https://www.facebook.com/share/1CguZo5DoG/?mibextid=wwXIfr
ใครรับทำบัญชีให้บริษัทส่งออก หรือเป็นเครือเดียวกันต้องระวังตรวจสอบให้ดีนะคะ หลังจากนี้ทุกบริษัทคงขอคืนภาษีซื้อกันยากขึ้นมากๆ
ขั้นตอนเป็นดังนี้
1. ตั้งบริษัท/ร้านค้า (ทิพย์):
เปิดบริษัทขึ้นมาหลายๆ แห่ง ส่วนใหญ่ใช้ชื่อเครือญาติหรือพนักงานมาสวม
2. "ซื้อ-ขาย" กันเอง (ทิพย์)
บริษัท A แกล้งทำเป็น "ขายของ" ให้บริษัท B, บริษัท B "ขายต่อ" ให้ C... วนกันไปในเครือข่าย โดยที่ ไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริงๆ (เรียกว่า "ซื้อขายทิพย์"
3. ปั่นราคาสินค้า
ในแต่ละทอดที่ "ขายต่อ" กันเอง ก็จะบวกราคาสินค้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างตัวเลข "ภาษีซื้อ" ปลอมๆ ให้สูงตามไปด้วย
4. ส่งออก (ทิพย์)
บริษัทสุดท้ายในเครือข่าย (ที่จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออก) จะทำเรื่อง "ส่งออก" สินค้าที่ปั่นราคาสูงลิ่วนี้ไปต่างประเทศ (ในข่าวคือไปพม่า)
5. ยื่นขอคืนภาษี
จุดสำคัญอยู่ตรงนี้! เพราะการส่งออกสินค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะเป็น 0%
บริษัทส่งออกก็จะไปอ้างกับกรมสรรพากรว่า... "เนี่ย ฉันซื้อของมาราคาสูงมาก (ตามข้อ 3) จ่ายภาษีซื้อไปเยอะแล้ว แต่พอส่งออก ภาษีขายฉันเป็น 0 นะ" โดยยอมจ่ายภาษีซื้อระหว่างทาง เพื่อมาขอคืนตอนสุดท้ายทีเดียว
6. รัฐจ่ายเงินคืน
สรรพากรจึงต้อง "คืนเงินภาษี" (VAT) ก้อนโตนั้นให้บริษัท... ทั้งๆ ที่กระบวนการซื้อขายทั้งหมด เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาทั้งหมด!
ผลก็คือ รัฐสูญเงินไปฟรีๆ กว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งก็คือเงินภาษีของพวกเราทุกคนนี่แหละ และไม่รู้มีแบบนี้อีกกี่บริษัท
Link ข่าว :
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_10019533
สรุปขั้นตอน "กลโกงขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,100 ล้านบาท" ที่ทำให้รัฐเสียหายครั้งใหญ่ แบบง่ายๆ
ใครรับทำบัญชีให้บริษัทส่งออก หรือเป็นเครือเดียวกันต้องระวังตรวจสอบให้ดีนะคะ หลังจากนี้ทุกบริษัทคงขอคืนภาษีซื้อกันยากขึ้นมากๆ
ขั้นตอนเป็นดังนี้
1. ตั้งบริษัท/ร้านค้า (ทิพย์):
เปิดบริษัทขึ้นมาหลายๆ แห่ง ส่วนใหญ่ใช้ชื่อเครือญาติหรือพนักงานมาสวม
2. "ซื้อ-ขาย" กันเอง (ทิพย์)
บริษัท A แกล้งทำเป็น "ขายของ" ให้บริษัท B, บริษัท B "ขายต่อ" ให้ C... วนกันไปในเครือข่าย โดยที่ ไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริงๆ (เรียกว่า "ซื้อขายทิพย์"
3. ปั่นราคาสินค้า
ในแต่ละทอดที่ "ขายต่อ" กันเอง ก็จะบวกราคาสินค้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างตัวเลข "ภาษีซื้อ" ปลอมๆ ให้สูงตามไปด้วย
4. ส่งออก (ทิพย์)
บริษัทสุดท้ายในเครือข่าย (ที่จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออก) จะทำเรื่อง "ส่งออก" สินค้าที่ปั่นราคาสูงลิ่วนี้ไปต่างประเทศ (ในข่าวคือไปพม่า)
5. ยื่นขอคืนภาษี
จุดสำคัญอยู่ตรงนี้! เพราะการส่งออกสินค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะเป็น 0%
บริษัทส่งออกก็จะไปอ้างกับกรมสรรพากรว่า... "เนี่ย ฉันซื้อของมาราคาสูงมาก (ตามข้อ 3) จ่ายภาษีซื้อไปเยอะแล้ว แต่พอส่งออก ภาษีขายฉันเป็น 0 นะ" โดยยอมจ่ายภาษีซื้อระหว่างทาง เพื่อมาขอคืนตอนสุดท้ายทีเดียว
6. รัฐจ่ายเงินคืน
สรรพากรจึงต้อง "คืนเงินภาษี" (VAT) ก้อนโตนั้นให้บริษัท... ทั้งๆ ที่กระบวนการซื้อขายทั้งหมด เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาทั้งหมด!
ผลก็คือ รัฐสูญเงินไปฟรีๆ กว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งก็คือเงินภาษีของพวกเราทุกคนนี่แหละ และไม่รู้มีแบบนี้อีกกี่บริษัท
Link ข่าว : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_10019533