จากการที่ปัจจุบันมีการขโมยทรัพย์สินเงินทองผดส.บนเครื่องบินบ่อยๆ สงสัยว่าทำไมไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบนเครื่องบินสักที

จากการที่ปัจจุบันมีการขโมยทรัพย์สินเงินทองของผู้โดยสารในกระเป๋าในช่องเก็บของเหนือศีรษะบนเครื่องบินบ่อยๆ สงสัยว่าทำไมไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบนครื่องบินสักที
รถเมล์,รถไฟ ยังติดกันให้เกลื่อน

เคสตัวอย่างที่เคยจับได้

สืบท่องเที่ยวจับ 2 หนุ่มชาวจีนสุดแสบ ขโมยเงินผู้โดยสารหลับบนเครื่องบิน

สืบท่องเที่ยวสุวรรณภูมิจับ 2 ผู้ต้องหาชาวจีน ตระเวนลักทรัพย์เหยื่อขณะนอนหลับบนเครื่องบิน ตรวจสอบประวัติก่อเหตุสุดโชกโชน
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.อ.มนพร ลิขิตมานนท์ ผกก.3 บก.ทท.1 พ.ต.ท.มานะ บุญสม รอง ผกก.3 บก.ทท.1 พ.ต.ท.อภิรุ่ง เพียรมงคล รอง ผกก.3 บก.ทท.1 และ พ.ต.ท.เสกสันติ์ ฐิรเรืองรัตน์ สว.กก.3 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุม MR.HAN อายุ 54 ปี และ MR.WANG อายุ 46 ปี ทั้ง 2 มีสัญชาติจีน ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในอากาศยาน ” ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบิน แอร์ มาเก๊า (AIR MACAU) ว่าเกิดเหตุลักทรัพย์บนเครื่องบิน เที่ยวบินที่ NX996 โดยมีปลายทางมายังท่าอากาศยานสุววรรณภูมิ จึงเฝ้าติดตามกลุ่มบุคคลชาวจีนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบพบผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 2 ราย มีท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจสอบพบมีธนบัตรไทย จำนวน 80,000 บาทอยู่กับตัว

โดยมีผู้เสียหายรายแรก คือ MR.TANG อายุ 45 ปี สัญชาติจีน (มาเก๊า) แจ้งว่าในขณะที่เครื่องกำลังจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่าธนบัตรไทย จำนวน 30,000 บาท หายไป จากกระเป๋าเป้ที่ใส่ไว้ที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะตน โดยมีผู้โดยสารชาวอเมริกันเป็นพยาน ให้การว่า เห็นคนจีนเข้าไปค้นกระเป๋าเป้ของผู้เสียหาย จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สายการบินทราบ เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นว่า เจ้าหน้าที่เริ่มสงสัย จึงได้นำเงินธนบัตรไทย จำนวน 30,000 บาท ใส่ไว้ในถุงพลาสติก แล้วโยนทิ้งลงบนพื้นเครื่องบินและพยายามพูดกับเจ้าหน้าที่สายการบินว่า ขอไม่ให้แจ้งตำรวจ


ต่อมาผู้เสียหายรายที่ 2 คือ MISS DING อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ได้มาแจ้งกับตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ตนได้เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวเช่นกัน และ เมื่อเดินทางไปถึงโรมแรมที่พักปรากฎว่า กระเป๋ามีร่องรอยถูกเปิดค้น โดยทรัพย์สินในกระเป๋าเป็นธนบัตรไทย จำนวน 50,000 บาท ได้หายไป จึงรีบเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อแจ้งตำรวจท่องเที่ยว เนื่องจากก่อนที่จะลงจากเครื่องบินพบว่ามีการแจ้งว่า เกิดเหตุลักทรัพย์บนเที่ยวบินดังกล่าว

จากการสอบถาม MISS DING ยืนยันว่า หนึ่งในสองของผู้ก่อเหตุ นั่งอยู่ข้างกับตนบนเครื่องบินลำดังกล่าว ทางตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นตัวและสัมภาระโดยละเอียด จนกระทั้งพบเงินสดของกลาง 50,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในตัวของผู้ก่อเหตุจริง

สอบสวนผู้ก่อเหตุทั้งสองคนยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบประวัติบุคคลของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย พบว่าอยู่ในรายชื่อของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุลักทรัพย์บนเครื่องบิน อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังที่ต้องติดตามพฤติกรรม ทางชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด

เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย มาดำเนินคดีโดยแจ้งข้อกล่าวหา และได้ทำการสอบปากคำพยานบนเครื่องบินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำทรัพย์สินที่ถูกลักมาทั้งหมด ส่งคืนให้นักท่องเที่ยวผู้เสียหายต่อไป.

จาก : https://www.dailynews.co.th/news/4595155/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่