โอเค ขอเล่าแบบสตอรี่ยาว ๆ หน่อยนะคะ 🩷
ตอนอายุ 27 เราเป็นแอร์กราวน์ ชุดเหลืองคือยูนิฟอร์มประจำวัน โลกของเราคือเคาน์เตอร์ เช็คอิน และไฟลต์ที่วิ่งเข้าออกตลอดเวลา แต่มุมเล็ก ๆ ในหัวก็ยังติดอยู่กับคำถามเดิม ๆ ทุกครั้งที่ต้องถ่ายรูปโปรไฟล์หรือขึ้นพรีเซนต์งาน—หน้ามันดูแบนไปนิด กล้องจับมิติไม่ค่อยเจอ ถึงแต่งหน้าหนักก็ยังรู้สึกไม่สุด เวลาเพื่อนชวนถ่ายรูปข้างหน้าต่างสวย ๆ ที่คาเฟ่ เราจะยืนเอียง ๆ จับมุมเดิมเสมอ กลัวเห็นด้านข้าง
มีคืนหนึ่งนั่งเลื่อนรูปเก่า ๆ ในมือถือจนตีหนึ่ง เห็นภาพตัวเองตอนหัวเราะในห้าง ดูสดใสทุกอย่าง ยกเว้นความมั่นใจที่เหมือนยังขาดไปหน่อย เลยเริ่มหาข้อมูลจริงจัง อ่านรีวิว ดูเคสที่หน้าคล้ายเรา แล้วก็ตัดสินใจทำค่ะ (เราทำที่ ED Clinic )
สัปดาห์แรกคือบทเรียนเรื่อง “ใจเย็น” ล้วน ๆ นอนหงายอย่างเดียว จับจมูกเบามากก ประคบเย็นเป็นเพื่อนสนิท และขอพักหมูกระทะชั่วคราว 555 มันไม่ได้ดราม่าขนาดต้องลางาน แต่ต้องค่อย ๆ ทำทุกอย่างเหมือนถือแก้วน้ำเต็มปริ่ม ๆ อยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปเดือนหนึ่ง รูปที่ถ่ายข้างพุ่มไม้หน้าบ้านทำให้เรายิ้ม—หน้ามีมิติขึ้นแบบไม่ต้องเพิ่งคอนทัวร์เยอะ แต่งหน้าเบา ๆ ก็อยู่
ครบปีแรก เราเพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนถึงบอกว่า “ศัลยกรรมที่ดีคือดูไม่ออก” เพราะไม่มีใครทายถูก เขาแค่ทักว่าเราดูสดใสขึ้น ตัวเราเองต่างหากที่รู้ว่า เวลาเปิดกล้องวิดีโอคอลหรือยืนพรีเซนต์กลางแดดช่วงเย็น ๆ ใจมันนิ่งกว่าเดิมเยอะ ไม่ต้องคอยหันหาราวบันไดบังจมูกอีกต่อไป
ผ่านมาสามปี ชีวิตเปลี่ยนจากแอร์กราวน์มาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว รูปบนหาดตอนพระอาทิตย์ตกทำให้คิดถึงวันนั้นที่กล้าใส่เดรสเปิดไหล่โดยไม่ต้องเช็คมุมซ้ายขวาเป็นสิบครั้ง จมูกไม่เบี้ยวไม่เอียง อยู่ทรงเหมือนปีแรก ความสวยอาจเป็นเหตุผลที่เริ่ม แต่สิ่งที่ได้กลับมามากกว่านั้นคือ “พื้นที่ว่างในหัว” ที่ไม่ต้องกังวลว่ามุมไหนดีเวลาเจอลูกค้า หรือจะถ่ายรูปโปรโมตแบรนด์ของตัวเองยังไง มันเหมือนปลดล็อกความกล้าตัวเล็ก ๆ ให้เราออกไปทำสิ่งที่อยากทำแบบไม่เขอะเขิน
ถ้าใครกำลังชั่งใจอยู่ ลองถามตัวเองเหมือนที่เราถามวันนั้นว่า “อยากดูดีขึ้นในแบบที่ยังเป็นเราไหม” ถ้าใช่ ให้เวลาในการหาข้อมูล เลือกเคสที่หน้าใกล้เรา และอย่าลืมใจเย็นกับช่วงพักฟื้นนิดนึง แค่เท่านี้พอ
ช่วงนี้เห็นคนไปทำที่จีน ที่เกาหลีกันเยอะ แอบคิดหมอไทยก็เริ่ดอยู่ มีใครทำจมูกในไทยมาเหมือนกันบ้าง มาแชร์กันค่า เผื่อช่วยคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ 🙂
[CR] แชร์ประสบการณ์เสริมจมูกครบ 3 ปี จากแอร์กราวน์สู่นักธุรกิจ ที่กล้าเปิดหน้าสดมากขึ้น
ตอนอายุ 27 เราเป็นแอร์กราวน์ ชุดเหลืองคือยูนิฟอร์มประจำวัน โลกของเราคือเคาน์เตอร์ เช็คอิน และไฟลต์ที่วิ่งเข้าออกตลอดเวลา แต่มุมเล็ก ๆ ในหัวก็ยังติดอยู่กับคำถามเดิม ๆ ทุกครั้งที่ต้องถ่ายรูปโปรไฟล์หรือขึ้นพรีเซนต์งาน—หน้ามันดูแบนไปนิด กล้องจับมิติไม่ค่อยเจอ ถึงแต่งหน้าหนักก็ยังรู้สึกไม่สุด เวลาเพื่อนชวนถ่ายรูปข้างหน้าต่างสวย ๆ ที่คาเฟ่ เราจะยืนเอียง ๆ จับมุมเดิมเสมอ กลัวเห็นด้านข้าง
มีคืนหนึ่งนั่งเลื่อนรูปเก่า ๆ ในมือถือจนตีหนึ่ง เห็นภาพตัวเองตอนหัวเราะในห้าง ดูสดใสทุกอย่าง ยกเว้นความมั่นใจที่เหมือนยังขาดไปหน่อย เลยเริ่มหาข้อมูลจริงจัง อ่านรีวิว ดูเคสที่หน้าคล้ายเรา แล้วก็ตัดสินใจทำค่ะ (เราทำที่ ED Clinic )
สัปดาห์แรกคือบทเรียนเรื่อง “ใจเย็น” ล้วน ๆ นอนหงายอย่างเดียว จับจมูกเบามากก ประคบเย็นเป็นเพื่อนสนิท และขอพักหมูกระทะชั่วคราว 555 มันไม่ได้ดราม่าขนาดต้องลางาน แต่ต้องค่อย ๆ ทำทุกอย่างเหมือนถือแก้วน้ำเต็มปริ่ม ๆ อยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปเดือนหนึ่ง รูปที่ถ่ายข้างพุ่มไม้หน้าบ้านทำให้เรายิ้ม—หน้ามีมิติขึ้นแบบไม่ต้องเพิ่งคอนทัวร์เยอะ แต่งหน้าเบา ๆ ก็อยู่
ครบปีแรก เราเพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนถึงบอกว่า “ศัลยกรรมที่ดีคือดูไม่ออก” เพราะไม่มีใครทายถูก เขาแค่ทักว่าเราดูสดใสขึ้น ตัวเราเองต่างหากที่รู้ว่า เวลาเปิดกล้องวิดีโอคอลหรือยืนพรีเซนต์กลางแดดช่วงเย็น ๆ ใจมันนิ่งกว่าเดิมเยอะ ไม่ต้องคอยหันหาราวบันไดบังจมูกอีกต่อไป
ผ่านมาสามปี ชีวิตเปลี่ยนจากแอร์กราวน์มาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว รูปบนหาดตอนพระอาทิตย์ตกทำให้คิดถึงวันนั้นที่กล้าใส่เดรสเปิดไหล่โดยไม่ต้องเช็คมุมซ้ายขวาเป็นสิบครั้ง จมูกไม่เบี้ยวไม่เอียง อยู่ทรงเหมือนปีแรก ความสวยอาจเป็นเหตุผลที่เริ่ม แต่สิ่งที่ได้กลับมามากกว่านั้นคือ “พื้นที่ว่างในหัว” ที่ไม่ต้องกังวลว่ามุมไหนดีเวลาเจอลูกค้า หรือจะถ่ายรูปโปรโมตแบรนด์ของตัวเองยังไง มันเหมือนปลดล็อกความกล้าตัวเล็ก ๆ ให้เราออกไปทำสิ่งที่อยากทำแบบไม่เขอะเขิน
ถ้าใครกำลังชั่งใจอยู่ ลองถามตัวเองเหมือนที่เราถามวันนั้นว่า “อยากดูดีขึ้นในแบบที่ยังเป็นเราไหม” ถ้าใช่ ให้เวลาในการหาข้อมูล เลือกเคสที่หน้าใกล้เรา และอย่าลืมใจเย็นกับช่วงพักฟื้นนิดนึง แค่เท่านี้พอ
ช่วงนี้เห็นคนไปทำที่จีน ที่เกาหลีกันเยอะ แอบคิดหมอไทยก็เริ่ดอยู่ มีใครทำจมูกในไทยมาเหมือนกันบ้าง มาแชร์กันค่า เผื่อช่วยคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ 🙂
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้