KEY POINTS
นายกฯ มาเลเซียยืนยันกับอนุทินว่า ประธานาธิบดีทรัมป์รับปากจะแยกประเด็นการเจรจาภาษีการค้าออกจากเรื่องปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชา
ทรัมป์เห็นตรงกับจุดยืนของไทยว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมเป็นเรื่องสำคัญ และขอให้ไทยเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
อนุทินชี้แจงว่าจดหมายระงับการเจรจาจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ถูกจัดทำขึ้นก่อนการพูดคุยกับทรัมป์ ทำให้ข้อมูลที่ตนได้รับเป็นปัจจุบันกว่า
นายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์เฟสบุ๊ค หลังมีข่าวผู้แทนการค้าสหรัฐมีหนังสือแจ้งระงับการเจรจาเรื่องภาษีการค้ากับไทย จนกว่าจะดำเนินการตามปฏิญญาสัติภาพกับกัมพูชา โดยระบุว่า
“นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมแห่งมาเลเซียซึ่งเป็นประธานของ ASEAN ด้วย ได้โทรศัพท์มาหาผมอีกครั้งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15/11/2025)
ในเนื้อหาของการสนทนา ท่านได้แจ้งยืนยันกับผมว่า ท่านได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรั้มป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับผมแล้วก่อนหน้านี้ ท่านประธานาธิบดีทรั้มป์มีความเห็นตรงกันกับจุดยืนของผมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian demining เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งในปฏิญญาที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกัน ท่านจึงได้ขอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุดเพราะมีความเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตคนของทั้งสองประเทศ และประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยืนยันฝากนายกรัฐมนตรีอันวาร์ให้มาแจ้งผมอีกครั้งว่า
“สหรัฐอเมริกาจะไม่นำประเด็นการระงับปฏิญญาของไทยมาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้”
ผมยังได้ถามท่านนายกอันวาร์ว่า ผมสามารถโพสต์ข้อความนี้ได้หรือไม่ ท่านตอบว่า โพสต์เลยอนุทิน แล้วท่านก็จะโพสต์ยืนยันจากช่องทางการสื่อสารของท่านเช่นกัน
จึงขอกราบเรียนมายังพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้เพื่อให้รับทราบโดยทั่วกันนะครับ
อนึ่งจดหมายจากผู้แทนการค้าสหรัฐที่ระบุเรื่องการหยุดเจรจากับไทยได้ถูกพิมพ์ขึ้นก่อนที่ผมจะได้คุยโทรศัพท์กับท่านประธานาธิบดีทรั้มป์เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายนครับ ดังนั้นข้อมูลของผมจึงมีความเป็นปัจจุบันมากกว่าครับ”
รัฐบาลไทยยืนยันจะเดินหน้าเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนกับสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยจะไม่เชื่อมโยงการหารือดังกล่าวกับประเด็นข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา
ก่อนหน้านี้ ไทยระบุว่า วอชิงตันได้สั่งระงับการเจรจาชั่วคราวจนกว่ารัฐบาลไทยจะยืนยันความมุ่งมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างไทยและกัมพูชา อย่างไรก็ตาม การระงับดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อคืนวันศุกร์ โฆษกประจำรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติระบุในแถลงการณ์
“การเจรจาภาษียังคงเดินหน้าต่อไป และเป็นคนละส่วนกับประเด็นชายแดน”
นายศิริพงศ์เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ย้ำระหว่างการสนทนาว่า สหรัฐฯ ไม่ประสงค์เข้ามาแทรกแซงปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีช่องทางกลไกทวิภาคีดูแลอยู่แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว วอชิงตันและกรุงเทพฯ ได้ประกาศกรอบความร่วมมือด้านการค้าที่จะให้สหรัฐฯ คงอัตราภาษีนำเข้า 19% สำหรับสินค้าจากไทย พร้อมพิจารณาสินค้าที่อาจมีการปรับลดหรือยกเลิกภาษีได้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จดหมายจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่ระบุการระงับการเจรจาสรุปรายละเอียดข้อตกลงการค้าถูกส่งถึงไทยเมื่อคืนวันศุกร์ โดยมีเนื้อหาระบุว่าการเจรจาจะสามารถกลับมาได้ เมื่อไทยยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติตามปฏิญญาหยุดยิงร่วมกับกัมพูชา
ทั้งสองฝ่ายยังต้องเจรจาและสรุปรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อตกลง ก่อนจะสามารถลงนามและมีผลบังคับใช้
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สนทนากับผู้นำไทยและกัมพูชาในคืนวันศุกร์ หลังสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่าเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้
ไทยได้ประกาศระงับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาขอโทษ หลังกล่าวหาว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่จนทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหา
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงจดหมายของ USTR เรื่องการระงับเจรจาทางการค้า และไม่มีรายงานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวบนเว็บไซต์ของ USTR หรือทำเนียบขาว
นายกรัฐมนตรีอนุทินเปิดเผยในโพสต์เฟซบุ๊กหลังการสนทนาว่า ตนได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาลดภาษีนำเข้า 19% สำหรับสินค้าไทย โดยทรัมป์ตอบว่าอัตราดังกล่าวถือว่าต่ำอยู่แล้ว แต่จะพิจารณาเรื่องการลดภาษี หากการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
“อนุทิน” ยัน “ทรัมป์” รับปากแยกประเด็นภาษีออกจากเรื่องระงับปฏิญญา