เปิดโผ 4 กลุ่มหุ้นโดดรับอานิสงส์ BOI อนุมัติ 4 โปรเจ็กต์ Data Center มูลค่าแสนล้าน

KEY POINTS
บอร์ด BOI อนุมัติ 4 โครงการ Data Center ขนาดใหญ่ มูลค่าการลงทุนรวมเกือบ 1 แสนล้านบาท เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล

นักวิเคราะห์ประเมินว่าการลงทุนดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อ 4 กลุ่มหุ้นหลักที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง

กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STECON, INSET), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM), กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE) และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (WHA, AMATA, NNCL)

จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้อนุมัติโครงการลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ จำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนเกือบ 1 แสนล้านบาท เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค และสร้างความมั่นคงทางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ประกอบด้วย

บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุน 7,550 ล้านบาท 
บริษัท วิสตัส เทคโนโลยี จำกัด เงินลงทุน 9,091 ล้านบาท 
บริษัท เน็กซ์เจน ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด เงินลงทุน 26,720 ล้านบาท 
บริษัท ซีนิท ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด เงินลงทุน 54,853 ล้านบาท 

นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า จากประเด็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี (Infra Tech) ที่ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อนุมัติโครงการ Data Center ขนาดใหญ่ 4 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมเกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนจาก 4 บริษัทดังกล่าว ส่งผลให้สิ้นปี 2568 มีเม็ดเงินที่อนุมัติธุรกิจดิจิทัลมหาศาลทะลุ 7 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ประเมินกำลังให้บริการส่วนเพิ่มอีกราว 300 - 400 เมกะวัตต์ (MW) คาดหนุนกำลังให้บริการ Data Center ไทยปัจจุบันจากที่มีราว 200 - 300 MW หากรวมกลุ่มที่ประกาศลงทุนแล้ว และอนุมัติ BOI ล่าสุด มีโอกาสเห็นกาลังให้บริการใน 4 - 5 ปีข้างหน้าระดับไม่น้อยกว่า 3,500 MW โดยประมาณ
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทางฝ่ายมองว่าเป็นบวกต่อหุ้นที่มี โอกาสได้ประโยชน์ อาทิ

รับเหมาก่อสร้าง STECON-INSET
หุ้นโรงไฟฟ้า GULF-BGRIM
หุ้นสื่อสาร ADVANC-TRUE
หุ้นนิคม (ขายที่ดิน) WHA-AMATA-NNCL (เก็งกำไร) ซึ่งเน็กซ์เจนฯ และซีนิทฯ ประกาศลงทุนพื้นที่นิคมนวนคร

อย่างไรก็ตาม ทางบอร์ด BOI ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนกิจการ Data Center เพื่อกระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับบุคลากรไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแนวโน้มการลงทุนด้านเทคโนโลยี AI และบริการคลาวด์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก

โดยได้ปรับสิทธิประโยชน์ให้การลงทุนในพื้นที่ EEC ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 - 5 ปี และนอกพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 - 8 ปี ภายใต้เงื่อนไขเพิ่มเติมว่าการจ้างงานในตำแหน่งผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญจะต้องมีบุคลากรไทยไม่น้อยกว่า 50% ภายในเวลา 3 ปี รวมถึงเพื่อเป็นกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

การปรับเงื่อนไขส่งเสริม Data Center ครั้งนี้ มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีขั้นสูง การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการจ้างงานและการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบุคลากรไทย

ด้วยเล็งเห็นว่าการส่งเสริม Data Center ยังมีความสำคัญต่อการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล กระตุ้นการพัฒนา AIและ Data Industry การให้บริการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งสนับสนุนให้ไทยมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่