“ซานาเอะ” นายกรัฐมนตรีหญิงสายอนุรักษนิยมสุดเข้ม ตั้ง “คิมิ โอโนดะ” ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน
ขึ้นแท่นรัฐมนตรีกระทรวงใหม่ ดูแลนโยบายเกี่ยวกับคนต่างชาติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
เบื้องหลังคำว่า “อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ” ถูกจับตาว่าอาจไม่ใช่เพียงการเปิดรับแรงงานต่างชาติ
แต่คือสัญญาณ “คุมเข้มคนต่างด้าว” ที่สะท้อนแนวคิดชาตินิยมแบบใหม่ของรัฐบาลโตเกียวยุค “Japan First”
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2025 รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของ ซานาเอะ ทาคาอิชิ (Sanae Takaichi)
นายกรัฐมนตรีหญิงสายอนุรักษนิยมคนใหม่คนแรกของญี่ปุ่น ได้จัดตั้งกระทรวงใหม่ขึ้น เพื่อดูแลเรื่อง
“คนต่างชาติ” โดยเฉพาะ พร้อมแต่งตั้ง คิมิ โอโนดะ (Kimi Onoda) สมาชิกสภาจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP)
ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคนแรกของกระทรวงใหม่นี้
ตามรายงานของสำนักข่าว Kyodo News ระบุว่า กระทรวงใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อ “ส่งเสริมสังคมอยู่ร่วมกับ
ชาวต่างชาติอย่างเป็นระเบียบ” (Orderly Coexistence Society With Foreigners)
คิมิ โอโนดะ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ผู้ถูกจับตาในคณะรัฐมนตรีใหม่
“คิมิ โอโนดะ” สาวร่างสูงที่ได้รับบทรัฐมนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ในยุคที่เศรษฐกิจมีปัญหามากมาย
เธอถูกมองว่าเป็นแสงสว่างที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา และคนรุ่นใหม่หลายคนตั้งความหวังไว้ว่า นี่แหละคือ
สายเลือดใหม่ของการเมืองญี่ปุ่น เพราะเธอไม่เพียงเป็นสตรี แต่ยังเป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-อเมริกัน เรียกว่า
เป็นทั้งเพศแม่และเป็นเลือดผสม ดับเบิลองค์ประกอบที่ถูกกดทับสุดๆ ของสังคมญี่ปุ่น
โอโนดะ วัย 42 ปี เป็นสมาชิกพรรค LDP ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอนุรักษนิยม เธอเกิดที่สหรัฐ
บิดาเป็นชาวอเมริกัน และมารดาเป็นชาวญี่ปุ่น
ซานาเอะยังแต่งตั้งผู้หญิงอีก 2 คนเข้าสู่คณะรัฐมนตรี หนึ่งในนั้นคือ ซัตสึกิ คาตายามะ (Satsuki Katayama)
ซึ่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
คุมเข้มนโยบายคนต่างชาติ
พรรครัฐบาล LDP และพันธมิตรใหม่ พรรค Japan Innovation Party (JIP) ได้ลงนามข้อตกลงร่วมบริหาร
เพื่อเสริม “กลไกควบคุม” ด้านนโยบายคนต่างชาติ โดยจัดตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีพิเศษขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยตรง
ก่อนหน้านี้ พรรค JIP เคยเสนอให้รัฐบาลจำกัดจำนวน “ชาวต่างชาติพำนักในญี่ปุ่น” ไม่ให้เกิน 10% ของประชากร
ทั้งหมดของประเทศ
มุมมองแข็งกร้าวต่อจีน-เกาหลี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาคาอิชิได้แต่งตั้ง สส.อีก 5 คนในตำแหน่งสำคัญ รวมถึงรัฐมนตรีศึกษาธิการ โยเฮย์ มัตสึโมโตะ
(Yohei Matsumoto) ผู้เคยสนับสนุนบทความใน The Washington Post เมื่อปี 2012 ที่ปฏิเสธว่า
“ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดยืนยันว่าผู้หญิงถูกบังคับให้เป็นหญิงบำเรอในช่วงสงคราม” ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวในเกาหลีและจีน
ซานาเอะเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองหัวอนุรักษนิยมที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน และเกาหลี รวมถึงประวัติศาสตร์สงครามของญี่ปุ่น
ฝ่ายขวาจัด ชูแนวคิด “Japan First”
พรรคขวาจัด Sanseitō ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยมสุดโต่ง ได้รับ 15 ที่นั่งในวุฒิสภาญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
และประกาศนโยบาย “Japan First” เรียกร้องให้เข้มงวดนโยบายตรวจคนเข้าเมืองมากขึ้น พร้อมมองว่า
การอพยพย้ายถิ่นคือ “การรุกรานอย่างเงียบ (Silent Invasion)”
แม้พรรคนี้จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลโดยตรง แต่ประกาศว่าจะสนับสนุนรัฐบาลซานาเอะเป็นรายกรณี
... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/world-news/news-1906904
ญี่ปุ่นตั้งกระทรวงใหม่ “จัดระเบียบต่างชาติ” .. ครั้งแรกรัฐบาลหญิงเหล็ก ชู “Japan First”
“ซานาเอะ” นายกรัฐมนตรีหญิงสายอนุรักษนิยมสุดเข้ม ตั้ง “คิมิ โอโนดะ” ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน
ขึ้นแท่นรัฐมนตรีกระทรวงใหม่ ดูแลนโยบายเกี่ยวกับคนต่างชาติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
เบื้องหลังคำว่า “อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ” ถูกจับตาว่าอาจไม่ใช่เพียงการเปิดรับแรงงานต่างชาติ
แต่คือสัญญาณ “คุมเข้มคนต่างด้าว” ที่สะท้อนแนวคิดชาตินิยมแบบใหม่ของรัฐบาลโตเกียวยุค “Japan First”
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2025 รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของ ซานาเอะ ทาคาอิชิ (Sanae Takaichi)
นายกรัฐมนตรีหญิงสายอนุรักษนิยมคนใหม่คนแรกของญี่ปุ่น ได้จัดตั้งกระทรวงใหม่ขึ้น เพื่อดูแลเรื่อง
“คนต่างชาติ” โดยเฉพาะ พร้อมแต่งตั้ง คิมิ โอโนดะ (Kimi Onoda) สมาชิกสภาจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP)
ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคนแรกของกระทรวงใหม่นี้
ตามรายงานของสำนักข่าว Kyodo News ระบุว่า กระทรวงใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อ “ส่งเสริมสังคมอยู่ร่วมกับ
ชาวต่างชาติอย่างเป็นระเบียบ” (Orderly Coexistence Society With Foreigners)
คิมิ โอโนดะ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ผู้ถูกจับตาในคณะรัฐมนตรีใหม่
“คิมิ โอโนดะ” สาวร่างสูงที่ได้รับบทรัฐมนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ในยุคที่เศรษฐกิจมีปัญหามากมาย
เธอถูกมองว่าเป็นแสงสว่างที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา และคนรุ่นใหม่หลายคนตั้งความหวังไว้ว่า นี่แหละคือ
สายเลือดใหม่ของการเมืองญี่ปุ่น เพราะเธอไม่เพียงเป็นสตรี แต่ยังเป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-อเมริกัน เรียกว่า
เป็นทั้งเพศแม่และเป็นเลือดผสม ดับเบิลองค์ประกอบที่ถูกกดทับสุดๆ ของสังคมญี่ปุ่น
โอโนดะ วัย 42 ปี เป็นสมาชิกพรรค LDP ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอนุรักษนิยม เธอเกิดที่สหรัฐ
บิดาเป็นชาวอเมริกัน และมารดาเป็นชาวญี่ปุ่น
ซานาเอะยังแต่งตั้งผู้หญิงอีก 2 คนเข้าสู่คณะรัฐมนตรี หนึ่งในนั้นคือ ซัตสึกิ คาตายามะ (Satsuki Katayama)
ซึ่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
คุมเข้มนโยบายคนต่างชาติ
พรรครัฐบาล LDP และพันธมิตรใหม่ พรรค Japan Innovation Party (JIP) ได้ลงนามข้อตกลงร่วมบริหาร
เพื่อเสริม “กลไกควบคุม” ด้านนโยบายคนต่างชาติ โดยจัดตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีพิเศษขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยตรง
ก่อนหน้านี้ พรรค JIP เคยเสนอให้รัฐบาลจำกัดจำนวน “ชาวต่างชาติพำนักในญี่ปุ่น” ไม่ให้เกิน 10% ของประชากร
ทั้งหมดของประเทศ
มุมมองแข็งกร้าวต่อจีน-เกาหลี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาคาอิชิได้แต่งตั้ง สส.อีก 5 คนในตำแหน่งสำคัญ รวมถึงรัฐมนตรีศึกษาธิการ โยเฮย์ มัตสึโมโตะ
(Yohei Matsumoto) ผู้เคยสนับสนุนบทความใน The Washington Post เมื่อปี 2012 ที่ปฏิเสธว่า
“ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดยืนยันว่าผู้หญิงถูกบังคับให้เป็นหญิงบำเรอในช่วงสงคราม” ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวในเกาหลีและจีน
ซานาเอะเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองหัวอนุรักษนิยมที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน และเกาหลี รวมถึงประวัติศาสตร์สงครามของญี่ปุ่น
ฝ่ายขวาจัด ชูแนวคิด “Japan First”
พรรคขวาจัด Sanseitō ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยมสุดโต่ง ได้รับ 15 ที่นั่งในวุฒิสภาญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
และประกาศนโยบาย “Japan First” เรียกร้องให้เข้มงวดนโยบายตรวจคนเข้าเมืองมากขึ้น พร้อมมองว่า
การอพยพย้ายถิ่นคือ “การรุกรานอย่างเงียบ (Silent Invasion)”
แม้พรรคนี้จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลโดยตรง แต่ประกาศว่าจะสนับสนุนรัฐบาลซานาเอะเป็นรายกรณี
... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1906904