัน หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาด ก็ต้องระวังแรงเทขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยจุดที่น่าสะสมระยะกลางยังอยู่ที่บริเวณ 3,870 – 3,900 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือราคาทองคำแท่งประมาณบาทละ 59,100 – 59,600 บาท (คำนวณจากค่าเงินบาท 32.30 บาท) นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม” นายธนรัชต์ กล่าว