== Kopitiam days (2025) ร้านกาแฟ.. สื่อรัก.... ==



คณะงิ้วอิสระที่กำลังต้องการผู้สนับสนุนเพื่อเปิดการแสดงโชว์ต่อ...
หญิงชราหัวดื้อกำลังมีปัญหากับหุ่นยนต์รับใช้ตัวใหม่ที่ลูกสาวซื้อมาให้อยู่เป็นเพื่อน
หญิงสาวที่อยู่ต่างแดน ต้องการหาซาวน์ที่เป็นธรรมชาติของบ้านเกิด
ความรักระหว่างคนสองคนที่มีความเชื่อทางศาสนาอันแตกต่างเป็นอุปสรรค
การผจญภัยระหว่างอากงกับหลานสาว เพื่อตามหาโทรศัพท์หยอดเหรียญเก่าของอากง...



จากประเทศเล็ก ๆ บนเกาะที่ไม่มีทรัพยากรใดๆเลย ผ่านกาลเวลาไม่นานจนในที่สุด
สิงคโปร์สามารถพัฒนาขึ้นมากระทั่งกลายเป็นรัฐชาติที่มีความเจริญก้าวหน้า ทันสมัย และได้รับการยอมรับในระดับโลก
โดยความสําเร็จนี้เป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ของผู้นำ รวมไปถึงความมุ่งมั่นของชาวสิงคโปร์ทุกคนจนถึงทุกวันนี้
เราต้องยอมรับอย่างหมดใจเลยว่า สิงคโปร์คือชาติเล็กๆที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์อย่างแท้จริง



แต่แม้จะผ่านมาในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเอาวิถีชีวิต
ของชนชาวสิงคโปร์เอาไว้ได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือ อาหารมื้อเช้า..ร้านกาแฟเก่านั่นเอง
จนมาเป็นเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ KOPITIAM DAYS
ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ 



ฮีปเซงเหลียง คือร้านกาแฟที่เชื่อมโยงทุกเหตุการณ์ร้อยเรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ผ่านแต่ละยุคสมัย ถ่ายทอดผ่านผู้กำกับ 6 ท่านด้วยกัน เอาจริงๆ ผมดูหนังเรื่องนี้เพราะใบปิดก่อนเลยนะ สวยดี
และที่สำคัญผมชอบร้านกาแฟเก่าๆ แบบนี้มาก



วัฒนธรรมการกินในแถบอินโดไชน่า บ้านเราก็คล้ายๆกัน กาแฟ นม ขนมปังปิ้ง ทาเนยหอม
ไม่ก็จิ้มสังขยา มีไข่ลวก ใครไม่กินกาแฟก็มีชาร้อน ไม่ก็โกโก้หอมกรุ่น ..
ถ้าคุณเคยเข้าร้านกาแฟแบบนี้จะรู้ว่ามันมีเสน่ห์บางอย่างที่ไม่เหมือนร้านอาหารแบบไหน
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ร้านเบเกอรี่สวยๆ หรือคาเฟ่สมัยใหม่ไม่มีทางลอกเลียนแบบได้ แม้ว่าจะทำร้านให้ดูวินเทจยังไงก็ตาม



ผู้สร้างเลยเอาจุดนี้มาเป็นธีมหลักของหนังครับ คำว่า KOPITIAM "Kopi" (โกปี๊) แปลว่า กาแฟ ในภาษาจีนฮกเกี้ยนและภาษามลายู
ส่วน tiam อ่านว่าเตี๊ยมก็แปลว่าร้านค้า สรุปง่ายๆก็แปลว่าร้านกาแฟน่ะล่ะ ..
โดยสิงคโปร์นั้นเป็นชาติเล็กๆที่มีความหลากหลายทางชนชาติและวัฒนธรรมสูงมาก
มีทั้งมลายู.. ทมิฬ.. จีนตอนใต้ฮกเกี้ยน ไหหลำ ฯลฯ แต่ทุกคนก็อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข



แล้วร้านกาแฟนี้จะเชื่อมโยงทุกเหตุการณ์ได้ยังไงล่ะ ตรงนี้ล่ะครับที่น่าสนใจ
แม้ว่าจะเปิดเรื่องออกมาเป็นหนังตลกแฟนตาซีไปสักนิด แต่หลังจากนั้นความโรแมนติค ดราม่า ก็มาเต็ม
มีการเชื่อมโยงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติของเขาด้วยในช่วงนึง
ซึ่งถ้าเป็นคนสิงคโปร์ได้รับชมก็คงสะเทือนใจน่าดู
เป็นเหตุวินาศภัยที่น่าจะรุนแรงที่สุดของชาติเค้าล่ะครับเกิดขึ้นในปี 1985 ต้องไปดูเอาเองว่าคืออะไร



1 เรื่องเปิดนำ และอีก 5 ตอนสั้นๆ ตอนละราว 20 นาที ผมชอบมากๆ มีทั้งความอบอุ่น เศร้าสะเทือนใจ
ถ้าไม่นับตลกตอนต้นเรื่องที่ผมมองว่ามันดูล้นๆไปหน่อย โดยรวมถือว่าประทับใจ ดูง่าย
และเข้าถึงอารมณ์คนไทยได้อย่างแน่นอนครับ เนื่องจากบริบทสังคม วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเราที่ดูไม่ต่างกันนัก
ทำให้อินได้ไม่ยาก (มีเอ่ยถึงประเทศไทยในหนังด้วยนะ แวบๆ)



เป็นหนังที่เล่าเรื่องของคนทุกเจน ความผูกพันของคนในครอบครัว การทำความเข้าใจระหว่างคนแต่ละรุ่น
ที่แม้ว่าโลกปัจจุบันจะทำให้ช่องว่างระหว่างวัยจะเริ่มห่างมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็สามารถเข้าอกเข้าใจกันได้ไม่ยาก
หากว่ามีโอกาสได้พูดคุยกัน และปรับตัวเข้าหา รวมไปถึงยังมีเรื่องของโลกอนาคต
ที่ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทในชีวิตในอนาคต ส่วนตัวผมชอบตอนนี้มากที่สุดหุ่นยนต์น่ารักมากกก



ผมเชื่อว่าเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ ต้องมีหลายคนที่อยากไปนั่งในสภากาแฟตอนเช้าๆ จิบกาแฟร้อนๆ
พร้อมขนมปังปิ้งทาเนย ไข่ลวกเหยาะพริกไทย ปล่อยวางจากมือถือมามองบรรยากาศผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้าน ..
ความสุขง่ายๆที่เราอาจจะละเลยและมองข้ามไป ลองดูนะครับ มันดีจริงๆนะ

เพราะหนังมันฝังใจ

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่