มีหลายเรื่องราว ผ่านเข้ามาในชีวิต ในช่วง 10 ปีมานี้ แบบพลิกชีวิต
และหลายครั้งเริ่มไม่แน่ใจในเส้นทางชีวิตที่ก้าวเดิน
ออกจากงานเดิมที่ทำมานานกว่า 12 ปี ผู้อาวุโสในครอบครัวเสียชีวิต ครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งตัดขาดเครือญาติ ป่วย น้ำท่วมบ้าน แม่เป็นต้อหินที่ตาข้างขวา
พี่ชายเป็นสโตรก(อาการดีขึ้นเริ่มกลับมาปกติ)
ถูกหลอกถูกโกง ถูกฟ้องร้อง ถูกบังคับคดี อดีตคู่หมั้นเสียชีวิต (คู่หมั้นมีโลกหลายใบ)
บางทีเหนื่อย บางเวลาก็ท้อ และสับสนในการตัดสินใจหรือเลือกสิ่งใดสักอย่าง
ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คือ การได้อยู่กับภาษาญี่ปุ่น การได้สอนภาษาญี่ปุ่น การได้คิดอะไรๆ เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น
อืมมม...ช่วยได้นะ
หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนเครื่องรางประจำตัว
เขียนโดย อาจารย์ Mizuno Koichi
เป็นเพื่อนชาวต่างชาติของตา ได้ยินเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก
60 ปีก่อน ท่านเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านในชนบททางภาคอีสาน และใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านอยู่ระยะเวลาหนึ่ง
ศึกษาโครงสร้างทางสังคมครอบครัวเกษตรกรไทย วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม วิธีคิด ความเชื่อศาสนา ปรัชญาและเศรษฐกิจ
ท่านเสียชีวิตด้วยวัย 45 ปี จากโรคไข้มาลาเรียที่โรงพยาบาลศิริราช ไม่มีครอบครัว/ทายาท
หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ภายหลังหลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนตัวเคยได้ยินตาพูดถึงเพื่อนท่านนี้บ่อยมาก ทั้งชื่นชมยกย่อง
ได้ยินคำว่าชาวญี่ปุ่น ก่อนจะได้ชมการ์ตูนอิคคิวซังในภายหลังเสียอีก
ตาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนท่านนี้ เพราะพาครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้านเดิมเข้าไปใกล้ตัวเมืองมากขึ้น
เพื่อลูกๆ จะได้รับการศึกษาที่ดี
และตาก็ไม่ได้ติดต่อกลับ คนในหมู่บ้านบอกว่าอาจารย์กลับไปในหมู่บ้านและถามหาตาอยู่เหมือนกัน
ตามหาข้อมูลมานานมากตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับปริญญาตรี
ที่มีข้อมูลแค่ "นักวิจัยชาวญี่ปุ่นชื่อโคอิจิ" นอกจากนั้นไม่มีอะไรให้ตามได้เลย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
จนกระทั่ง ได้บรรจุเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่น ณ สถานศึกษาหนึ่ง
ได้รู้จักกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ได้เล่าเรื่องราวให้ฟัง อาจารย์ท่านนั้นจึงถามกลับมาว่า
"ใช่ชื่อ Mizuno Koichi หรือเปล่า มีหนังสือที่รวบรวมงานข้อมูลวิจัยของท่านด้วยนะ"
และเป็นที่มาของการตามหาข้อมูลต่อมาในภายหลัง
จนได้มีโอกาสพบกับรุ่นน้องของท่าน ศาสตรจารย์ Sakurai อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโตเกียวและทีมนักศึกษาวิจัยเวียดนามศึกษา, กัมพูชาศึกษา, ลาวศึกษา, ไทยศึกษา
เรื่องราวครอบครัวของตาและยายถูกเขียนในหน้า 93-94 (อันนี้เพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่นบอกอีกที)
ได้รับหนังสือเล่มนี้ตอน ศาสตราจารย์ Sakurai มาที่กรุงเทพมหานคร และได้มีโอกาสไปเยี่ยมที่พักในกรุงเทพ
ท่านให้ชมภาพถ่ายทางอากาศของหมู่บ้าน เอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับหมู่บ้านของตาและยาย
และมอบหนังสือเล่มนี้ให้
รักษาไว้ติดตัวเป็นเครื่องรางยามท้อแท้
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
เวลาขี้เกียจ/ท้อ จะคิดกลับไปทบทวนถึงจุดเริ่มต้นแรกเสมอ
แรงบันดาลใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่น
มีหลายเรื่องราว ผ่านเข้ามาในชีวิต ในช่วง 10 ปีมานี้ แบบพลิกชีวิต
และหลายครั้งเริ่มไม่แน่ใจในเส้นทางชีวิตที่ก้าวเดิน
ออกจากงานเดิมที่ทำมานานกว่า 12 ปี ผู้อาวุโสในครอบครัวเสียชีวิต ครอบครัวทะเลาะเบาะแว้งตัดขาดเครือญาติ ป่วย น้ำท่วมบ้าน แม่เป็นต้อหินที่ตาข้างขวา
พี่ชายเป็นสโตรก(อาการดีขึ้นเริ่มกลับมาปกติ)
ถูกหลอกถูกโกง ถูกฟ้องร้อง ถูกบังคับคดี อดีตคู่หมั้นเสียชีวิต (คู่หมั้นมีโลกหลายใบ)
บางทีเหนื่อย บางเวลาก็ท้อ และสับสนในการตัดสินใจหรือเลือกสิ่งใดสักอย่าง
ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คือ การได้อยู่กับภาษาญี่ปุ่น การได้สอนภาษาญี่ปุ่น การได้คิดอะไรๆ เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น
อืมมม...ช่วยได้นะ
หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนเครื่องรางประจำตัว
เขียนโดย อาจารย์ Mizuno Koichi
เป็นเพื่อนชาวต่างชาติของตา ได้ยินเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่เด็ก
60 ปีก่อน ท่านเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านในชนบททางภาคอีสาน และใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านอยู่ระยะเวลาหนึ่ง
ศึกษาโครงสร้างทางสังคมครอบครัวเกษตรกรไทย วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม วิธีคิด ความเชื่อศาสนา ปรัชญาและเศรษฐกิจ
ท่านเสียชีวิตด้วยวัย 45 ปี จากโรคไข้มาลาเรียที่โรงพยาบาลศิริราช ไม่มีครอบครัว/ทายาท
หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ภายหลังหลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนตัวเคยได้ยินตาพูดถึงเพื่อนท่านนี้บ่อยมาก ทั้งชื่นชมยกย่อง
ได้ยินคำว่าชาวญี่ปุ่น ก่อนจะได้ชมการ์ตูนอิคคิวซังในภายหลังเสียอีก
ตาไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนท่านนี้ เพราะพาครอบครัวย้ายออกจากหมู่บ้านเดิมเข้าไปใกล้ตัวเมืองมากขึ้น
เพื่อลูกๆ จะได้รับการศึกษาที่ดี
และตาก็ไม่ได้ติดต่อกลับ คนในหมู่บ้านบอกว่าอาจารย์กลับไปในหมู่บ้านและถามหาตาอยู่เหมือนกัน
ตามหาข้อมูลมานานมากตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับปริญญาตรี
ที่มีข้อมูลแค่ "นักวิจัยชาวญี่ปุ่นชื่อโคอิจิ" นอกจากนั้นไม่มีอะไรให้ตามได้เลย เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
จนกระทั่ง ได้บรรจุเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่น ณ สถานศึกษาหนึ่ง
ได้รู้จักกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ได้เล่าเรื่องราวให้ฟัง อาจารย์ท่านนั้นจึงถามกลับมาว่า
"ใช่ชื่อ Mizuno Koichi หรือเปล่า มีหนังสือที่รวบรวมงานข้อมูลวิจัยของท่านด้วยนะ"
และเป็นที่มาของการตามหาข้อมูลต่อมาในภายหลัง
จนได้มีโอกาสพบกับรุ่นน้องของท่าน ศาสตรจารย์ Sakurai อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโตเกียวและทีมนักศึกษาวิจัยเวียดนามศึกษา, กัมพูชาศึกษา, ลาวศึกษา, ไทยศึกษา
เรื่องราวครอบครัวของตาและยายถูกเขียนในหน้า 93-94 (อันนี้เพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่นบอกอีกที)
ได้รับหนังสือเล่มนี้ตอน ศาสตราจารย์ Sakurai มาที่กรุงเทพมหานคร และได้มีโอกาสไปเยี่ยมที่พักในกรุงเทพ
ท่านให้ชมภาพถ่ายทางอากาศของหมู่บ้าน เอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับหมู่บ้านของตาและยาย
และมอบหนังสือเล่มนี้ให้
รักษาไว้ติดตัวเป็นเครื่องรางยามท้อแท้
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
เวลาขี้เกียจ/ท้อ จะคิดกลับไปทบทวนถึงจุดเริ่มต้นแรกเสมอ