จากเด็กเรียนไม่จบ...สู่ตำนานแห่งรองเท้า Vans
เรื่องราวของพอล แวน โดเรน ชายผู้พลิกประวัติศาสตร์รองเท้าผ้าใบอเมริกัน
ในยุคที่ “รองเท้าผ้าใบ” ยังถูกมองเป็นเพียงของใช้จำเป็น ไม่ใช่สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมหรือแฟชั่นเหมือนในปัจจุบัน ชายหนุ่มคนหนึ่งได้สร้างแบรนด์ที่กลายเป็นตำนานระดับโลกขึ้นมาด้วยสองมือของเขาเอง พอล แวน โดเรน (Paul Van Doren) ผู้ก่อตั้ง Vans
จุดเริ่มต้นของเด็กชายผู้รักม้า...แต่ไม่รักเรียน
พอล แวน โดเรน เกิดและเติบโตในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 1940s เขาเป็นเด็กที่หลงใหลในการแข่งม้า ถึงขนาด ลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับสนามแข่งเต็มตัว
แต่ความฝันของเด็กหนุ่มกลับไม่เป็นที่ปลื้มของแม่ ผู้ซึ่งเห็นว่าลูกชายกำลัง “เสียคนโดยเปล่าประโยชน์” เธอจึงพาเขาไปสมัครงานเป็น พนักงานทำความสะอาด ในบริษัทผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งชื่อ Randy’s
ใครจะคิดว่าก้าวเล็ก ๆ ในวันนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานวงการรองเท้า
จากภารโรงสู่ผู้บริหาร
พอล แวน โดเรน ใช้เวลากว่า 20 ปี เติบโตในบริษัท Randy’s จากพนักงานทำความสะอาดสู่ตำแหน่งช่างผลิตรองเท้า และสุดท้ายกลายเป็น รองผู้จัดการโรงงานประจำเมืองบอสตัน ขณะมีอายุเพียง 34 ปี
ในเวลานั้น Randy’s ถือเป็นผู้ผลิตรองเท้าผ้าใบรายใหญ่ อันดับ 3 ของอเมริกา เป็นรองเพียง Converse และ Keds โดยมีชื่อเสียงจากการผลิตรองเท้ากีฬาสำหรับ บ็อบ คูซี (Bob Cousy) นักบาสเกตบอลระดับตำนานของทีมบอสตัน เซลติกส์
อย่างไรก็ตาม กิจการของ Randy’s ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โรงงานผลิตใน เมืองการ์เดนเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังประสบภาวะขาดทุน เดือนละกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ภารกิจพลิกวิกฤติสู่โอกาส
พอล แวน โดเรน พร้อมด้วยน้องชาย จิม แวน โดเรน (Jim Van Doren) และเพื่อนสนิท กอร์ดอน ลี (Gordon Lee) ได้รับมอบหมายให้บินไปกอบกู้สถานการณ์ในแคลิฟอร์เนีย
ด้วยความเข้าใจในกระบวนการผลิตและแนวคิดการบริหารที่เฉียบแหลม เขาทำงานอย่างหนักตลอด 8 เดือนเต็ม จนสามารถพลิกโรงงานที่เคยขาดทุนให้กลับมามีกำไร และทำรายได้สูงกว่าโรงงานใหญ่ในบอสตันเสียอีก
ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้พอลค้นพบ บทเรียนสำคัญในชีวิต
โรงงานผลิตรองเท้ามักไม่มีกำไรเท่าที่ควร เพราะร้านค้าปลีกเป็นฝ่ายได้ส่วนแบ่งมากกว่า
เขาอยากเป็นเจ้าของทั้ง โรงงานผลิต และ ร้านขายรองเท้าของตัวเอง
และที่สำคัญที่สุด เขาคือ “นักธุรกิจโดยธรรมชาติ”
กำเนิดแบรนด์ Vans
หลังจากพิสูจน์ฝีมือตัวเองได้ไม่นาน พอลและจิมจึงตัดสินใจลาออกจาก Randy’s พร้อมชวนกอร์ดอน ลี และนักธุรกิจชาวอิตาเลียนอีกรายร่วมลงทุนในกิจการใหม่
วันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1966 บริษัท The Van Doren Rubber Company ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ เลขที่ 704 East Broadway เมืองแอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
โรงงานแห่งนี้กลายเป็นผู้ผลิตรองเท้าเพียงไม่กี่รายในอเมริกายุคนั้นที่ใช้ ยางดิบผสมผงกำมะถัน (Vulcanised Rubber) ซึ่งให้ความทนทานและยืดหยุ่นสูง เช่นเดียวกับที่ใช้ในแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Converse, Keds และ Randy’s
รองเท้าสำหรับทุกคนในครอบครัว
พอล แวน โดเรน ตั้งใจให้รองเท้าของเขา “เข้าถึงได้สำหรับทุกคน”
Van Doren Rubber จึงผลิตรองเท้าหลากหลายรุ่น ทั้ง lace-up, two eyelet, slip-on, canvas boat shoe, รองเท้าเด็ก, รวมถึงรุ่นหนังสำหรับผู้ใหญ่
แต่รุ่นที่กลายเป็นตำนานและยังคงผลิตมาจนถึงทุกวันนี้คือ รุ่น #44 หรือที่รู้จักในชื่อ Vans Authentic
มันคือรองเท้าแบบ Deck Shoe ที่มีโครงสร้างผ้าใบหนา พื้นยางแบบ “waffle sole” ที่เกาะพื้นแน่น และความทนทานระดับ “รถถัง”
เดิมทีออกแบบมาเพื่อใช้บนเรือ แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักสเกตบอร์ดในแคลิฟอร์เนียช่วงปี 1970 กลายเป็นรากฐานของวัฒนธรรม “สตรีตสเกต” ที่ Vans ยืนหยัดอยู่จนถึงปัจจุบัน
เกร็ดน่าสนใจ
วันเปิดร้านวันแรก (16 มีนาคม 1966) มีลูกค้าเพียง 12 คน และยังไม่มีรองเท้าให้ขายจริง พอลจึงขอให้ลูกค้ากลับมารับรองเท้าในวันรุ่งขึ้นหลังผลิตเสร็จ
Vans เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกที่ ขายรองเท้าโดยตรงจากโรงงาน ทำให้ราคาย่อมเยาและคุณภาพเหนือคู่แข่ง
พื้นยางลาย waffle sole อันโด่งดัง ถูกคิดค้นขึ้นเพราะพอลอยากได้ “รองเท้าที่เกาะพื้นได้ดีจนขึ้นบอร์ดสเกตไม่ลื่น”
พอล แวน โดเรน เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2021 ด้วยวัย 90 ปี แต่แบรนด์ที่เขาก่อตั้งยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นตัวของตัวเองและจิตวิญญาณแห่งถนน
เจาะเวลาหาอดีต
แหล่งอ้างอิง
Vans Official History: www.vans.com
CR
https://www.facebook.com/share/p/1JujmWnepb/?mibextid=wwXIfr
ใครเป็นแฟนคลับ รองเท้า VANs บ้าง?
เรื่องราวของพอล แวน โดเรน ชายผู้พลิกประวัติศาสตร์รองเท้าผ้าใบอเมริกัน
ในยุคที่ “รองเท้าผ้าใบ” ยังถูกมองเป็นเพียงของใช้จำเป็น ไม่ใช่สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมหรือแฟชั่นเหมือนในปัจจุบัน ชายหนุ่มคนหนึ่งได้สร้างแบรนด์ที่กลายเป็นตำนานระดับโลกขึ้นมาด้วยสองมือของเขาเอง พอล แวน โดเรน (Paul Van Doren) ผู้ก่อตั้ง Vans
จุดเริ่มต้นของเด็กชายผู้รักม้า...แต่ไม่รักเรียน
พอล แวน โดเรน เกิดและเติบโตในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ช่วงทศวรรษ 1940s เขาเป็นเด็กที่หลงใหลในการแข่งม้า ถึงขนาด ลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับสนามแข่งเต็มตัว
แต่ความฝันของเด็กหนุ่มกลับไม่เป็นที่ปลื้มของแม่ ผู้ซึ่งเห็นว่าลูกชายกำลัง “เสียคนโดยเปล่าประโยชน์” เธอจึงพาเขาไปสมัครงานเป็น พนักงานทำความสะอาด ในบริษัทผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งชื่อ Randy’s
ใครจะคิดว่าก้าวเล็ก ๆ ในวันนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานวงการรองเท้า
จากภารโรงสู่ผู้บริหาร
พอล แวน โดเรน ใช้เวลากว่า 20 ปี เติบโตในบริษัท Randy’s จากพนักงานทำความสะอาดสู่ตำแหน่งช่างผลิตรองเท้า และสุดท้ายกลายเป็น รองผู้จัดการโรงงานประจำเมืองบอสตัน ขณะมีอายุเพียง 34 ปี
ในเวลานั้น Randy’s ถือเป็นผู้ผลิตรองเท้าผ้าใบรายใหญ่ อันดับ 3 ของอเมริกา เป็นรองเพียง Converse และ Keds โดยมีชื่อเสียงจากการผลิตรองเท้ากีฬาสำหรับ บ็อบ คูซี (Bob Cousy) นักบาสเกตบอลระดับตำนานของทีมบอสตัน เซลติกส์
อย่างไรก็ตาม กิจการของ Randy’s ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โรงงานผลิตใน เมืองการ์เดนเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังประสบภาวะขาดทุน เดือนละกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ภารกิจพลิกวิกฤติสู่โอกาส
พอล แวน โดเรน พร้อมด้วยน้องชาย จิม แวน โดเรน (Jim Van Doren) และเพื่อนสนิท กอร์ดอน ลี (Gordon Lee) ได้รับมอบหมายให้บินไปกอบกู้สถานการณ์ในแคลิฟอร์เนีย
ด้วยความเข้าใจในกระบวนการผลิตและแนวคิดการบริหารที่เฉียบแหลม เขาทำงานอย่างหนักตลอด 8 เดือนเต็ม จนสามารถพลิกโรงงานที่เคยขาดทุนให้กลับมามีกำไร และทำรายได้สูงกว่าโรงงานใหญ่ในบอสตันเสียอีก
ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้พอลค้นพบ บทเรียนสำคัญในชีวิต
โรงงานผลิตรองเท้ามักไม่มีกำไรเท่าที่ควร เพราะร้านค้าปลีกเป็นฝ่ายได้ส่วนแบ่งมากกว่า
เขาอยากเป็นเจ้าของทั้ง โรงงานผลิต และ ร้านขายรองเท้าของตัวเอง
และที่สำคัญที่สุด เขาคือ “นักธุรกิจโดยธรรมชาติ”
กำเนิดแบรนด์ Vans
หลังจากพิสูจน์ฝีมือตัวเองได้ไม่นาน พอลและจิมจึงตัดสินใจลาออกจาก Randy’s พร้อมชวนกอร์ดอน ลี และนักธุรกิจชาวอิตาเลียนอีกรายร่วมลงทุนในกิจการใหม่
วันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1966 บริษัท The Van Doren Rubber Company ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ เลขที่ 704 East Broadway เมืองแอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
โรงงานแห่งนี้กลายเป็นผู้ผลิตรองเท้าเพียงไม่กี่รายในอเมริกายุคนั้นที่ใช้ ยางดิบผสมผงกำมะถัน (Vulcanised Rubber) ซึ่งให้ความทนทานและยืดหยุ่นสูง เช่นเดียวกับที่ใช้ในแบรนด์ระดับตำนานอย่าง Converse, Keds และ Randy’s
รองเท้าสำหรับทุกคนในครอบครัว
พอล แวน โดเรน ตั้งใจให้รองเท้าของเขา “เข้าถึงได้สำหรับทุกคน”
Van Doren Rubber จึงผลิตรองเท้าหลากหลายรุ่น ทั้ง lace-up, two eyelet, slip-on, canvas boat shoe, รองเท้าเด็ก, รวมถึงรุ่นหนังสำหรับผู้ใหญ่
แต่รุ่นที่กลายเป็นตำนานและยังคงผลิตมาจนถึงทุกวันนี้คือ รุ่น #44 หรือที่รู้จักในชื่อ Vans Authentic
มันคือรองเท้าแบบ Deck Shoe ที่มีโครงสร้างผ้าใบหนา พื้นยางแบบ “waffle sole” ที่เกาะพื้นแน่น และความทนทานระดับ “รถถัง”
เดิมทีออกแบบมาเพื่อใช้บนเรือ แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักสเกตบอร์ดในแคลิฟอร์เนียช่วงปี 1970 กลายเป็นรากฐานของวัฒนธรรม “สตรีตสเกต” ที่ Vans ยืนหยัดอยู่จนถึงปัจจุบัน
เกร็ดน่าสนใจ
วันเปิดร้านวันแรก (16 มีนาคม 1966) มีลูกค้าเพียง 12 คน และยังไม่มีรองเท้าให้ขายจริง พอลจึงขอให้ลูกค้ากลับมารับรองเท้าในวันรุ่งขึ้นหลังผลิตเสร็จ
Vans เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกที่ ขายรองเท้าโดยตรงจากโรงงาน ทำให้ราคาย่อมเยาและคุณภาพเหนือคู่แข่ง
พื้นยางลาย waffle sole อันโด่งดัง ถูกคิดค้นขึ้นเพราะพอลอยากได้ “รองเท้าที่เกาะพื้นได้ดีจนขึ้นบอร์ดสเกตไม่ลื่น”
พอล แวน โดเรน เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2021 ด้วยวัย 90 ปี แต่แบรนด์ที่เขาก่อตั้งยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นตัวของตัวเองและจิตวิญญาณแห่งถนน
เจาะเวลาหาอดีต
แหล่งอ้างอิง
Vans Official History: www.vans.com
CR https://www.facebook.com/share/p/1JujmWnepb/?mibextid=wwXIfr