เราเดินทางสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ 23-31 ตุลาคม 2568 คราวนี้เราตั้งใจไปฉางชุนครับ ภูเขาหิมะฉางไป๋ซาน
.
ฉางชุนเป็นเมืองเอกของมณฑลจี๋หลินซึ่งเป็นหนึ่งในสามมณฑลของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น เรามีทริปไปฮาร์บินแล้ว 2 ครั้งตั้งแต่ต้นปีลองตามไปอ่านกันได้ ครั้งแรกฤดูหนาวและเทศกาลน้ำแข็ง -- >
https://pantip.com/topic/43308131 ครั้งที่ 2 ช่วงเมษายนจะถือว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิก็ได้คราวนั้นตั้งใจไปโม่เหอและเป่ยจี๋ชุน ฤดูใบไม้ผลิหิมะและน้ำแข็งละลายแต่อากาศก็ยังหนาวอยู่ -->
https://pantip.com/topic/43382251 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3.
นั่งเครื่องไปลงฮาร์บิน โดยแวะที่กวางโจว ตรวจคนเข้าเมืองที่นี่ มีเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงระหว่างต่อเครื่องเลยหาเวลาออกไปนอกสนามบินหาอาหารเช้าทานที่แถวสถานีเหรินเหอ (人和)
สถานีเหรินเหอของรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 3 ที่มาจากสนามบิน ถ้าออกทางออก c2 มองตรงข้าม จะเห็นร้านเกี๊ยวน้ำอยู่หัวมุมถนนที่เราได้แวะทานและรู้สึกว่าน่าจะถูกปากคนไทยครับชื่อร้านจิ่วหลี่หมิง เกี๊ยวน้ำทำมือ (玖里名·手作馄饨)เลือกโต๊ะนั่งแล้วสแกนสั่งได้เลย และแถวๆนั้นจะมีสาขาของ supermarket ขนาดไม่ใหญ่นักที่ขายของกินและเครื่องดื่มราคาไม่แพง ในเมืองจีนมีหลายสาขากระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ภาษาอังกฤษชื่อ Himaxx ภาษาจีนเรียกห่าวเสี่ยงไหล (好想来)
.
จริงๆการเดินทางออกจากสนามบินเข้าเมืองที่กวางโจวค่อนข้างง่ายเพราะรถไฟฟ้าเข้ามารับถึงสนามบินเลย จุดที่เราไปไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางใดๆเป็นสถานีที่ค่อนข้างคึกคักร้านรวงหลากหลายและมีอาหารเช้าให้ทานในราคาประหยัด สถานีที่ 3 นับจากออกจากสนามบิน
เรื่องการเดินทางในเมืองจีนทางรถไฟฟ้าใต้ดินและรถโดยสารประจำทางเราเคยเขียนแนะนำไปในกระทู้ก่อนๆแล้วแต่โดยสรุปอาศัยเปิดบัตรโดยสารทาง application alipay ซึ่งเราสามารถผูกบัตรเครดิตหรือบัตรท่องเที่ยวใน alipay ได้เลย แต่กรณีถ้าไม่สามารถผูกบัตรเครดิตหรือคนที่ไม่มีบัตรเครดิต, บัตรท่องเที่ยวก็สามารถใช้ application truemoney ในการซื้อบัตรโดยสารเป็นครั้งๆ ตู้ซื้อบัตรโดยสารในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเมืองต่างๆของจีนไม่ค่อยมีคนใช้บริการครับและแทบไม่มีคิว เพราะเกือบทั้งหมดใช้มือถือเพียงเครื่องเดียว
.
ของ Wechat จะเป็น miniapp ซึ่งเราเคยใช้miniapp ชื่อ 乘车码 (เฉิงเชอหม่า) และคราวนี้ตอนไปฉางชุนมีเพิ่มเติมอีก 1 มินิแอพ 城市通 (เฉิงซื่อท่ง ตอนสแกนเครื่องจะพูดว่า "จี๋หลินข่า")เพราะมีรถเมล์อยู่สายนึงที่ใช้เฉิงเชอหม่าไม่ได้จนต้องโหลดตัวนี้มาใช้แทน
สำหรับการเงินยังคงไม่แลกเงินสดเพราะการใช้เงินสดในเมืองจีนค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรสำหรับร้านค้าที่ต้องหาเงินทอนให้เรา คราวนี้เดินทางกับสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิช่วงดึกของวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ไปถึงกวางโจวเช้าวันที่ 24 รอตรวจคนเข้าเมืองนานกว่าทุกคราวเนื่องจากเป็นช่วงที่กวางโจวมีงานแคนตันแฟร์ (งานแสดงสินค้าใหญ่ของเมือง เป้าหมายขายสินค้าไปทั่วโลก) หลังจากนั้นรอเครื่องอีกทอดไปลงฮาร์บิน ถึงฮาร์บินช่วงเย็นของวันที่ 24
.
ใช้ทั้ง alipay และ wechat pay
.
เรามีเพื่อนร่วมทริปรวมทั้งหมด 5 คนเพื่อนอีก 3 คนเดินทางไล่เลี่ยกันแต่ไปกับสายการบินซานตงแอร์ไลน์จากสุวรรณภูมิเช่นกันไปลงชิงเต่า ตรวจคนเข้าเมืองและรอเครื่องประมาณ 8 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องที่ชิงเต่าเพื่อมุ่งหน้าลงฮาร์บินเช่นกัน เข้าเมืองโดยนั่งรถบัสสนามบินสาย 3 ลงป้ายถนนจงยาง กดซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้อัตโนมัติเลือก 中央大街 ค่าโดยสารคนละ 20 หยวนแสกนจ่ายด้วย Alipay ส่วนขากลับจ่ายเงินโดยเงินสดหรือสแกน wechat pay ขึ้นรถก่อนแล้วไปจ่ายเงินบนรถ
.
อ่อ ขามาจากสนามบินก็จะมีเค้าเตอร์ขายตั๋วอยู่ข้างๆ เครื่องอัตโนมัตินะ เราเคยเดินไปซื้อตั๋วที่เค้าเตอร์ แต่พนักงานก็บอกให้เราไปกดตู้เองอยู่ดี หลังๆเมื่อไปเที่ยวเมืองจีนเรื่องภาษาก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไปถ้าเรามีโทรศัพท์มือถือพร้อมอินเตอร์เน็ต เพราะคนจีนไม่ได้แคร์ว่าคุณจะพูดภาษาจีนได้หรือไม่ เกือบทุกครั้งที่คนจีนจะสื่อสารกับต่างชาติเช่นเรา ที่เจอบ่อยๆก็จะเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของโรงแรม น้องๆพนักงานก็จะมีอุปกรณ์แปลภาษาติดมือกันอยู่เกือบทุกคน การเดินทางและใช้ชีวิตในเมืองก็เช่นกัน .. การใช้ application แปลภาษาสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องเคอะเขินครับ และเท่าที่เราพบเจอ คนจีนก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ในทางบวกกับนักท่องเที่ยวไทย
เข้าคิวขึ้นรถ และเอาสัมภาระขนาดใหญ่ขึ้นรถด้วยตนเอง พี่คนขับจะถามว่าเราลงที่ไหน ก็ให้บอกด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “จงยางต้าเจีย ครับเฮีย ..." ไม่ก็ยื่นตั๋วให้พี่แกดู เพื่อจะได้จัดกลุ่มสัมภาระให้เข้าพวกว่ากระเป๋าใบไหนไปถึงไหน ใกล้,ไกล
.
ที่พักที่ฮาร์บินเรายังคงพักที่โรงแรมไอบิส บริเวณหัวถนนจงยาง ซึ่งเป็นถนนคนเดินยอดนิยมที่สุดสำหรับคนที่มาเที่ยวฮาร์บิน บรรยากาศของฮาร์บินในแต่ละฤดูก็จะค่อนข้างต่างกันถ้าเป็นฤดูหนาวทุกที่ก็จะเต็มไปด้วยหิมะและประติมากรรมน้ำแข็งแต่ถ้าเป็นฤดูอื่นเมื่อน้ำแข็งละลายแล้วประติมากรรมเหล่านั้นก็จะหายไปทั้งหมดเหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่าและสวนสาธารณะปกติเท่านั้นเอง คราวนี้ถือว่าเป็นฤดูใบไม้ร่วงจริงๆตั้งใจจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีนั่นแหละแต่ด้วยสภาวะอากาศโลกที่ค่อนข้างแปลปรวนในช่วงหลังก็เลยทำให้อาจจะกำหนดวันและเวลาของช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบเต็มที่ค่อนข้างยาก คราวนี้ก็เช่นกัน
.
ตลาดเช้าถนนหงจ่วน
.
หมู่บ้านรัสเซีย
.
ตลาดเช้าเป่ยสือปา
.
หลักๆเราก็เดินถนนจงยาง(中央大街) ตลาดเช้าถนนหงจ่วน(红专早市) หมู่บ้านรัสเซีย (Volga Manor 伏尔加庄园) เกาะซันชายน์ (sunshine island 太阳岛)เพื่อขึ้นกระเช้าและเดินสวนสาธารณะแถวนั้นแล้วก็ตลาดเช้าเป่ยสือปา (北十八早市)
.
ที่ฮาร์บิน ซึ่งจริงๆเราคิดว่าในเมืองใหญ่ๆของเมืองจีน จะมีการเปิดตลาดเช้าเพื่อให้ประชาชนนำสินค้ามาขายโดยปิดถนนซึ่งปกติเป็นถนนที่รถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้ในช่วงเช้า เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Farmer market หรือ morning market แต่เรามักเจอคำจีนที่ใช้รวมๆ ว่าตลาดเช้า 早市 ที่หงจ่วนก็เหมือนกันเขาก็จะปิดถนนประมาณตั้งแต่ตี 5 ถึง 9:00 น ทุกคนก็จะรู้ร่วมกันว่าพอถึงเวลาจะมีเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำว่าจะต้องเก็บแผงสินค้าแล้วพ่อค้าแม่ค้าเขาก็จะรู้กันดี
.
เคยดูรายการของท่านอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ท่านเคยบอกว่าถ้าต้องการเรียนรู้บ้านเมืองไหน ให้หาเวลาเดินตลาดท้องถิ่น ที่ตลาดหงจ่วนอยู่ในบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวมากตลาดจึงมีพ่อค้าแม่ค้าที่นำของที่ระลึกมาขายอยู่พอสมควร วันก่อนจะเดินทางกลับ เช้าวันนั้นเราหาตลาดเช้าเดินเหมือนที่เคยทำ โดยการค้นหาจากแอพฯ แผนที่ไป่ตู้ ก็ได้ตลาดเช้าแห่งหนึ่งที่นั่งรถโดยสารประจำทางจากหน้าโรงแรมไอบิสไประยะเวลาประมาณ 40 นาที เรานั่งรถเมล์สาย 206
.
ตลาดชื่อเป่ยสือปาเจ่าซื่อ (北十八早市) ขึ้นที่ป้ายรถเมล์ตรงข้ามโรงเรมไปลงตรงข้ามตลาดที่ป้ายชื่อ 道台村站 ลักษณะตลาดก็เหมือนกันครับ เปิดตั้งแต่ 5:00 น จนถึงประมาณ 9:00 น (ตามป้ายบอก 8 โมง) ปิดถนนเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้ามาขายของตั้งแต่หัวถนนที่ติดกับถนนใหญ่โหย่วยีตงลู่ 友谊东路(youyidonglu) จนถึงปลายถนนที่ไปสุดที่แม่น้ำซงฮวา ( 松花江) ที่ผ่ากลางเมืองฮาร์บิน ตลาดนี้ค่อนข้างเป็นตลาดเกษตรกรที่บริสุทธิ์แทบไม่เห็นพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของที่ระลึกหรือของที่มีวัตถุประสงค์ขายนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่แผงเดียว นั่งรถเมล์จะสะดวกเพราะค่อนข้างห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพอสมควร
.
รถไฟฟ้าใต้ดินให้นั่งสาย 3 สีเหลือง ลงสถานี 清真寺 Harbin Mosque ห่างทางเข้าตลาดประมาณ 900 เมตร
.
สำหรับถนนจงยางและตลาดเช้าหงจ่วนเราสามารถเดินจากโรงแรม ibis ได้เลย
หมู่บ้านรัสเซียเรานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 สีเขียวลงสุดสายที่สถานี 气象台Meteorological observatory station แล้วต่อด้วยการเรียกรถ DiDi แบบ 6 ที่นั่งที่ค่อนข้างพรีเมี่ยมเลยทีเดียว
.
ที่จริงส่วนตัวก็เพิ่งทราบเหมือนกันจากการอ่านข้อมูลในเพจท่องเที่ยวฮาร์บินต่างๆใน facebook ว่าคนขับรถแท็กซี่โดยเฉพาะของ application เขาจะมีมาตรฐานในการปฏิบัติงาน เช่นการกล่าวต้อนรับ การตรวจสอบตัวตนของลูกค้า (คือปกติเวลาเราขึ้นรถเรียกจากแอป DiDi จะต้องบอกเลข 4 ตัวหลังของเบอร์โทรศัพท์ของเราทุกครั้งเป็นการยืนยันตัวตน) ให้คำแนะนำเบื้องต้นโดยเฉพาะให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย รถบางประเภทจะมีน้ำดื่มให้บริการฟรีด้วย โดยเฉพาะรถที่ราคาแพงหน่อยหรือรถแบบ 6 ที่นั่งที่เราเรียก
.
ส่วนขากลับจากหมู่บ้านรัสเซีย ทีแรกเราก็รอเรียก DiDi ครับแต่ไม่มีใครรับ รออยู่สักพักนึงก็มีสาวจีนคนหนึ่งเดินเข้ามาทักว่าเรากำลังจะกลับไปที่โบสถ์เซนต์โซเฟียหรือไม่ (ทักถามเป็นภาษาอังกฤษ) และมาสังเกตทีหลังคือมันจะมีรถบัสบริการรับนักท่องเที่ยวจากหมู่บ้านรัสเซียกลับเมืองฮาร์บินโดยสุดสายที่โบสถ์เซ็นโซเฟียอยู่ ในราคาคนละ 20 หยวน มีป้ายประชาสัมพันธ์ตั้งไว้บริเวณจุดจอดรถชัดเจน
.
สรุปแล้วเราทั้งหมด 5 คนก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่อาศัยรถบัสโดยสารคันนี้ซึ่งตอนหลังสุดๆรถบัสโดยสารขนาดใหญ่มีจำนวนผู้โดยสารน้อยเกินไปจึงถูกเปลี่ยนเป็นรถที่เล็กลงแต่ก็คิดราคาเท่าเดิมคือ 20 หยวนสแกนผ่าน WeChat pay และไปส่งเราที่เซ็นโซเฟียโดยไม่มีการตุกติกอะไร เราอยู่ที่ฮาร์บินและพักที่ ibis คืนวันที่ 24,25,26 ส่วนเช้าวันที่ 27 แล้วออกเดินทางมุ่งหน้าไปฉางไป่ซัน พักที่ฉางไป่ซัน 1 คืน(27 ต.ค. crown plaza) ฉางชุน 1 คืน (28 ต.ค. Atour X) แล้วกลับมาพักที่ ibis ที่เดิมคืนสุดท้าย (29/10/68)
.
(เดี๋ยวมาต่อฉางชุนกับฉางไป๋ซานครับ^^)
-----------
คุณหมูยอ
เดินทาง 23-31 ตุลาคม 2568
บันทึก 17 พฤศจิกายน 2568
ฤดูใบไม้ร่วงที่ฮาร์บิน,ฉางชุนและฉางไป๋ซาน
เรื่องการเดินทางในเมืองจีนทางรถไฟฟ้าใต้ดินและรถโดยสารประจำทางเราเคยเขียนแนะนำไปในกระทู้ก่อนๆแล้วแต่โดยสรุปอาศัยเปิดบัตรโดยสารทาง application alipay ซึ่งเราสามารถผูกบัตรเครดิตหรือบัตรท่องเที่ยวใน alipay ได้เลย แต่กรณีถ้าไม่สามารถผูกบัตรเครดิตหรือคนที่ไม่มีบัตรเครดิต, บัตรท่องเที่ยวก็สามารถใช้ application truemoney ในการซื้อบัตรโดยสารเป็นครั้งๆ ตู้ซื้อบัตรโดยสารในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเมืองต่างๆของจีนไม่ค่อยมีคนใช้บริการครับและแทบไม่มีคิว เพราะเกือบทั้งหมดใช้มือถือเพียงเครื่องเดียว
.
เรามีเพื่อนร่วมทริปรวมทั้งหมด 5 คนเพื่อนอีก 3 คนเดินทางไล่เลี่ยกันแต่ไปกับสายการบินซานตงแอร์ไลน์จากสุวรรณภูมิเช่นกันไปลงชิงเต่า ตรวจคนเข้าเมืองและรอเครื่องประมาณ 8 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องที่ชิงเต่าเพื่อมุ่งหน้าลงฮาร์บินเช่นกัน เข้าเมืองโดยนั่งรถบัสสนามบินสาย 3 ลงป้ายถนนจงยาง กดซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้อัตโนมัติเลือก 中央大街 ค่าโดยสารคนละ 20 หยวนแสกนจ่ายด้วย Alipay ส่วนขากลับจ่ายเงินโดยเงินสดหรือสแกน wechat pay ขึ้นรถก่อนแล้วไปจ่ายเงินบนรถ
ที่พักที่ฮาร์บินเรายังคงพักที่โรงแรมไอบิส บริเวณหัวถนนจงยาง ซึ่งเป็นถนนคนเดินยอดนิยมที่สุดสำหรับคนที่มาเที่ยวฮาร์บิน บรรยากาศของฮาร์บินในแต่ละฤดูก็จะค่อนข้างต่างกันถ้าเป็นฤดูหนาวทุกที่ก็จะเต็มไปด้วยหิมะและประติมากรรมน้ำแข็งแต่ถ้าเป็นฤดูอื่นเมื่อน้ำแข็งละลายแล้วประติมากรรมเหล่านั้นก็จะหายไปทั้งหมดเหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่าและสวนสาธารณะปกติเท่านั้นเอง คราวนี้ถือว่าเป็นฤดูใบไม้ร่วงจริงๆตั้งใจจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีนั่นแหละแต่ด้วยสภาวะอากาศโลกที่ค่อนข้างแปลปรวนในช่วงหลังก็เลยทำให้อาจจะกำหนดวันและเวลาของช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบเต็มที่ค่อนข้างยาก คราวนี้ก็เช่นกัน
.
หลักๆเราก็เดินถนนจงยาง(中央大街) ตลาดเช้าถนนหงจ่วน(红专早市) หมู่บ้านรัสเซีย (Volga Manor 伏尔加庄园) เกาะซันชายน์ (sunshine island 太阳岛)เพื่อขึ้นกระเช้าและเดินสวนสาธารณะแถวนั้นแล้วก็ตลาดเช้าเป่ยสือปา (北十八早市)
.
สำหรับถนนจงยางและตลาดเช้าหงจ่วนเราสามารถเดินจากโรงแรม ibis ได้เลย