อ่านเล่มนี้จบมาเกือบเดือนแล้ว ยังหาเวลารีวิวไม่ได้สักที แต่เป็นอีกเล่มที่อยากแนะนำจริง ๆ ครับ
เมื่อวานผมดูสารคดี End Game ทาง Netflix แล้วดันนึกถึง Pet Sematary ขึ้นมาทันที ในหนังสือพูดถึงชีวิตของคุณหมอลูอิสที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแมว ลูกชาย และภรรยา ทั้งที่อาชีพหมอคือคนที่ต้องเห็นความตายเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเหตุการณ์นั้นมันเกิดกับครอบครัวของตัวเอง เขากลับรับไม่ได้ และทำให้ทุกอย่างพังลงอย่างน่าเศร้า
ส่วนสารคดี End Game พูดถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care) การรักษาที่ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการดูแลอย่างดีที่สุดโดยไม่ยื้อ ไม่ใส่ท่อ ไม่เจาะคอ ไม่ปั๊มหัวใจ เพื่อให้ผู้ป่วยจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ท่ามกลางคนที่รัก ทว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดกลับไม่ใช่สภาพร่างกายของผู้ป่วย แต่คือ “หัวใจของญาติ” ที่ยังไม่พร้อมปล่อย… คล้ายกับเรื่องใน Pet Sematary เลยครับ
ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นผมอายุราว 13 ปี คุณตาป่วยหนัก และเลือกกลับมารักษาตัวที่บ้าน ท่ามกลางลูกหลาน วาระสุดท้ายของท่าน ผมยังจำได้แม่น มือของผมที่กุมมือที่อ่อนแรงของคุณตา ปากของผมที่แนบข้างหูของคุณตา เพื่อยืนยันชาฮาดะในวิถีมุสลิม เมื่อท่านได้กล่าวชาฮาดะอันแพรวเบา ท่านก็จากพวกเราไปอย่างสงบที่สุด
มันเป็นความเศร้าที่ปนความสุขใจแบบอธิบายไม่ถูก ผมประทับใจเหตุการณ์นั้นมาตลอด จนวันนี้ถึงเข้าใจว่ามันคือ นั่นคือ “ความงดงามของชีวิต”
ความตายเป็นเรื่องที่ความปวดร้าวและงดงามในเวลาเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความตายก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเองครับ
ริฎวาน ศอลิห์วงศ์สกุล
สะท้อนคิดผ่านหนังสือ Pet Sematary ของ Stephen K.
เมื่อวานผมดูสารคดี End Game ทาง Netflix แล้วดันนึกถึง Pet Sematary ขึ้นมาทันที ในหนังสือพูดถึงชีวิตของคุณหมอลูอิสที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแมว ลูกชาย และภรรยา ทั้งที่อาชีพหมอคือคนที่ต้องเห็นความตายเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเหตุการณ์นั้นมันเกิดกับครอบครัวของตัวเอง เขากลับรับไม่ได้ และทำให้ทุกอย่างพังลงอย่างน่าเศร้า
ส่วนสารคดี End Game พูดถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care) การรักษาที่ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการดูแลอย่างดีที่สุดโดยไม่ยื้อ ไม่ใส่ท่อ ไม่เจาะคอ ไม่ปั๊มหัวใจ เพื่อให้ผู้ป่วยจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ท่ามกลางคนที่รัก ทว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดกลับไม่ใช่สภาพร่างกายของผู้ป่วย แต่คือ “หัวใจของญาติ” ที่ยังไม่พร้อมปล่อย… คล้ายกับเรื่องใน Pet Sematary เลยครับ
ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นผมอายุราว 13 ปี คุณตาป่วยหนัก และเลือกกลับมารักษาตัวที่บ้าน ท่ามกลางลูกหลาน วาระสุดท้ายของท่าน ผมยังจำได้แม่น มือของผมที่กุมมือที่อ่อนแรงของคุณตา ปากของผมที่แนบข้างหูของคุณตา เพื่อยืนยันชาฮาดะในวิถีมุสลิม เมื่อท่านได้กล่าวชาฮาดะอันแพรวเบา ท่านก็จากพวกเราไปอย่างสงบที่สุด
มันเป็นความเศร้าที่ปนความสุขใจแบบอธิบายไม่ถูก ผมประทับใจเหตุการณ์นั้นมาตลอด จนวันนี้ถึงเข้าใจว่ามันคือ นั่นคือ “ความงดงามของชีวิต”
ความตายเป็นเรื่องที่ความปวดร้าวและงดงามในเวลาเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความตายก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเองครับ
ริฎวาน ศอลิห์วงศ์สกุล