นิยายสไตล์บทละคร ยังจะมีใครชอบอ่านไหม ?

กระทู้คำถาม
ผมเขียนนิยายเรื่องนึง แต่มันไม่ใช่นิยายแบบร้อยแก้วที่เหมือนใครหลายคนอ่านกัน มันจะคล้ายๆกับบทภาพยนตร์บทซีรี่ย์ถ้าใครเคยเห็นหน้าตามันนะ แต่ก็ไม่ได้เหมือนแบบเป๊ะซะทีเดียวจะยังมีการอธิบายความคิดตัวละครและบรรยากาศบางอย่างอยู่ เดี๋ยวผมจะตัดส่วนนึงของนิยายผมมาเป็นตัวอย่างให้ดูนะครับ
          หลังจบคาบเรียนสุดท้ายของวัน ก็เข้าคาบโฮมรูม ทุกคนต้องไปพบคุณครูที่ปรึกษาเพื่อพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ก่อนกลับบ้าน คุณครูที่ปรึกษาห้อง 5/7 คุณครู นิลุบล หรือครูบัว เด็ก ๆ จะเรียกว่าแม่บัว  เพราะเป็นคนที่เด็ก ๆ คุยด้วยสบายใจ ไม่เคยใช้อารมณ์หรือเอาปัญหามาลงกับเด็ก และดูแลใส่ใจปัญหาของเด็ก ๆ เป็นอย่างดี  ปีนี้อายุแม่บัวก็เข้า เลข 4 แล้ว  

ครูบัว   :  (เปิดดูใบรายชื่อ) เปิดเรียนวันที่สองแล้ว ผิงอัน ยังมาสายต่อกันสองวันเลยนะ
พิมมา   :  ผิงอันมาตอนเที่ยงได้ 2 วันแล้วค่ะแม่ (พูดด้วยความยียวนกวนประสาท)
ผิงอัน    :  (หันไปมองพิมมาทำหน้าอรุ่มเจ๊าะ) ไม่ต้องพูดดด
ครูบัว   :  (พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่เต็มไปด้วยความห่วงใย)  เบา ๆ ลงบ้างนะลูก เรื่องเที่ยวกลางคืนนะ เที่ยววันหยุดก็พอ พ่อเราก็ยิ่งดุอยู่ พิมมาก็เหมือนกัน เป็นสาวเป็นแส้ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ นะ
พิมมา  :  ค่ะ
ผิงอัน   :  ครับ
ครูบัว   :  แล้ว กุยช่ายวันนี้ก็ขาดเรียนใช่ไหม ได้ถามเพื่อนหรือเปล่าว่าเป็นไร ?
โดนัท   :  โทรไปก็ไม่รับทักไปก็ไม่ตอบเลยครับแม่  เย็นนี้พวกผมว่าจะไปหาที่บ้านดูครับ ว่ากุยช่ายอยู่บ้านหรือเปล่า
ครูบัว   :  งั้นแม่ก็ฝากดูเพื่อนด้วยนะ เพื่อนอยู่ตัวคนเดียวมีไรก็ให้ช่วยเหลือดูแลกัน ถ้ามีปัญหาอะไรโทรหาแม่ได้เสมอเลยนะ ไปกันเงียบๆ อย่ารบกวนเพื่อนบ้านเขาล่ะ
โดนัท   :  ครับแม่
ครูบัว   :  (มองหาไพลิน) ไพลิน หนูจะกลับบ้านก่อนใช่ไหม แม่หนูโทรมาบอกครูแล้ว
ไพลิน   :  ใช่ค่ะ เพื่อนหนูไปส่งด้วย ต้องขอกลับก่อนหมดเลยนะคะ
ครูบัว   :  จ้า.. รีบกลับเถอะ ส่งไพลินแล้วก็รีบกลับบ้านใครบ้านมันนะ อย่าเถลไถลล่ะ
แก๊งเคโระ  :  ค่ะแม่ขอบคุณค่ะ
  
         หลังจากที่ครูบัว คุยกับนักเรียนและเซ็นใบรายชื่อเสร็จ ก็ได้ปล่อยนักเรียนไปตามอัธยาศัย บ้างก็ไปเข้าชมรม บ้างกลับบ้าน  โรงเรียนนี้จะปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านได้ตั้งแต่เวลา 15 : 20 น.  เพราะ นโยบายของโรงเรียนคือ แทนที่จะปล่อยพร้อมกันให้รถติดแออัด แต่ปล่อยให้นักเรียนที่หมดธุระทยอยกลับก่อน นักเรียนที่มีกิจกรรมค่อยกลับทีหลัง นอกจากจะทำให้รถไม่ติดแล้ว ยังช่วยให้นักเรียนฝึกบริหารเวลาตัวเองได้อีกด้วย นักเรียนที่ไม่มีกิจกรรมก็สามารถเลือกได้ว่าจะรีบกลับไปทำธุระที่บ้านหรืออยู่ทำงานที่โรงเรียนก่อนก็ได้  นี้เป็นผลงานของกลุ่มสภานักเรียนในอดีต ที่เสนอนโยบายตอนลงเลือกตั้งประทานนักเรียนว่าจะช่วยผลักดันเรื่องนี้ และก็ทำมันจนสำเร็จ ประทานนักเรียนและสภานักเรียนทั้ง 7 คนนั้น จึงโดนยกยอจากรุ่นน้องให้เป็น 7 เทพนักเรียนตลอดกาล (คนตั้งเรียนแบบการ์ตูนชื่อดัง)  


ประมาณนี้ครับ พูดตรงๆผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรือใครให้ปรึกษาเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่เท่าที่ผมเคยรู้มานะครับ เหมือนนั่งอ่านบางคนเขาก็ชอบอ่านข้ามๆ อ่านเฉพาะ​ไดอะล็อกครับ
แต่เวลาเปิดสถานที่ใหม่ผมก็จะเขียนอธิบายพอสังเขปเห็นภาพในระดับหนึ่ง เช่น หลังบ้านมีลำธารเล็กๆไหลเชี้ยวบรรยากาศร่มรื่นสงบเย็นสบายต้นไม้ใหญ่น้อยสลับกันไป บางครั้งเวลาฝนตกจะมีฝูงปลาออกมากระโดดโลดเต้นข้ามลำธารไปมา  ประมาณนี้
ผมเคยปรึกษาAIทีนึง มันก็บอกว่า มันข้ามฉากเร็วเกินไป คือก็ใช่ครับผมเขียนว่า[​ที่โรงอาหาร​]​แล้วก็ตัดเข้าบทสนทนาทันที เพราะผมคิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องอธิบายถึงเสียงกริ่งจำนวนคนร้านอาหารแถวที่นั่ง หรือบรรยากาศวุ่นวายแบบไหน ผมคิดว่าทุกคนก็เคยเป็นนักเรียนแล้วไปที่โรงอาหารมาก่อน ก็เลยไม่ได้อธิบายอะไรตรงนี้ สรุปแล้วผมไม่รู้ว่าแบบนี้มันจะมีข้อเสียอะไรหรือเปล่า  
วอนนักเขียนนักอ่านอาจารย์ทุกท่านโปรดชี้แนะกับกระผมด้วยขอรับ🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่