สวัสดีค่ะ กระทู้นี้พวกเราจะมารีวิวทริปการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรี ในช่วงเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน สมาชิกในการเดินทางของพวกเรามีทั้งหมด 6 คน ทริปนี้เป็นทริปที่พวกเราได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชนผ่านการลองทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นทริปที่สนุกสนานและตกตะลึงไปกับวัฒนธรรมที่พวกเราไม่เคยได้สัมผัส นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ใครที่เครียดกับการเรียนหรือการทำงานแล้วอยากแวะเที่ยวพักผ่อนก็สามารถตามรอยการเดินทางของรีวิวนี้ได้เลยค่ะ
ในวันแรก พวกเรานัดรวมตัวกันที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อรวบรวมสัมภาระใส่ท้ายรถ และเริ่มต้นการเดินทางในเวลา 7:00 น. ผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง พวกเราก็มาถึง วัดมะขาม จังหวัดราชบุรี
พอพวกเรามาถึงที่วัดก็ได้รับรู้ทันทีเลยว่าที่นี่เป็นวัดมอญ ซึ่งแต่ก่อนมีกฎห้ามให้ผู้หญิงเข้าวัด แถมยังใส่กระโปรงหรือกางเกงเข้าไปก็ไม่ได้ ต้องใส่โสร่งเข้าไปเท่านั้น แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการอนุโลมให้ผู้หญิงสามารถเข้าไปได้แล้ว พวกเราจึงเข้าไปทำสังฆทาน กรวดน้ำ และได้ฟังบทสวดที่เป็นภาษามอญ
หลังจากทำบุญกันเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อมายังที่ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมมอญ ซึ่งพอมาถึงได้ไม่ทันไร พวกเราก็ถูกจับแต่งชุดมอญกันทุกคนเลย ที่นี่พวกเราได้ลองทำพวงมโหตรและม่านพระอินทร์ ซึ่งเป็นของประดับตกแต่งของชาวมอญในงานพิธีต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้ลองปักผ้า ทอผ้า และได้ทำแกงส้มมอญกินกันด้วย รสชาติของมันจะเปรี้ยวนำจากใบกระเจี๊ยบ และยังมีวัตถุดิบที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น ใบแมงลัก กระเจี๊ยบมอญ และกระชาย ปิดท้ายด้วยการที่พวกเราได้ลองตำข้าวแดกงาซึ่งเป็นของว่างของชาวมอญมาเป็นของกินเล่นระหว่างทางอีกด้วย
หลังออกจากศูนย์การเรียนรู้ พวกเราก็ขับรถเข้าตัวเมืองไปยังโรงงานเซรามิกเถ้าฮงไถ่ พอมาถึงได้ไม่ทันไรก็ถูกสีสันและศิลปะต้อนรับเข้าอย่างจัง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นงานศิลปะเซรามิกสวยๆ เต็มไปหมดทุกมุมเลย
ที่นี่เคยเป็นโรงงานโอ่งมังกรมาก่อน พอเราคุยกับช่าง เราก็ได้รู้ว่าการทำโอ่งมังกรกับการทำเซรามิกมีวิธีทำใกล้เคียงกัน ช่างเล่าให้ฟังว่า “ถึงวิธีทำเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเปลี่ยนหน้าตา เปลี่ยนดินจากดินของราชบุรีเป็นดินงานเซรามิก” เรียกได้ว่าเป็นการปรับตัวตามยุคสมัย แต่ยังคงใช้ความชำนาญที่มีอยู่แต่เดิม หลังจากนั้นเราก็ได้เดินชมงานเซรามิกกันต่อ บอกเลยว่ามีตั้งแต่งานชิ้นเล็กน่ารัก ๆ ไปจนถึงงานชิ้นใหญ่สุดว้าวให้เดินดูกันได้แบบเพลินตาเลย
เรายังไม่จบกันกับเรื่องของโอ่ง เพราะจุดหมายต่อไปก็คือ เรื่องของโอ่ง พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับโอ่งมังกรของเด่นแห่งจังหวัดราชบุรี ก่อนเข้าชมจะมี Welcome drink เป็นน้ำผสมอุทัยทิพย์ให้ดื่มสดชื่นคลายร้อนกันก่อน เมื่อพร้อมแล้ว ก้าวแรกที่เดินเข้าไปเราก็จะตื่นตากับจุด Check In โอ่งมังกรอันใหญ่
จากนั้นเมื่อเดินชมต่อก็จะได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับโอ่งมังกรราชบุรี ทั้งประวัติศาสตร์ของโอ่งหลากหลายแบบที่มีต้นแบบจีน ไปจนที่เป็นภูมิปัญญาแบบไทย ๆ ไฮไลท์สำคัญเลยก็คือการทำโอ่งให้ดูกันตั้งแต่เริ่มต้นแบบใกล้ชิด สิ่งที่น่าทึ่งคือพี่ช่างใช้เวลาปั้นโอ่งแป๊บเดียวเท่านั้น
อีกจุดที่ประทับใจไม่แพ้กันเลย คือแบบจำลองเตาเผาโอ่งมังกรสุดอลังการ ยิ่งได้เดินเข้าด้านในก็ยิ่งรู้สึกว้าว ตั้งแต่ต้นจนถึงทางออกสามารถบอกได้เลยว่าโอ่งมังกรแต่ละใบกว่าจะได้มานี่ไม่ง่ายเลยค่ะ
วันที่เราไปเป็นวันศุกร์ มีตลาดคนเดินในช่วงเย็นชื่อว่า ตลาดมังกรโพธาราม พวกเราจึงไปหาของกินกันที่ตลาดนี้ ซึ่งตลาดอยู่ไม่ไกลจากที่พักเลยค่ะ ระหว่างทางเดินก็ได้ชมบรรยากาศย่านเก่าโพธารามไปด้วยเพลินๆ นอกจากอาหารที่นี่จะอร่อยแล้ว ยังมีของน่าทานอีกหลายอย่าง แถมตลาดก็ติดริมแม่น้ำแม่กลอง การได้ไปในตอนเย็นจะได้เห็นพระอาทิตย์สีแดงสาดส่องอยู่ริมขอบฟ้า บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลยค่ะ
พอได้เดินตลาดกันจนอิ่มท้อง พวกเราก็เดินทางไปที่พักกันค่ะ กระท่อมสาธุ เป็นที่พักที่อยู่ใจกลางย่านเก่าโพธาราม ที่นี่ด้านหน้าจะเป็นร้านคาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ส่วนด้านในคือโซนที่พัก ทั้งที่อยู่ในตัวเมืองแต่บรรยากาศร่มรื่นมากก ห้องพักสะอาด สะดวกสบาย ศาลาส่วนกลางมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมให้ใช้ ข้างที่พักยังมีร้านปิ้งย่าง และยังมีแกลเลอรี่ให้เดินชมอีกด้วย
[CR] Review เที่ยวราชบุรี เพชรบุรี 3 วัน 2 คืน
ในวันแรก พวกเรานัดรวมตัวกันที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อรวบรวมสัมภาระใส่ท้ายรถ และเริ่มต้นการเดินทางในเวลา 7:00 น. ผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง พวกเราก็มาถึง วัดมะขาม จังหวัดราชบุรี