มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: ผลกระทบ 10 มิติระดับทวีป

กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์— มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลกระทบ 10 มิติระดับทวีป


บทคัดย่อ (Abstract)
สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) หมายถึงชุดแนวคิดและยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ริเริ่มและผลักดันโดย ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายกสมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ (2528-2535)  ซึ่งได้พลิกโฉมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสร้างผลกระทบเชิงโครงสร้างในระดับประเทศและระดับทวีปเอเชียอย่างลึกซึ้ง บทความนี้วิเคราะห์ผลลัพธ์ของ Sukavichinomics ใน 10 มิติระดับทวีป ครอบคลุมด้านโครงสร้างพื้นฐานกีฬา การแพทย์ การศึกษา การคมนาคม การพัฒนาเมือง การวิจัย และทุนมนุษย์

หัวใจของแนวคิดคือการยกระดับธรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์สู่การเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งชาติแบบครบวงจร” ที่บูรณาการองค์ความรู้ 3 แกนหลัก ได้แก่ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสุขภาพ พร้อมการสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับทวีป เช่น Thammasat Sports Complex, หมู่บ้านเอเชียนเกมส์, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ, และ University Town รังสิต รวมถึงระบบคมนาคมระดับชาติที่ออกแบบเพื่อรองรับกิจกรรมระดับเอเชีย

ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า Sukavichinomics ส่งผลกระทบใน 10 มิติ ได้แก่ (1) โครงสร้างพื้นฐานกีฬาเอเชีย (2) มรดกหมู่บ้านนักกีฬาทวีป (3) การเปลี่ยนผ่านทุนมนุษย์อาเซียน (4) ศูนย์การแพทย์ข้ามพรมแดน (5) โครงสร้างวิชาการระดับทวีป (6) เศรษฐกิจกีฬาข้ามภูมิภาค (7) โมเดลการพัฒนาเมืองแบบ University Town (8) โครงข่ายคมนาคมระดับชาติที่รองรับเอเชีย (9) ระบบการบูรณาการกีฬา–แพทย์–วิทยาศาสตร์ และ (10) มรดกระยะยาวกว่า 25 ปีที่ยังสร้างประโยชน์ให้ภูมิภาค

ข้อค้นพบยืนยันว่า Sukavichinomics ไม่ใช่เพียงการปฏิรูปมหาวิทยาลัย หากแต่เป็น นโยบายพัฒนาประเทศและภูมิภาค ที่มีผลกระทบยั่งยืน ครอบคลุมด้านสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และความร่วมมือระหว่างประเทศของเอเชียในระยะยาว บทความนี้จึงชี้ให้เห็นว่า Sukavichinomics เป็นหนึ่งในโมเดลการพัฒนาที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และเป็นรากฐานสำคัญของการยกระดับศักยภาพมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐานของไทยสู่มาตรฐานทวีปเอเชีย


บทนำ (Introduction)
ช่วงทศวรรษ 2520–2530 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม การเปิดประเทศสู่โลกาภิวัตน์ และความต้องการทุนมนุษย์คุณภาพสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสาธารณสุขเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยไทยจำนวนมากยังคงมีโครงสร้างทางวิชาการแบบดั้งเดิม เน้นเฉพาะสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ส่งผลให้ระบบอุดมศึกษาของประเทศขาดความสามารถในการตอบสนองต่อความท้าทายระดับทวีปและระดับโลก

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะสถาบันที่มีบทบาทสำคัญด้านประชาธิปไตย กฎหมาย และปัญญาสาธารณะ ได้เผชิญข้อจำกัดเชิงโครงสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว โดยยังไม่มีการขยายตัวไปสู่สาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม หรือสุขภาพอย่างเป็นระบบ แม้จะมีความเข้มแข็งด้านสังคมศาสตร์เป็นพื้นฐานก็ตาม สถานการณ์นี้ทำให้ธรรมศาสตร์ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศที่กำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี
ภายใต้บริบทนี้เอง ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในบทบาท นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายกสมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พ.ศ. 2528–2535) ได้เสนอแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ที่พลิกโฉมอนาคตของมหาวิทยาลัยอย่างสิ้นเชิง แนวคิดนี้ต่อมาถูกเรียกว่า “สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics)” ซึ่งมีฐานคิดสำคัญว่าธรรมศาสตร์ควรยกระดับบทบาทจากการเป็นมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์ ไปสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งชาติแบบครบวงจร” (National Comprehensive University) ที่สามารถพัฒนาองค์ความรู้ ครอบคลุมทั้งด้านสังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสุขภาพ
Sukavichinomics เป็นมากกว่านโยบายขยายคณะหรือการก่อสร้างอาคาร แต่เป็นการวาง “สถาปัตยกรรมเชิงอุดมการณ์” ของมหาวิทยาลัยในระยะยาว ผ่านการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติและระดับทวีป เช่น

Thammasat Sports Complex เพื่อรองรับเอเชียนเกมส์และเป็นโครงสร้างกีฬาแห่งทวีป
หมู่บ้านเอเชียนเกมส์ ซึ่งเป็นโมเดลการใช้ประโยชน์หลังมหกรรมกีฬาที่ได้รับการยอมรับระดับเอเชีย
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ หนึ่งในต้นแบบของศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยที่พึ่งพาตนเอง
University Town รังสิต ซึ่งเป็นเมืองมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยที่ออกแบบตามมาตรฐานสากล
การพัฒนาและผลักดันโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมเมือง–มหาวิทยาลัย–สนามกีฬาในระดับเอเชีย
แนวคิดและโครงสร้างเหล่านี้ทำให้ธรรมศาสตร์เปลี่ยนผ่านจากมหาวิทยาลัยฝ่ายอุดมการณ์ สู่การเป็น ศูนย์กลางวิชาการ การแพทย์ การกีฬา และการวิจัยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบทบาทต่อทุนมนุษย์ การแข่งขันทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือระหว่างประเทศในระยะยาว
บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ผลลัพธ์ของ Sukavichinomics ใน 10 มิติระดับทวีป เพื่ออธิบายว่าเหตุใดการปฏิรูปในยุคนั้นจึงถือเป็นหนึ่งในโมเดลพัฒนาที่มีอิทธิพลที่สุดของภูมิภาค รวมถึงทำความเข้าใจมรดกทางนโยบายที่ยังคงส่งผลต่อประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาจนถึงปัจจุบัน


Literature Review
การศึกษาการพัฒนามหาวิทยาลัยและนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในงานวิจัยระหว่างประเทศ นักวิชาการหลายท่านเน้นการวิเคราะห์บทบาทของสถาบันอุดมศึกษาในการสร้างทุนมนุษย์ สนับสนุนเศรษฐกิจ และส่งเสริมความร่วมมือข้ามชาติ (Altbach, 2007; Teichler, 2009) ผลงานเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นเพียงแหล่งความรู้ภายในประเทศ แต่สามารถสร้างอิทธิพลต่อภูมิภาคได้หากมีโครงสร้างและนโยบายที่เอื้อต่อการวิจัยและการพัฒนาทุนมนุษย์

งานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนามหาวิทยาลัยไทยในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ระบุว่ามีความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านจากมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านสังคมศาสตร์ไปสู่มหาวิทยาลัยแบบครบวงจรที่บูรณาการสาขาวิชาหลากหลาย เช่น วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และสาธารณสุข (Phongpaichit & Baker, 1997; Hongsranagon, 2005) การเปลี่ยนผ่านนี้ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสามารถแข่งขันของประเทศ และสามารถตอบสนองต่อความท้าทายด้านเศรษฐกิจและสังคมระดับทวีปได้

นอกจากนี้ การพัฒนาสถาปัตยกรรมมหาวิทยาลัยเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การสร้าง University Town, Sports Complex, และ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ยังถูกเน้นว่าเป็นโมเดลสำคัญของ “การพัฒนาภูมิภาคผ่านมหาวิทยาลัย” (Marginson, 2011; Gumport, 2000) งานวิจัยเหล่านี้ยืนยันว่าการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงการศึกษา การแพทย์ การวิจัย และกีฬา สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือระดับเอเชียและระดับนานาชาติ

อย่างไรก็ดี งานวิจัยส่วนใหญ่ยังมุ่งเน้นกรณีศึกษาของมหาวิทยาลัยตะวันตกหรือมหาวิทยาลัยเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน สำหรับไทย การศึกษานโยบายเชิงยุทธศาสตร์ของ สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) ยังถือว่าน้อยและกระจัดกระจาย การวิเคราะห์ผลกระทบเชิงโครงสร้างใน 10 มิติระดับทวีป ของ Sukavichinomics จึงเป็นความพยายามใหม่ในการสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยไทยในเวทีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบูรณาการมิติด้านกีฬา การแพทย์ การศึกษา การวิจัย ทุนมนุษย์ และการพัฒนาเมือง

สรุปได้ว่า Literature Review แสดงให้เห็นช่องว่างทางวิชาการสำคัญ ดังนี้:
การศึกษาผลกระทบของมหาวิทยาลัยต่อระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีน้อย
การวิเคราะห์ Sukavichinomics ยังไม่เคยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน กีฬา การแพทย์ การศึกษา การพัฒนาเมือง และทุนมนุษย์
การวิจัยนี้จึงตอบโจทย์การประเมินนโยบายระดับทวีปและให้มุมมองใหม่เกี่ยวกับบทบาทมหาวิทยาลัยไทยในการสร้างอิทธิพลเชิงโครงสร้างต่อเอเชีย


Methodology (ระเบียบวิธีวิจัย)
การวิจัยนี้ใช้กรอบแนวคิดแบบ การวิเคราะห์เชิงคุณภาพและเชิงเปรียบเทียบระดับทวีป เพื่อประเมินผลกระทบของ Sukavichinomics ต่อ 10 มิติหลัก โดยมีระเบียบวิธีดังนี้:

การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

เอกสารเชิงประวัติศาสตร์และรายงานนโยบาย: รวมถึงรายงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกีฬาและ University Town, และเอกสารโครงการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
บทความวิชาการและรายงานวิจัยระหว่างประเทศ: งานวิจัยเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยครบวงจร, การพัฒนาทุนมนุษย์, การจัดการกีฬาและเมืองมหาวิทยาลัย (Altbach, 2007; Marginson, 2011; Teichler, 2009)
สัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง: เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย, นักวิชาการ, และผู้บริหารโครงการกีฬา/การแพทย์ระดับชาติและเอเชีย
การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

จำแนกข้อมูลตาม 10 มิติผลกระทบ ได้แก่:

โครงสร้างพื้นฐานกีฬาเอเชีย
มรดกหมู่บ้านนักกีฬาทวีป
การเปลี่ยนผ่านทุนมนุษย์อาเซียน
ศูนย์การแพทย์ข้ามพรมแดน
โครงสร้างวิชาการระดับทวีป
เศรษฐกิจกีฬาข้ามภูมิภาค
โมเดลการพัฒนาเมืองแบบ University Town
โครงข่ายคมนาคมระดับชาติที่รองรับเอเชีย
ระบบการบูรณาการกีฬา–แพทย์–วิทยาศาสตร์
มรดกระยะยาวกว่า 25 ปี

วิเคราะห์ ผลกระทบเชิงโครงสร้าง (structural impact) และ ผลลัพธ์เชิงนโยบาย (policy outcomes) ของแต่ละมิติ
การวิเคราะห์เปรียบเทียบ (Comparative Analysis)

เปรียบเทียบ Sukavichinomics กับ โมเดลการพัฒนามหาวิทยาลัยครบวงจรของเอเชียตะวันออกและตะวันตก
ประเมินความสำเร็จและความยั่งยืนในแง่ ทุนมนุษย์, โครงสร้างพื้นฐาน, เศรษฐกิจ และความร่วมมือระหว่างประเทศ
การวิเคราะห์เชิงเชื่อมโยง (Network Analysis)

ตรวจสอบการเชื่อมโยงระหว่าง กีฬา, การแพทย์, การศึกษา, และการพัฒนาเมือง
ประเมินว่ามรดกทางโครงสร้างและนโยบายของ Sukavichinomics สามารถสร้างผลกระทบ ข้ามประเทศและข้ามทวีป ได้อย่างไร
การประเมินผลเชิงสรุป (Impact Assessment)

สรุป บทบาท Sukavichinomics ในการยกระดับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สู่ศูนย์กลางวิชาการ การแพทย์ และกีฬาในภูมิภาค
วิเคราะห์ ความยั่งยืนและผลต่อภูมิภาคอาเซียน ในระยะยาว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่